- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 January 2016 17:00
- Hits: 1337
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : แกว่งแดนลบ
ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ หลังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1250 จุดได้ในสัปดาห์ที่แล้วประกอบกับความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้ อที่ตกตํ่าและเศรษฐกิจของจีนโดยรวมได้กดดัน sentiment รวมไปถึงราคาน้ำมันที่อ่อนแอต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดโดยรวมยังอ่อนแออยู่ แนวรับสำคัญสัปดาห์นี้ 1200 จุด
แนวรับ/แนวต้าน : 1200/1260 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา อสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง และอิเล็กทรอนิคส์ ที่ราคาลงมาเยอะแล้วและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว
นักลงทุนระยะสั้น : SVI(6.20), ORI (15)
SVI(6.20) งบ Q3 ออกมาดีแล้ว ต่อไปงบ Q4 จะเข้าสู่ช่วงพีค ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้ส่งออกง่ายขึ้นและไม่ส่งออกไปจีน ทำให้ผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวมีค่อนข้างน้อยต่อ SVI ส่วนปี นี้จะเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่เหมือนก่อนช่วงไฟไหม้ ประกอบกับ demand จากยุโรปยังแข็งแกร่งอยู่และปี หน้าจะได้ลูกค้าใหม่จากอเมริกามา 6 ราย เป็นรายได้เสริมถึง 1,200 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรมีโอกาสจะโตถึง 32%ในปีหน้า เเถม PE ของSVI ปัจจุบัน 11.6 เท่า ถูกกว่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 12.6 เท่าด้วย
ORI (15) แนะนำเอาไว้เล่นสั้น ลงซื้อ ขึ้นขาย คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐที่จะทำให้มีการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้ าและดีมานด์คอนโด นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงช่วยหนุน sentiment ในปี 59 ทั้งนี้เป้ ายอดขายพรีเซลอยู่ที่ 7 พันล้านบาท โตต่อเนื่องจากปี 58 โดยมีแผนเปิ ด 8-10 โครงการใหม่มูลค่าโครงการรวม 1 หมื่นล้าน ทำให้รายได้และกำไรเติบโตได้ต่อ และรายได้มีโอกาสแตะ 4 พันล้านบาท สูงขึ้นเท่าตัวจาก 2 พันล้านบาทในปี 58
นักลงทุนระยะยาว : SYNTEC (3.80), CK (34)
SYNTEC (3.80) สำหรับหุ้นรับเหมาขนาดเล็กตอนนี้ Top pick ของเราเป็นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลมั่นคงคือ SYNTEC มี margin สูงและมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ทำให้งบไตรมาส 4 จะดีต่อเนื่องจากงบไตรมาส 2และ3 ที่ดีอยู่แล้วโดยทั้งปี 58 การรับงานทั้งปีจะสูงใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาทถือว่าเติบโตชัดเจนจากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแผนประมูลงานเพิ่มอีกในช่วงระยะสั้นนี้ได้แก่งาน CPN, NOBLE, SUPALAI บวกกับแผนการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้ าของรัฐบาลระยะยาวก็ช่วยให้มีการสร้างคอนโดเพิ่มและประมูลงานก่อสร้างเพิ่ม ทำให้มีรายได้มาเพิ่มระยะสั้นถึงยาวให้ SYNTEC
CK (34) (1)Mega projects เช่นรางคู่และการก่อสร้างรถไฟฟ้ าสายสีส้มจะช่วย earnings ให้เติบโตสูง 15% ในปี2559 (2)การควบรวมกิจการของบริษัทลูก BMCL & BECL (3)นอกจาก projects ของรัฐบาลยังมีโครงการของบริษัทลูก เช่น CKP มีโครงการน้ำบาก (Hydroelectric dam) ในประเทศลาว 1หมื่น7พันล้านบาท กำลังเจรจาน่าจะเซ็นสัญญา Q1 ปี 2559 (4)Q3 & Q4 ของปี 2558 sale & earnings ไม่ค่อยดี แต่โครงการ mega projects จะชัดเจนมากขึ้นปี 2559 ทั้งการประมูลและการก่อสร้างจริง ดังนั้นช่วงนี้เป็ นโอกาสดีในการเริ่มเก็บสะสม CK (5)ราคาปัจจุบันให้ upside สูงกว่าคู่แข่งทั้ง ITD และ STEC
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
"สมคิด" นัดถกทูตพาณิชย์ 20 ม.ค.นี้ หาทางผลักดันส่งออกปี นี้ให้โต 5% ตามเป้ าหมาย ด้าน "พาณิชย์" เตรียมหารือผลกระทบจีนสงครามค่าเงิน พร้อมดึงเอกชนร่วมสร้างความเข้าใจทูตพาณิชย์แผนดันธุรกิจบริการไปนอก "สุวิทย์" ย้ำเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ทั้งสร้างเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และธุรกิจเพื่อสังคม ขณะที่เอกชนแนะลงขันร่วมกับรัฐบาล ตั้ง "กองทุนธุรกิจเพื่อสังคม" หนุนสร้างชุมชนเข้มแข็ง
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้นโยบาย-มาตรการด้านการคลังรัฐบาล มุ่งกระตุ้นระยะสั้น-ทำเฉพาะจุด หวัน่ ไม่ได้ผลจริง-ไม่คุ้ม แนะเร่งปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ วางรากฐานและสร้างสมดุลประเทศระยะยาว
+ อุตฯ โทรคมแข่งเดือดรับไลเซ่นส์ 4จี ย่าน 900-1800 เมกะเฮิรตซ์ เบอร์ 1 เอไอเอสลุยถึงตำบลแจกเครื่องมือถือ 4 จีป้ องฐานลูกค้าเดิม หลังพ่ายประมูลคลื่น 900 ที่ผู้ชนะต่างประกาศรอรวบลูกค้า ขณะที่ "แจส" ค่ายโมบายน้องใหม่ ขอ 3 ล้านเลข อัดโปรโมชั่นสู้ ทรูสะสมคลื่นไต่ขึ้นเบอร์ 2 ด้านดีแทคประกาศสู้ไม่ถอย
+ ททท.ผนึกเอกชนดันไอเดียกระตุ้นต่อมเที่ยวเสนอรองนายกฯ "สมคิด" ทั้งผุดแคมเปญ "เที่ยวไทย ลุ้นล้าน"สร้างอิมแพ็กต์ขับเคลื่อนโลคัล ทัวริซึม นำจ่ายค่าที่พักนำเที่ยวทุก 1 พันบาท ลุ้นคูปองชิงโชคเงินล้านทุกเดือน ส่วนกินอาหารครบ 500 บาท ลุ้นรับส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน แพ็กเกจ ค่าพักหนุนแจกคูปองข้าราชการเกษียณเที่ยว กระตุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่พาพนักงานเที่ยวครบหมื่นคนรับโล่จาก "บิ๊กตู่"
ปัจจัยต่างประเทศ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 167.65 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 16,346.45 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิ ดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แม้ธนาคารกลางจีนได้ปรับเพิ่มค่ากลางเงินหยวนและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดีดตัวขึ้นแล้วก็ตาม
- ดัชนี FTSE 100 ลดลง 41.64 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 5,912.44 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
- ดัชนีนิกเกอิลดลง 69.38 จุด หรือ 0.39% ปิ ดที่ 17,697.96 จุด ซึ่งเป็ นระดับปิ ดตํ่าสุดในรอบกว่า 3 เดือน
ในการซื้อขายที่ผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งลงไปกว่า 7%จนส่งผลให้ตลาดต้องใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์และประกาศยุติการซื้อขายตลอดทั้งวัน
+ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 33.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป
นักวิเคราะห ์ : ยศพณ แสงนิล , CFA
Email : [email protected]
Tel: 02 659 8154