- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 January 2016 17:40
- Hits: 4037
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'มีลุ้นรีบาวด์...แต่ยังไม่ทิ้งผันผวน'
Stock Picks-Jan 2016 : Fundamental : ANAN, AOT, BTSGIF, CPN, GL และ Dark Horse เป็น CK
Fundamental Pick -Today: TASCO ดูรายละเอียดด้านใน
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, DTAC, INTUCH, DCC, AP, LPN, QH, SPALI, MODERN, QTC, SNC, TCAP, TMT, BTSGIF, DIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev :TDEX 53%, TTCL 42%, KKP 28%, PTTEP 24%, PTT 13%, BANPU 12%
Technical View ภาพตลาดเป็นลบ แต่มีลุ้นรีบาวด์
Support Resistance Stop Loss
SET 1200+/- 1240-1250,1260 หลุด 1225
SET50 750-740 780-790,800 หลุด 760
Technical Picks- Today : TCAP, TASCO, GL, SPRC, BEM, CBG, CHG, TIPCO
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SIRI (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงต่อ แต่มีรีบาวด์ในวัน โดย SET Index ลงไปต่ำสุดที่ 1220.96 (-23.22 จุด) แล้วดีดขึ้นมาปิดที่ 1234.50 (-9.68 จุด) โดยมีการซื้อกลับหุ้น Big Cap ในกลุ่มหลัก เช่น KBANK, TCAP, CK, BEM, INTUCH, ADVANC, DTAC, JAS, TOP เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1.35 พันล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 260 กว่าล้านบาท ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยซื้อสุทธิ
ตลาดยังกังวลกับราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งต่อ ล่าสุดบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุฯประกาศลดราคาน้ำมันส่งมอบเดือนก.พ.2016 ให้กับลูกค้าแถบตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียน 0.6 และ 0.2 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามลำดับ ทั้งนี้เพื่อเร่งระบายน้ำมันออกไปก่อนที่อิหร่านจะผลิตเพิ่ม และราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงต่อเนื่องกดดันผลประกอบการกลุ่มพลังงานทั้งใน 4Q15 และ 1Q16 (แต่เป็นบวกกับบริษัทใช้วัตถุดิบเกี่ยวข้องกับน้ำมัน เช่น สายการบิน, TASCO, VNG เป็นต้น) นอกจากนั้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนก็เป็นอีกปัจจัยกดดันสำคัญด้วย สำหรับในประเทศ มีการทำ Preview ผลประกอบการ 4Q15 และแนวโน้มปี 2016 โดยกลุ่มธนาคารเริ่มรายงานกำไร 4Q15 แล้ว ประเดิมด้วย TISCO ซึ่งมีกำไรสุทธิปี 2015 ทรงตัวYoY เป็นไปตามคาด ส่วนธนาคารอื่นจะทยอยประกาศตามมา โดยรวมแล้ว เราคาดว่ากำไรกลุ่มธนาคารจะยังเติบโตจำกัดในปี 2016 แต่ธุรกิจยังมั่นคงและ P/BV ต่ำ (ล่าสุด 11 ม.ค.2016 ลดลงมาที่ 1.07 เท่าจาก 2.04 เท่าในกลางเดือนม.ค.2015 ทั้งนี้ในรอบ 10 ปีระดับสูงสุดและต่ำสุดของ P/BV กลุ่มธนาคารพาณิชย์เท่ากับ 2.26 เท่า (กลางเดือนก.พ.2013) และ 0.69 เท่า (ต้นเดือนธ.ค.2008) หุ้น Top Pick ของเราเป็น KBANK รองลงมาเป็น TCAP หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น TASCO
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ แต่มีโอกาสเด้งสั้น จากภาวะ Oversold+Divergence แนวต้านระยะสั้น 1240-1250, 1260 จุด แนวรับ 1200+/- จุด ค่าลบดูไม่ดี หลุด 1225 ให้ลดพอร์ต/Stop Loss ส่วนการ SCAN หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสปรับขึ้นในระยะสั้น เราพบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น CHG, TIPCO, BEM และหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ AMATAV ส่วนหุ้นที่หลุด List คือ ANAN, SEAFCO ส่วนหุ้นที่หาจังหวะขายทำกำไร เป็น TOP, BCH, HMPRO
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ดัชนีการจ้างงานเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง Conference Board รายงานดัชนีปรับขึ้น 0.8%MoM ในเดือนธ.ค.2015 สู่ระดับ 129.33 และเพิ่มขึ้น 2.6%YoY บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง และสอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ที่สูงขึ้นถึง 292,000 ตำแหน่ง
- สหรัฐ : เศรษฐกิจมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ โดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาตารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวเตือนว่าความเสี่ยงในระดับโลก ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการดิ่งลงของราคาน้ำมัน เป็นความเสี่ยงหลักต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2016
+/ ดัชนี DJIA รีบาวด์ หลังตลาดปรับลดลงต่อเนื่อง 3 วันทำการ นักลงทุนก็กลับเข้ามาซื้อเก็งกำไร ยังผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ขยับขึ้นมาปิดบวกได้ โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 52.12 จุด ที่ 16,398.57 ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.64 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ลดลง 5.64 จุด
/- จับตารายงานผลประกอบการ 4Q15 ซึ่งคาดการณ์ว่าผลประกอบการที่ย่ำแย่ของกลุ่มพลังงานจะยังกดดันผลกำไร 4Q15 ของตลาดหุ้นทั่วโลก
- บริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ประกาศลดราคาน้ำมันดิบให้ลูกค้าสำหรับงวดส่งมอบก.พ.2016 บริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ประกาศปรับลดราคาน้ำมันดิบให้ลูกค้าแถบตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป 0.60 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดราคา 0.20 ดอลลาร์/บาร์เรลให้กับลูกค้าในแถบเมดิเตอร์เรเนียนสำหรับงวดส่งมอบเดือนก.พ.2016 ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการลดราคาของซาอุฯก็เพื่อเร่งระบายน้ำมันก่อนที่อิหร่านจะผลิตเพิ่มและกดให้ราคาน้ำมันดิบต่ำลงไปกว่านี้อีก
- ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่อ โดยสัญญา WTI และ BRENT ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลดลง 1.75 และ 2.00 ดอลลาร์ที่ 31.41 และ 31.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามลำดับ ทั้งนี้การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลให้ความต้องการพลังงานในประเทศจีนซบเซาลง และอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะสูงขึ้นอีกหากอิหร่านเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในเร็วๆนี้
-/ ราคาทองคำอ่อนตัวต่อเล็กน้อย โดยสัญญาตลาด COMEX ส่งมอบก.พ.2016 ปิดลดลง 1.7 ดอลลาร์ที่ 1,096.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
+ รัฐบาลเร่งกระตุ้นท่องเที่ยวชดเชยส่งออกที่ซบเซา โดยให้ BOI ออกนโยบายให้ภาคเอกชนสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการ ให้มีโครงการจับสลากชิงโชคทุกเดือนสำหรับไทยเที่ยวไทย จัดงานเกี่ยวกับท่องเที่ยวในท้องถิ่นต่างๆเพิ่มขึ้น (1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว) เจรจาสายการบินหลักเพื่อให้อาเซียนมาเที่ยวไทย ทางด้านกระทรวงท่องเที่ยวฯตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2016 เพิ่มเป็น 2.41 ล้านล้านบาท (เดิม 2.3 ล้านล้านบาท)
นับเป็นข่าวบวกกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น สนามบิน, สายการบิน, โรงแรม, อาหาร โดยหุ้น Top Picks เป็น
# AOT (ราคาปิด 333 บาท, ราคาพื้นฐาน 366 บาท - ธุรกิจมั่นคง เป็นผู้ประกอบการสนามบินรายเดียวของประเทศ การเติบโตมาจากความต้องการใช้สนามบินเพิ่มขึ้น และบริษัทเพิ่มกำลังรองรับผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสนามบินดอนเมืองอาคาร 2, สนามบินภูเก็ต และสุวรรณภูมิเฟส 2)
# CENTEL (ราคาปิด 42 บาท, ราคาพื้นฐาน 46 บาท - อัตราการเข้าพักของโรงแรมดีขึ้นเป็นประมาณ 81% ในปี 2015 และคาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงระดับนี้ในปี 2016 แต่ในด้านรายได้ต่อห้องต่อคืนคาดว่าจะขยับขึ้นในปี 2016 มีแผนขยายสาขาธุรกิจอาหารอีก 35 แห่งในปี 2016 และกำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการโรงแรมและร้านอาหารเพิ่มเติม)
+ TASCO (ราคาปิด 40 บาท) : คาดกำไรสุทธิปี 2016 ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากอุปสงค์ยางมะตอยของภูมิภาคอยู่ในระดับสูง และการก่อสร้างและขยายถนนในไทยก็ช่วยหนุนด้วย
บริษัททำสัญญาระยะยาว 10 ปีเพื่อซื้อวัตถุดิบน้ำมันกับผู้ขายในเวเนซูเอลาในราคาที่มีส่วนลดจากราคาปัจจุบันมาก มีแผนการขยายโรงกลั่นยางมะตอยในมาเลเซียเป็น 5 หมื่นบาร์เรล/วันในปี 2019 และเป็น 1 แสนบาร์เรล/วันในระยะต่อไป จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 3 หมื่นบาร์เรล/วัน
TASCO ประกาศดีลซื้อกิจการ 5 แห่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องด้านยางมะตอย มูลค่าดีลประมาณ 2.2 พันล้านบาท (แหล่งเงินมาจากเงินกู้และกระแสเงินสดภายใน) รวมทั้งธุรกิจเรือขนส่งจาก COLAS S.A. ช่วยสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว บริษัทมีเรือขนส่งยางมะตอย 12 ลำ (จาก 40 ลำในภูมิภาค) ทำให้มีความได้เปรียบในการทำธุรกิจ และอุปทานเรือใหม่ยังไม่เข้ามาเร็ว เนื่องจากการต่อเรือใหม่ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 47 บาท อิงกับ P/E ปี 2016 ที่ 13 เท่า (Mean+1SD) โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2015-2016 ไว้ใกล้เคียงกันที่ปีละ 5.6 พันล้านบาท (EPS : 3.6 บาท/หุ้น) ทั้งนี้แม้ว่าปริมาณขายในปี 2016 จะเพิ่มขึ้นได้ 15-20% แต่จะถูกชดเชยด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่จะลดลงเพราะราคาขายยางมะตอยอ่อนลงตามราคาน้ำมันดิบ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2016 เท่ากับ 11 เท่า, EV/EBITDA 9 เท่า
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]