WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน



SET เริ่มแกว่งบวกตามคาด เน้นถือต่อได้ แต่ไม่ควรไล่ซื้อบวก!

  กลยุทธ์ : SET เริ่มรีบาวด์ขึ้นได้ดี ทำให้คาดว่าดัชนียังอยู่ในช่วงแกว่งบวกขึ้นต่อได้ตามคาด ดังนั้นเน้นถือต่อเพื่อรอขายสูง แต่ปัจจัยลบกดดันตลาดยังมีอยู่มาก ต้องระวังการแกว่งผันผวนและย้อนลบ จึงยังไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคา
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : GUNKUL, ASEFA, TU(buy back)
  แนวโน้ม : SET วานนี้พลิกกลับมาบวกขึ้นแรงพอควรในภาคบ่าย หลังจากช่วงเช้าดัชนียังสามารถแกว่งทรงตัวแคบๆ ได้ดีต่อเนื่องจากช่วงบ่ายวันก่อนหน้า โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นเกือบจะทุกกลุ่มอีกครั้ง รวมทั้งกลุ่มพลังงานด้วยถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังปรับตัวลดลงต่อ ขณะที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ก็พลิกกลับมาดูดีด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่สามารถขยับปิดบวกมากกว่า 1% ได้ หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินหยวน โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ในตลาดหุ้นยุโรป และแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงานของตลาดหุ้นสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะยังมีแรงกดดันจากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงแตะระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีก็ตาม ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังขยับเปิดบวกต่อได้ดี ซึ่ง FSS คาดว่าจะช่วยหนุนแรงซื้อในตลาดหุ้นบ้านเราต่อเนื่องได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ยังอ่อนแออยู่ น่าจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานในบ้านเรา และทำให้ SET มีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและอ่อนตัวเป็นระยะได้ รวมทั้งคาดว่านักลงทุนคงรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อใช้คาดการณ์ท่าทีของเฟดในการประชุมปลายเดือนนี้ด้วย

  แนวรับ 1252-1250 , 1246-1244 จุด
  แนวต้าน 1258-1262 , 1267-1270 จุด

      Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$222ล้าน ส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้และไต้หวัน US$154.1 และ US$81.6ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ไหลเข้าไทยเป็นวันแรกตั้งแต่เปิดปีใหม่ US$10.3ล้าน และอินโดนีเซีย US$5.2ล้าน เม็ดเงินที่เริ่มกลับมาไหลเข้าบางประเทศเป็นเพราะเริ่มมีความน่าสนใจด้านมูลค่า ขณะที่แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางไหลออกอยู่จากความกังวลต่อค่าเงินหยวนและราคาน้ำมัน

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) ความผันผวนของค่าเงินหยวนจบลงแล้วในระยะนี้ การที่ทางการจีนเข้ามาแทรกแซงค่าเงินหยวนทั้งในตลาด Onshore และ Offshore ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาทำให้ Gap ของทั้ง 2 ตลาดเริ่มแคบ ค่าเงินของทั้ง 2 ตลาดเช้านี้ต่างกันเพียง 0.1% ช่วยลดแรงเก็งกำไรได้มาก และเช้านี้จีนประกาศตัวเลขส่งออกเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.3% Y-Y ดีกว่าที่ตลาดคาดมาก (ตลาดคาด -4.1% Y-Y) และดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -3.7% Y-Y เป็นแรงส่งที่ดีต่อจิตวิทยาและทำให้ความผันผวนของค่าเงินหยวนจบลงแล้วอย่างน้อยก็ในระยะนี้ ความเสี่ยงของตลาดเหลือเพียงราคาน้ำมันที่ยังตกต่ำ
  (0) สื่อทีวีดิจิตอลผลักดันการเติบโตของตลาดโฆษณา มูลค่าโฆษณาทุกสื่อในเดือน ธ.ค. 2015 อยู่ที่ 9.8 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาด ทำให้เม็ดเงินทั้งปี 2015 เป็น 1.22 แสนล้านบาท +3.3% Y-Y ซึ่งมาจากสื่อทีวีดิจิตอล เพราะถ้าไม่รวมสื่อทีวีดิจิตอล (เป็นราคาสุทธิที่หักส่วนลดแล้ว) มูลค่าตลาดโฆษณาในปี 2015 จะลดลง 4.2% Y-Y สื่อที่ถูกกระทบมากสุดคือเคเบิ้ลและดาวเทียม (-16%) เพราะเป็นคู่แข่งโดยตรง และสื่อนิตยสาร (-14%) เราคาดตลาดโฆษณาในปี 2016 จะฟื้นตัว 4-5% และคาดกำไรปกติของกลุ่มมีเดียในปี 2016 (7 บริษัท) ฟื้น +17% Y-Y จากปี 2015 ที่คาด -26% Y-Y เรา RS (ราคาเป้าหมาย 13 บาท) และ MAJOR (ราคาพื้นฐาน 35 บาท) เป็น Top picks จากการเติบโตของกำไรที่สูงกว่ากลุ่ม +381% Y-Y และ 18% Y-Y ตามลำดับ
  (+) หุ้นที่คาดว่างบ 4Q15 จะออกมาดี BIG, BEAUTY, EPG, TVT, MTLS, GL, BDMS, ERW, AAV

  (+) ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับบวกได้ต่อเนื่องโดยได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน
  (+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อยังปิดในแดนบวกได้เช่นกันแม้ว่าราคาน้ำมันจะยังคงปรับตัวลดลง รวมถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่ยังคงมีอยู่
  (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้รีบาวด์ได้แรงต่อเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้น
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวออกข้าง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 36.20-36.35 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 0.97 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 30.44 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยระหว่างวันร่วงหลุดระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี หลังดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า รวมถึงภาวะตลาดที่ยังเป็นอุปทานส่วนเกิน
  ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ร่วงลง 11 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1085.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า รวมถึงข่าวที่ธนาคารกลางจีนได้พยายามรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินหยวน ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

13-ม.ค. - จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)

- ยูโรโซน: ECB ประชุม

- สหรัฐ: รายงาน Beige Book
14-ม.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
15-ม.ค. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
18-ม.ค. - สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Martin L. King
19-22 ม.ค. -ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการปี 2015
19 ม.ค. - จีน: 4Q15 GDP, Industrial Production (ธ.ค.), ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
20 ม.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ธ.ค.)

- สหรัฐ: Building permits, Housing starts (ธ.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
21 ม.ค. - ยูโรโซน: ECB ประชุม, อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
22 ม.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค.)

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ม.ค.)
25-ม.ค. - มาเลเซีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Thaipusam Day
26-27 ม.ค. - สหรัฐ: ประชุม Fed

Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!