WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

'ระยะสั้นมากยังอ่อนแอ'
Stock Picks-Jan 2016 : Fundamental : ANAN, AOT, BTSGIF, CPN, GL และ Dark Horse เป็น CK
Fundamental Pick -Today: TMT ดูรายละเอียดด้านใน
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, DTAC, INTUCH, DCC, AP, LPN, QH, SPALI, MODERN, QTC, SNC, TCAP, TMT, BTSGIF, DIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : TDEX 65%, RATCH 28%, BLAND 25%, AP 23%, AIT 21%

Technical View ภาพตลาดเป็นลบ แต่อาจมีรีบาวด์หลังปรับลงแรงได้
Support Resistance Stop Loss
SET 1200+/- 1250-1260,1270 หลุด 1240
SET50 750-740 780-790,800 หลุด 770
Technical Picks- Today : THANI, DCC, DEMCO, SCI, CHG, TNH, BH, JWD

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
    ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นยังอยู่ในความผันผวน ระยะสั้นมากพลิกมาอยู่ใน Sentiment ที่เป็นลบอีกรอบหลังตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐร่วงลงแรง เพราะราคาน้ำมันดิ่งลงต่อจนหลุด 30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเนื่องจากวิตกอุปทานสูง (สหรัฐ & อียู ยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านหลัง IAEA ประกาศรับรองว่าอิหร่านยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ แต่สหรัฐกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งหลังผ่านไปเพียง 1 วันซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีของอิหร่าน)
    ราคาน้ำมันที่ตกต่ำกดดันเศรษฐกิจประเทศในกลุ่มโอเปก (ประเทศเวเนซูเอล่าประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ) และความเสี่ยงการผิดชำระหนี้ของบริษัทผู้ผลิตและสำรวจก๊าซและน้ำมันเพิ่มขึ้น (เป็นลบต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการลงทุนและผู้ถือตราสารหนี้ของบริษัทผลิตและสำรวจน้ำมัน) ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค.2015 อ่อนแอลงในหลายรายการ (ทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรม & การใช้กำลังการผลิต, ยอดค้าปลีก, ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม, สต็อกสินค้าคงคลัง และดัชนี PPI ที่ยังลดลงต่อ MoM) รวมทั้งเศรษฐกิจจีนเติบโตชะลอตัวลง กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงจากภัยก่อการร้ายก็สูงขึ้นด้วย ดังนั้นแม้ว่าจะผ่อนคลายจากการที่เฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว แต่ความกังวลกับปัจจัยลบดังกล่าวข้างต้นกดดันมากกว่า กลยุทธ์ : Selective Play หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น TMT
     วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ แต่มีลุ้นรีบาวด์หลังการอ่อนตัวลงแรง แนวต้านระยะสั้น 1250-1260, 1270 จุด ค่าลบดูไม่ดี หลุด 1240 จุดให้ลดพอร์ตตาม หรือตัดขายขาดทุน (Stop loss) เพราะมีโอกาสลงไปที่แนวรับ 1200+/- จุด ส่วนการ SCAN หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสปรับขึ้นในระยะสั้น เราพบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น TNH, CHG, BH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List และหาจังหวะขายทำกำไรจังหวะราคาปรับขึ้น คือ IRPC, LPH, VNG, LIT

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- เวเนซูเอล่า : ประธานาธิบดีมาดูโล แห่งเวเนซุเอล่าประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก โดยเวเนซุเอลาเป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มโอเปกที่กำลังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลงมาก
- จีน : ธนาคารกลางจีนเปิดเผยยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนในเดือนธ.ค.2015 ลดลง เป็น 5.978 แสนล้านหยวนจาก 7.089 แสนล้านหยวนในเดือนพ.ย.
- สหรัฐ : การผลิตและการบริโภคเดือนธ.ค.ชะลอตัวลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.2015 ลดลง 0.4% โดยร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากผลกระทบของราคาน้ำมันดิ่งและสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่าปกติ อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวลงสู่ 76.5% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ส่วนยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 4.481 แสนล้านดอลลาร์ และดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนธ.ค.หดตัวเป็นเดือนที่ 6 เพราะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, การใช้จ่ายทุนลดลง และอุปสงค์โลกอ่อนแอ
- สหรัฐ : เงินเฟ้อด้านต้นทุนยังลดลงและสต็อกสินค้าต่ำ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.2%MoM ในเดือนธ.ค. ด้านสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย.2015 หลังปรับลดลง 0.1%MoM ในเดือนต.ค.ซึ่งสต็อกที่ลดลงจะฉุดการเติบโตจีดีพี 4Q15 ของสหรัฐ (ล่าสุด JPM ปรับลดคาดการณ์การเติบโตจีดีพีสหรัฐ 4Q15 ลงเหลือเพียง 0.1%)
สหรัฐ : คาดว่าเฟดยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 26-27 ม.ค.2016 แต่มีโอกาสขยับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม โอกาสความเป็นไปได้ก็ลดน้อยลงจากช่วงปลายปีก่อน เนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค.ชะลอตัวลงในหลายรายการและเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตได้น้อยกว่าที่เคยประมาณการไว้ รวมถึงผลกระทบจากเงินดอลลาร์แข็งค่า และราคาน้ำมันตกต่ำ
ปัจจัยจับตาสัปดาห์นี้ : อังคาร - ทางการจีนจะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีประจำ 4Q15 ทาง DBS Group Research คาดการณ์ไว้ที่ 6.5%, พุธ - รายงานอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ คาดว่าจะยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างมากเพราะราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่อง, พฤหัสฯ - ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะยังไม่มีมาตรการใหม่และยังคงซื้อพันธบัตรตามโครงการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน
- ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงในวันศุกร์ ดัชนี DJIA ปิดตลาดวันศุกร์ร่วงลง 390.97 จุด หรือ -2.39% โดยหลักมาจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงหลุดระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลเพราะวิตกอุปทานน้ำมันในตลาดโลกสูง และคาดว่าแรงกดดันจะเพิ่มอีกถ้าอิหร่านเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมัน หุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และธนาคารนำตลาดร่วงลง
- ราคาน้ำมันดิบร่วงหลุด 30 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบก.พ.ร่วง 1.78 ดอลลาร์ หรือ -5.7% ปิดที่ 29.42 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบมี.ค.ลดลง 1.94 ดอลลาร์ หรือ -6.3% ปิดที่ 28.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดันคือ อุปทานน้ำมันดิบที่สูงและอิหร่านอาจส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มอีก
สหรัฐ & อียูยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านกรณีพัฒนานิวเคลียร์ สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ประกาศรับรองว่าอิหร่านได้ยุติโครงการนิวเคลียร์แล้ว ทางสหรัฐ & อียู ประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน
+ แต่...สหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่หลังยกเลิกไป 1 วัน ซึ่งครั้งนี้เกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธนำวิถีของอิหร่าน ซึ่งอาจทำให้อิหร่านจะยังส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มไม่ได้
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบก.พ. +17.1 ดอลลาร์ (+1.59%) ปิด 1,090.70 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนกลับเข้ามายังสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงหลังดัชนีตลาดหุ้นและราคาน้ำมันดิบร่วงรุนแรง

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
- กลุ่มพลังงาน : คาดว่าผลประกอบการ 1Q16 จะอ่อนแอต่อ โดยราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อจนหลุด 30 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำให้มีผลขาดทุนในสต็อกจำนวนมาก และบริษัทผลิตและสำรวจฯ (PTTEP, PTT ซึ่งเป็นบริษัทแม่) อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์และเงินลงทุนลงอีกรอบเพื่อให้สะท้อนราคาก๊าซและน้ำมันดิบที่ลดลง
/- กลุ่มธนาคารพาณิชย์ & ประกันภัย : ร่างกฎกระทรวงปลดล็อกธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจประกันภัยออกจากบัญชี 3 ท้ายพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าวผ่านกฤษฎีกาแล้ว เตรียมจะเสนอให้ครม.พิจารณาเพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการ...เมื่อผ่านแล้วต่างชาติจะเข้ามาประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจสำนักงานตัวแทนธนาคาร ธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันวินาศภัยในไทยได้โดยไม่ต้องขออนุญาตต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอีกต่อไป


ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : การแข่งขันในธุรกิจการเงินจะรุนแรงขึ้น แต่ก็จะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมพัฒนารวดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน ธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกันต่างเร่งลงทุนปรับโครงสร้างและระบบภายในเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้สัดส่วน Cost-to-income ของหลายธนาคารขยับขึ้นในปี 2016-2017 นับว่าช่วง 1-2 ปีนี้ธุรกิจธนาคารพาณิชย์จะเติบโตไม่มากเพราะเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัว ความจำเป็นในการตั้งสำรองค่าเผื่อฯสูงยังมีอยู่ และต้องลงทุนปรับโครงสร้างภายในเพื่อรองรับการแข่งขันจากธนาคารต่างชาติด้วย เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มจะเติบโตไม่มากโดยเฉพาะในปี 2016 การลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จึงควรถอยรับเป็น Step (ซื้อสะสมจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว) หุ้น Top pick ของฝ่ายวิจัยฯ DBSV คือ KBANK รองลงมาเป็น TCAP


TMT (ราคาปิด 8.65 บาท, ราคาพื้นฐาน 10.70 บาท) : การเติบโตปี 2016 จะมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายเป็นหลัก หากพิจารณาจากโมเมนตัมในการขายของบริษัทใน 3Q15-4Q15 แล้วเราคาดว่ามีโอกาสสูงที่ในปี 2016 จะมีปริมาณขายเพิ่มขึ้นได้ โดยใน 3Q15 มีปริมาณขาย 1.42 แสนตัน ส่วน 4Q15 คาดไว้ที่ 1.4 แสนตัน สำหรับปี 2016 ประมาณการไว้ที่ 6.17 แสนตัน เพิ่มขึ้น 10% (อนุรักษ์นิยมกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 15%) กลุ่มลูกค้าที่คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1) กลุ่มดีลเลอร์ ที่ผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตอบรับกับการให้บริการครบวงจรของ TMT, 2) กลุ่มก่อสร้าง ซึ่งในปี 2016 จะมีงานก่อสร้างมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นงานต่อขยาย (เช่น โรงไฟฟ้า, โรงงานน้ำตาล, อาคารภาครัฐ, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย, โรงโม่หิน - รองรับโครงการรถไฟทางคู่, โรงงานต่อรถบรรทุก เป็นต้น), 3) กลุ่มอุปกรณ์และเครื่องจักรกลการเกษตร และ 4) กลุ่มยานยนต์ที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรกจางลง


คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2016 เติบโต 17% เป็น 359 ล้านบาท (EPS : 0.82 บาท) จากที่ลดลง 8% ในปี 2015 แนะนำซื้อลงทุน สำหรับปี 2015-2016 คาดการณ์เงินปันผลไว้ที่ 0.60 และ 0.70 บาท/หุ้น (ให้สมมติฐาน Payout Ratio 85% เท่ากับปี 2014) โดยจ่ายปีละ 1 ครั้ง กำหนด XD จะเป็นช่วงต้นเดือนมี.ค.ของทุกปี ณ ราคา 8.65 บาท คิดเป็น Dividend Yield ปี 2015-2016 เท่ากับ 6.9% และ 8.1% ตามลำดับ แนะนำซื้อลงทุน ให้ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานปี 2016 ไว้ที่ 10.70 บาท
นักกลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!