- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 January 2016 17:04
- Hits: 1315
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1280-1284
SET lndex: 1272.76 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1260-1265 จุด ทำให้เกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1280-1284 จุด แต่โครงสร้างในระยะยาว น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วที่บริเวณ 1220 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับที่ 1260-1265 จุดเป็นแนวรับสำคัญ และมีเป้าหมายในการฟื้นตัวขึ้นไปที่ 1380-1400 จุด
แนวต้าน : 1277 และ 1280
แนวรับ : 1270 และ 1265
KBANK = 160 / 164, ADVANC = 148 / 150, SCB = 123 / 125, PTT = 217 / 220, KTB = 16.80 / 17.20
Samart I-Mobile (SIM TB; THB 1.32) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.45 และ 1.55
แนวรับ : 1.32 และ 1.30
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SIM โดยมีแนวรับที่ 1.32 และ 1.30 และมีแนวต้านที่ 1.45 และ 1.55 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.27 ลงไป
Scan Inter (SCN TB; THB 6.80) - ซื้อ
แนวต้าน : 7.50 และ 8.00
แนวรับ : 6.80 และ 6.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ ในขณะที่โครงสร้างในระยาวน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับไปทดสอบแนวต้านที่ 10.00
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 40
แนะนำซื้อ SCN โดยมีแนวรับที่ 6.80 และ 6.70 และมีแนวต้านที่ 7.50 และ 8.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.65 ลงไป
SET50 Index Futures
S50H16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 770 ขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 790-794 ซึ่งเป็นแนวรับของกรอบแนวโน้มด้านข้างในระยะยาว ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ต่อเนื่อง จะมีแนวต้านถัดไปที่ 815
แนวต้าน : 790 และ 793
แนวรับ : 784 และ 780
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Long ใน S50H16 ต่อเนื่อง โดยมีแนวรับ 780 และ 770 และมีแนวต้านที่ 790-793 เป็นจังหวะขายทำกำไรสถานะ Long
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50H16 ปรับตัวลดลงหลุด 768 ลงไป
ITDH16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 6.90 กลับขึ้นไป ซึ่งเรากำหนดให้แนวรับที่ 6.86 เป็นจุด STOP LOSS สถานะ Long ออกไปแล้ว แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 7.00 กลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.50 และ 7.80
แนวต้าน : 7.20 และ 7.30
แนวรับ : 7.10 และ 7.00**
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน ITDH16 ที่แนวรับ 7.10 และ 7.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.50 และ 7.80
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDH16 ปรับตัวลดลงหลุด 6.90 ลงไป
KTBH16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 17.00 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านที่ 16.00 กลับขึ้นมาได้ แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างการเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาลง จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 17.30-17.35 มีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร
แนวต้าน : 17.20 และ 17.30
แนวรับ : 17.00 และ 16.90
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Long ใน KTBH16 ที่แนวต้าน 17.20-17.30 เนื่องจากเป็นแนวต้านสำคัญ และมีแนวรับที่ 16.80 เป็นจังหวะ Long
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า KTBH16 ปรับตัวลดลงหลุด 16.40 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ดีดตัวขึ้นต่อ
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังลงไปสร้างสถิติต่ำสุดในรอบ 12 ปีที่ต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แล้วสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ หลังมีปัจจัยหนุนอย่าง การเกิดระเบิดในตุรกี, 2 ประเทศสมาชิก OPEC เรียกร้องให้มีการจัดประชุมด่วน และ ตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันในสหรัฐลดลงต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันในตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นขาลงเต็มตัว เพียงแต่จะลงไปเท่าไร ซึ่งตอนนี้หากหลุด 30 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็คงต้องดูที่ประมาณ 28 และ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประเด็นของราคาน้ำมันในช่วงนี้มีผลโดยตรงกับดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก คือ หากราคาน้ำมันยังดิ่งลง หุ้นโลกจะลงตาม และทางตรงข้าม หากหยุดลง หุ้นโลกจะรีบาวน์กลับ เช่นกัน
จากรูปด้านซ้าย เราแสดงราคาน้ำมันเบนรท์ เทียบกับหุ้นพลังงานของสหรัฐใน S&P 500 พบว่า ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงสร้างสถิติต่ำสุดรอบใหม่ ไม่ได้ทำให้หุ้นพลังงานของสหรัฐ มี Low ใหม่ สะท้อนผลของการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ส่งผลต่อหุ้นพลังงานของสหรัฐไม่มาก ตรงข้ามกับกลุ่มพลังงานในทั่วโลก (จากรูปด้านขวา) ซึ่งตอนนี้กำลังลงไปสร้างสถิติต่ำสุดรอบใหม่ หลังจากที่ลงรอบแรกในปี 2008 ดังนั้นการดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ ส่งผลอย่างมากกับกลุ่มพลังงานทั่วโลก
ราคาน้ำมันที่ยังเทรดกันบริเวณ 30+/- ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ยังสุ่มเสี่ยงทั้ง 2 ด้านคือ ปรับตัวลงต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและดีดตัวกลับ ซึ่งยังต้องรอปัจจัยใหม่ๆทั้งเชิงบวกและลบ โดยราคาน้ำมันในระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นแนวรับทางจิตวิทยาสำคัญ เนื่องจากในระดับดังกล่าวบรรดานักเก็งกำไรมีการเทเม็ดเงินเข้าเล่น put option ที่จะหมดอายุในเดือน ก.พ. และ มี.ค.จำนวนมาก อย่างไรก็ตามการที่ราคาน้ำมันจะหลุดแนวรับสำคัญๆ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาสักพัก อย่างแนวรับที่ผ่านมาคือ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือแม้แต่ 40 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ สำหรับประเด็นที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงไปอีกในตอนนี้คือ แนวโน้มที่อิหร่านจะส่งออกน้ำมันในเดือน ก.พ. การแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์และราคาน้ำมันชี้นำในแคนาดา
ทิศทางตลาดหุ้นโลกและเอเชียในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์ เรามองยังสามารถดีดกลับกลับได้อีกสักพัก หลังปรับตัวลงแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจาก 1. ยังอยู่ในช่วงขายมากเกินไป 2. ราคาน้ำมันเริ่มทรงๆ ตัวและยังไม่หลุด 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 3. ปัจจัยกดดันจากจีน ตลาดเริ่มรับทราบข่าวและ 4. กำลังเข้าสู่ช่วงเก็งกำไรงบ Q4/15
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทย ก็คงไม่ต่างจากภูมิภาค คือ จะยังสามารถรีบาวน์ได้ต่อ จากปัจจัยกดดันจากต่างประเทศคลายตัวลง ต่างชาติเริ่มมีการซื้อคืนหุ้นไทย แรงซื้อเก็งงบ Q4/15 กลุ่มธนาคารพาณิชย์และความกังวลปัญหาการเมืองภายใน คลายตัวลง หลังรัฐบาลจะใช้งบทุ่มซื้อยางพารา โดยมองว่า หากดัชนี SET สามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 1270 ได้ จุดต่อไปคือ 1280 และ 1300+/- จุด
วันนี้มองดัชนีเปิดขึ้นมาจะปรับตัวขึ้น หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป ปรับตัวขึ้นแรง นอกจากนั้นเปิดขึ้นมาเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียก็ปรับตัวในแดนบวกทั้งสิ้น ส่วนการประกาศตัวเลขของจีนที่คาดจะออกมาไม่ดี จะไม่ส่งผลกับตลาดเพราะอยู่ในความคาดหมาย วันนี้มองแนวต้านที่ 1265-1270 จุด แนวรับที่ 1250-1245 จุด โดยเน้นเก็งกำไร TOP IRPC AAV และ TISCO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,272.76 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด (+1.39%) มูลค่าการซื้อขาย 29,979.35 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อ ตามตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งตลาดสหรัฐ และตลาดภูมิภาค โดยมีแรงหนุนหลังธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน ทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในตลาดฮ่องกงวานนี้ นักลงทุนมีมุมมองบวกว่าจะสามารถลดความผันผวนในตลาดเงินได้ บ้านเราเช้านี้มีแรงซื้อนำในกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย คาด SET มีโอกาสทดสอบแนวต้านแรก1275-1280 จุดจากการปรับขึ้นของ SET ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ตลาดมีแรงหนุนหลักจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร เรามองแรงซื้อขายของกลุ่มแบงก์ หากดัชนีกลุ่มแบงก์ไม่ผ่านระดับ 440 จุด คาดว่า ตลาดน่าจะปรับตัวลงก่อน นอกจากนี้หากมีแรงกดดันจากปัจจัยในต่างประเทศ และราคาน้ำมัน น่าจะส่งผลต่อภาพรวมตลาด ทางเทคนิคมองแนวต้าน 1280 จุด แนวรับ 1265 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Scan Inter (SCN TB; THB 6.80) - ซื้อ
Samart I-Mobile (SIM TB; THB 1.32) - ซื้อ
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : J*, JTS*, TKN* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]