- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 January 2016 17:13
- Hits: 1756
บล.ทรีนีตี้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> AAV, BDMS, HFT, ILINK
Stock S R Comment
AAV 5.75 6.00 อานิสงส์รับทัวร์จีน ช่วงตรุษจีน
BDMS 21.50 22.30 Medical Hub of AEC
HFT 5.25 5.70 อานิสงส์ราคายางลง
ILINK 17.40 18.20 ICT เดินหน้าอินเตอร์เน็ตเข้าหมู่บ้าน ครบ 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศ
A brighter day but tail risks still in play
Sentiment ทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนเข้าแทรกแซงในตลาด Offshore โดยการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนเพื่อปกป้องค่าเงินดังกล่าว และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างอัตราดอกเบี้ย Onshore กับ Offshore จากปัจจัยดังกล่าวทำให้สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวดีขึ้นในวันนี้
Commodity rout : ดัชนี Bloomberg commodity index ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆปรับตัวสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการจัดตั้งข้อมูลดังกล่าวในปี 1991 หลังจากตลาดกังวลกับภาวะอุปสงค์หดตัวโดยเฉพาะจากประเทศจีน และสกุลเงิน USD ที่มีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่า
มุมมองของเรา : Theme การลงทุนในบริษัทที่เป็น Commodity users เป็น Theme ที่เราแนะนำมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้วซึ่งคาดว่าน่าจะ Outperform ต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มีต้นทุนอิงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับจีนเป็นหลัก อาทิ ทองแดง ยางพารา น้ำมันดิบ แนะนำโฟกัสหุ้นกลุ่มดังกล่าวต่อไป อาทิ KKC, HFT, BCP, IRPC, TOP, EPG, TASCO
Tail risk : ปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดได้แก่ฐานะการเงินของประเทศซาอุดิอาระเบีย ล่าสุดระดับ CDS ของซาอุฯปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา โดยความกังวลของเรายังคงได้แก่ความเป็นไปได้ที่ซาอุฯอาจยกเลิกการตรึงค่าเงินของตนกับ USD เพื่อพยุง Reserves ของตนเอง ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในรูป USD ปรับตัวลงได้อีก นอกจากนั้นราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดปัญหา Credit risk และ Default risk ในผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัท Oil & Gas ต่างๆจนทำให้เกิดความปั่นป่วนในระบบการเงินได้เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Rebound ต่อในวันนี้ตามตลาดหุ้นทั่วโลก จะมีก็แต่เพียงกลุ่ม Upstream ใน Sector พลังงานที่อาจถูกกดดันต่อตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง (PTTEP, PTT) ยังคงมองกลุ่มหุ้นที่ยังจะสามารถ Outperform ตลาดได้แก่
1) กลุ่ม Infrastructure ซึ่งเป็นธีมการลงทุนทั่วโลก ณ ขณะนี้ เนื่องจากนโยบายการเงินของหลายประเทศรวมถึงไทยเริ่มหมดกระสุนแล้ว จึงต้องหันมาใช้นโยบายการคลังแทน Top pick: BEM, CK
2) กลุ่ม Consumers ในประเทศ ปลอดภัยจากปัจจัยภายนอก และเตรียมได้อานิสงส์จากการปฏิรูปโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาในประเทศ อาทิ กลุ่มค้าปลีก (ROBINS, HMPRO) และกลุ่ม Discretionary (COM7, BIG, KAMART, BEAUTY, MC)
3) หุ้น High dividend yield ซึ่งมักจะ Outperform ได้ดีในช่วง 1-2 เดือนแรกของทุกปี ได้แก่ ASP, KGI, ASK, THANI, AP, LPN, QH, SC, SIRI, SPALI, AIT, INTUCH, BJCHI, STPI, TKS, TOG
4) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท ได้แก่ KCE, DELTA, SVI, CPF, TU, GFPT
5) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคา Commodity ขาลง ได้แก่ KKC, HFT, BCP, IRPC, TOP, EPG, TASCO
แนวรับ 1,239 แนวต้าน 1,271
บทวิเคราะห์วันนี้
DTAC (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 47.80 บาท) คาดผลดำเนินงานดีขึ้น ราคาสะท้อนข่าวร้ายไปหมดแล้ว
Stock Comment: SCC: คาด 4Q58 เติบโต กำไรปี 58 ทำ New High ปี 59 เน้นเติบโตจากกลยุทธ์ Regional & HVA
Today's Event
AIRA ลูกหุ้นเข้า 18,939,162 หุ้น
BWG ลูกหุ้นเข้า 282,764 หุ้น
FPI ลูกหุ้นเข้า 440,075 หุ้น
NFC ลูกหุ้นเข้า 2,125,000,000 หุ้น
MFC ลูกหุ้นเข้า 138,350 หุ้น
SCB ลูกหุ้นเข้า 1,950 หุ้น
ROJNA ลูกหุ้นเข้า 1,172,802 หุ้น
TGRPO ลูกหุ้นเข้า 1,860 หุ้น
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]