- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 January 2016 17:03
- Hits: 3889
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ผันผวน? โดยให้น้ำหนักที่ประเด็นต่างประเทศโดยเฉพาะจีนต่อมาตรการล่าสุดที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(CSRC) ประกาศระงับใช้การใช้Curcuit Breaker ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้หลังนำมาให้ได้เพียง4 วันเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดรวมถึงการกำหนดค่าเงินกลางเงินหยวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหสรัฐฯหลังเงินหยวนอ่อนค่าลงแรงวานนี้ ซึ่งคาดในระยะสั้นน่าจะเป็นปัจจัยบวก และอาจทำให้ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในแดนบวกได้ อย่างไรก็ตาม คาดยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค่าต่างๆ นอกจากนี้คาดยังได้รับปัจัยกดดันจากประเด็นเดิม ทั้ง (1) สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านและทำให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตของหลายประเทศตามมาเช่นคูเวตบาห์เรนสหรัฐอาหรับอิมิเรตและซูดานเป็นต้น(2) สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีหลังเกาหลีเหนือมีการทดสอบนิวเคลียร์และ(3) ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงคาดส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบซึ่งล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว36.21 – 36.23 บาทแข็งค่าจากวานนี้ที่36.26 บาทขณะที่เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสารหลังราคาปรับลดลงต่อเนื่อง และทำให้มีความน่าสนใจในรูปของ Div.Yield อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของกลุ่มฯยังคงมีความกังวลต่อภาวะการแข่งขันหลังมีผู้เล่นรายที่4 เข้ามาในตลาด
ยังแนะจับตา(1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม –มีนบุรีวงเงิน110,116 ล้านบาทที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์- ชุมพรวงเงินประมาณ24,000 ล้านบาทซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อITD, CK, STEC และUNIQ
(2) กลุ่มการบินที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัวหลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป(EASA) และสามารถบินได้ตามปกตินอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลงและเริ่มเข้าสู่ช่วงHigh Season ส่งผลดีต่อBA, AAV
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นเช่นIRPC, TOP และSPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงแต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.46 1.65 3.52
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 45,952.68
สถาบัน -2,266.94
บัญชีหลักทรัพย์ -689.14
ต่างประเทศ -1,499.82
ในประเทศ 4,455.90
ประเด็นที่ต้องติดตาม 8 ม.ค. 2559
8/1/59 : สหรัฐฯเปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร- ธ.ค.
สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง- พ.ย.
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐเช่นTASCO เป็นต้น
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเช่นโรงแรม(MINT, CENTEL, ERW) และAOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นและเข้าสู่ช่วงHigh season ใน4Q/58 – 1Q/59
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ10 ปี-0.02 อยู่ที่2.15% (ระดับสูงสุด3.77% เมื่อกพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง(VIX) +4.40 อยู่ที่24.99
หุ้นแนะนำ: BEAUTY
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศDJIA -392.41, NASDAQ -146.34,
S&P -47.17, FTSE -119.30, CAC -76.89 และDAX -234.17
ภายใต้ปัจจัยลบ(1) สถานการณ์ในตลาดหุ้นจีนหลังตลาดฯจีน ประกาศระงับการซื้อขายวานนี้ (Curcuit Breaker) เป็นครั้งที่2 ในรอบสัปดาห์นี้ จากดัชนีที่ลดลงไปมากกว่า 7% ซึ่งเป็นผลจากธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางเงินหยวนลงสู่ระดับระดับต่ำสุดในรอบ5 ปี วานนี้ รวมถึงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนด้วย และ (2) ราคาน้ำมันที่ยังปรับลงต่อเนื่องขณะที่สหรัฐฯเปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานล่าสุด ลดลง 10,000 ราย อยู่ที่ 277,000 ราย(สูงกว่าคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่275,000 ราย)
ราคาน้ำมันดิบ(NYMEX) ส่งมอบเดือนก.พ. -US$0.70 อยู่ที่US$33.27 ต่อบาร์เรลจาก(1) ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก และ (2) ภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไปหลังEIA เปิดเผยปริมาณผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น17,000 บาร์เรล อยู่ที่ 9.219 บาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง
ราคาทองคำ(COMEX) ส่งมอบเดือนก.พ. +US$15.9 อยู่ที่US$ 1,107.8 ต่อออนซ์ โดยยังได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดทั้งในตะวัน
ออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี ที่เป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงการลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ-1,500 ล้านบาท สะสม YTD
-8,136.23 ล้านบาท(ปี’57 และ58 ยอดขายสุทธิสะสม36,584 ล้านบาทและ154,346 ล้านบาทตามลำดับ)
(+) ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค- ธ.ค. อยู่ที่ 76.1 เพิ่มจาก 74.6 เมื่อพ.ย. โดยปรับขึ้นเป็น
เดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน