- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 January 2016 16:25
- Hits: 895
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
จับตาตัวเลข GDP จีน
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ปัจจัยภายในไม่เด่นชัดว่าจะเป็นบวก และจุดสนใจของนักลงทุนวันนี้อยู่ที่ตัวเลข GDP จีน ซึ่งมองกันว่าจะไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ข่าวการที่ผู้ชนะประมูล 4G คลื่น 900 MHz ยังไม่อาจจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกได้ถือเป็นข่าวลบ ข่าวกำหนดการส่งแผนกลยุทธปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจก็ไม่ได้เป็นข่าวบวก
หุ้นเด่นวันนี้ : CKP (ราคาปิด 2.12 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 3.25 บาท)
เราเลือก บมจ. ซีเค พาวเวอร์ เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ โดยเรามองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงด้วยความกังวลที่มากเกินไปต่อสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้กระทบกับ CKP เท่าที่ตลาดกังวลอยู่ในปัจจุบัน และนับว่าสวนทางกับศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของบริษัทฯ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าสถานการณ์กำลังฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นและออสเตรเลียล่าสุดรายงานว่าปรากฎการณ์ El Nino ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อเดือน พ.ย. และ ธ.ค. และมีความเป็นไปได้สูงว่าในช่วงฤดูร้อนนี้จะกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ขณะที่ในส่วนของโรงไฟฟ้าน้ำงึม (615 เมกะวัตต์) ของ CKP เองพบว่าในพื้นที่ทางตอนเหนือของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าไม่ได้รับผลจากภัยแล้งมากเท่ากับที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กลับกันปริมาณน้ำฝนไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเริ่มกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว ประวัติข้อมูลย้อนหลัง 50 ปีสำหรับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ดังกล่าวยังช่วยสะท้อนมุมมองในเรื่องนี้ ขณะที่ CKP ยังคงเดินหน้าตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในมือกว่า 1,560 เมกะวัตต์ที่จะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2563 โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (1,280 เมกะวัตต์) เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ซึ่งเราคาดจะส่งผลให้กำไนสุทธิของ CKP ทำ New high อย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตทบต้นต่อปีเฉลี่ย (CAGR) ที่ 31% แตะระดับ 2.0 พันลบ. ในปีสูงสุด ราคาหุ้นปัจจุบันมีความน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ระดับ PBV ต่ำกว่า 1.0 เท่า ต่ำกว่าหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในกลุ่มซึ่งซื้อล้วนขายที่ระดับสูงกว่ามูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นทั้งสิ้น ซึ่งเราเชื่อว่าหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตเช่นนี้อย่างน้อยที่สุดควรที่จะซื้อขายในระดับเดียวกับกลุ่ม
ในส่วนของ Price Pattern ของ CKP เกิดสัญญาณการฟื้นตัวในระยะสั้นจาก 1) การกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และ 2) เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งกันระหว่างราคากับ Indicator อย่าง RSI เมื่อประกอบกับการที่ Price Pattern ของ CKP ได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 ซึ่งนับเป็นเวลาราว 14 เดือนแล้ว การกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ของ CKP จึงน่าจะสามารถ Rebound ได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่า Price Pattern ของ CKP ยังอาจถูกดันจากการเกิดทั้ง Weekly & Monthly Sell Signal อยู่ก็ตาม โดย CKP มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 2.38 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 2.68 บาท โดยมีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 1.88 บาท (แนวต้าน: 2.18, 2.26, 2.38; แนวรับ: 2.08, 2.00, 1.88)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กำหนดยื่นแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจหลักในเดือน มี.ค.นี้ รัฐวิสาหกิจเจ็ดแห่งได้แก่ การบินไทย, การรถไฟแห่งประเทศไทย, การรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย, ธนาคาร SME ธนาคารอิสลาม ทีโอทีและ กสท โทรคมนาคม ได้ถูกกำหนดให้ส่งแผนฟื้นฟูกิจการที่แก้ไขแล้วอีกครั้งในเดือน มี.ค. หลังกลยุทธ์เมื่อปีก่อนยังไม่เพียงพอพลิกฟื้นกิจการได้ (Bangkok Post)
แบงค์ชาติคาดอัตราเงินเฟ้อใกล้เคียงเป้าหมาย ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.8% และ 0.9% ตามลำดับ เทียบกับเป้าหมายปี 59 ที่ 2.5% บวกลบ 1.5% (Bangkok Post) ความเห็น: รมว. กระทรวงพาณิชย์คาดเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 1-2% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งแบงค์ชาติและกระทรวงพาณิชย์ได้รวมการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวไว้แล้วแม้จะยังมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่
ผู้ชนะการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ต้องการเวลาส่วนหนึ่งในการผ่อนชำระค่าใบอนุญาต เนื่องจากธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อกำหนดกรอบเงื่อนไขที่เข้มงวดมากขึ้นในเรื่องดังกล่าว ซึ่งความล่าช้าในการชำระค่าใบอนุญาตดังกล่าวส่งผลให้การเปิดตัว 4G ในเชิงพาณิชย์ต้องเลื่อนออกไป (Bangkok Post) ความเห็น: ประเด็นดังกล่าวจะช่วยให้ ADVANC (145.50 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 199.00 บาท) มีเวลามากขึ้นในการโอนลูกค้าเก่า 2G คลื่น 900 MHz มาที่คลื่น 1,800 MHz
เกณฑ์การเช่าพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบรรลุข้อตกลงแล้ว คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดำรงตำแหน่งประธานโดยนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้อนุมัติและกำหนดค่าเช่าและเกณฑ์ต่างๆสำหรับสิทธ์ในพื้นที่ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 24,000-40,000 บาทต่อไร่ และจะขึ้น 15% ทุกๆ 5 ปี (The Nation)
KKP (37.75 บ.) รายงานผลประกอบการประจำปี 58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.3 พันลบ. หรือ เพิ่มขึ้น 21.3% YoY แม้ว่าสินเชื่อรวมจะลดลง 3.6% YoY โดยหลักมาจากการลดลงของสินเชื่อเช่าซื้อ แต่กำไรจากดอกเบี้ยสุทธิยังเพิ่มขึ้น 6% เป็นผลจากการเพิ่มของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจาก 3.9% ในปี 57 เป็น 4.5% ในปี 58 ขณะที่ ผลกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 เติบโต 6.2% QoQ และ 90.9% YoY เป็น 980 พันลบ. จากการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรบนสินเชื่อจากการลดลงของต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายสำรองหนี้เสีย ความเห็น: ผลกำไรสอดคล้องกับประมาณการตามบลูมเบริ์กที่ 3.0 พันลบ.
ICHI (12.20 บ.) บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป ตั้งเป้ารายได้เติบโต 17% ในปีนี้เป็น 7.5 พันลบ. โดยจะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ใหม่, บรรจุภัณฑ์ และราคาที่สอดคล้องกับการสื่อสารทางการตลาด บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนประมาณ 900 ลบ. หรือประมาณ 12% ของยอดขายประมาณการสำหรับงบการตลาด และในไตรมาสหน้า บริษัทมีแผนเข้าสู่ตลาดน้ำผลไม้ 100% โดยใช้แบรนด์บาร์เลย์แข่งขันกับแบรนด์น้ำผลไม้ทิปโก้และมาลี (The Nation)
ต่างประเทศ
ประเด็นที่จับตามองในวันนี้เกี่ยวกับข้อมูลจากจีน ตลาดจะประเมินตัวเลขจีดีพีของจีนซึ่งมีกำหนดประกาศในเวลา 0200 GMT เพื่อดูว่าจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายไตรมาสอ่อนแอที่สุดในรอบเกือบ 7 ปีตามที่คาดการณ์หรือไม่ คาดว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีจีนจะชะลอตัวอยู่ที่ 6.8% YoY ลดลงจาก 3.9% ในไตรมาส 3/58 และอ่อนแอที่สุดนับแต่ต้นปี 2009 จากผลสำรวจของรอยเตอร์ อัตราการเติบโตทั้งปี 2015 คาดว่าจะอยู่ที่ 6.9% นักลงทุนจะจับตาดูตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนและตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่อีกด้วย (รอยเตอร์)
ราคาน้ำมันดิบยังคงตกต่ำจากการยกเลิกมาตรการแทรกแซงอิหร่าน เพื่อตอบรับกับที่อิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการหยุดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐอเมริกาและประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ได้ยกเลิกการคว่ำบาตรซึ่งลดปริมาณการส่งออกน้ำมันประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรก่อนหน้าในปี 2011 ให้ลดปริมาณน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (รอยเตอร์)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องจากเป็นวันมาร์ติน ลูเธอร์คิง (รอยเตอร์)
ยุโรป :
ข่าวธนาคารในยุโรปมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ หลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบีกำลังตรวจสอบหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารจำนวนมาก ส่งผลให้ดัชนีหลัก ๆ กลับไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี (รอยเตอร์)
เอเชีย :
BOJ เชื่อยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่สดใสช่วยหนุนมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทญี่ปุ่น และช่วยชดเชยกับกระชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้บางส่วน นอกจากนี้ในรายงานประจำไตรมาสสำหรับเศรษฐกิจในภูมิภาคญี่ปุ่นพบว่า BOJ ประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น “กำลังฟื้นตัวอย่างพอสมควร” (Reuters)
ราคาบ้านใหม่ในจีนปรับตัวสูงขึ้น 7.7% YoY ในเดือน ธ.ค. หลังจากที่ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 13 เดือนก่อนหน้านี้ แต่ทั้งนี้เป็นพียงราคาบ้านในเมืองใหญ่ของจีนที่สูงขึ้นเท่านั้น อาทิ เซินเจิ้นตอนใต้ (+47%) เซี่ยงไฮ้ (15.5%) และปักกิ่ง (+8%) และเป็นเพียงการเก็บข้อมูลผลการสำรวจเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลาง 70 แห่ง ขณะที่เมืองเล็กๆ ส่วนที่เหลือยังคงซบเซา (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลงสู่งระดับต่ำสุดเมื่อปี 2546 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 28 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล จากแรงกดดันที่อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันได้อีกครั้งหลังจากยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเบื้องต้นมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิต 500,00 บาร์เรลต่อวัน โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 0.29 ดอลลาร์ฯ มาอยู่ที่ 28.64 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.48 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 28.94 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล หลังจากในช่วงสัปดาห์นี้ได้ลดลงไปถึงระดับ 29.93 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี (Reuters)
ราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ทรงตัวท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในวันหยุดของสหรัฐฯ โดยราคาทองคำตลาดจรเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยปิดตล่าดที่ 1,088.87 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับตัวลดลง 1.6 ดอลลาร์ฯ มาอยู่ที่ 1,089.10 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331