- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 January 2016 17:19
- Hits: 861
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับลดลงภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นต่างประเทศ(1) ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค่าต่างๆ(2) สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านและทำให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตของหลายประเทศตามมาเช่นคูเวตบาห์เรนสหรัฐอาหรับอิมิเรตและซูดานเป็นต้น(3) สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีหลังเกาหลีเหนือมีการทดสอบนิวเคลียร์และ(4) ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงคาดส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบซึ่งล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว36.32 – 36.34 บาทอ่อนค่าลงจากวานนี้ที่36.34 บาทขณะที่เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสารหลังราคาปรับลดลงต่อเนื่อง และทำให้มีความน่าสนใจในรูปของ Div.Yield อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมยังคงมีความกังวลต่อภาวะการแข่งขันหลังมีผู้เล่นรายที่4 เข้ามาในตลาด
ยังแนะจับตา(1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม –มีนบุรีวงเงิน110,116 ล้านบาทที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์- ชุมพรวงเงินประมาณ24,000 ล้านบาทซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อITD, CK, STEC และUNIQ
(2) กลุ่มการบินที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัวหลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป(EASA) และสามารถบินได้ตามปกตินอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลงและเริ่มเข้าสู่ช่วงHigh Season ส่งผลดีต่อBA, AAV
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นเช่นIRPC, TOP และSPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงแต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐเช่นTASCO เป็นต้น
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเช่นโรงแรม(MINT, CENTEL, ERW) และAOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นและเข้าสู่ช่วงHigh season ใน4Q/58 – 1Q/59
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศDJIA -252.15, NASDAQ -55.66,
S&P -26.45, FTSE -63.86, CAC -57.16 และDAX -96.08
ภายใต้ปัจจัยลบ(1) ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนหลังเงินหยวนอ่อนค่าลงอีกเมื่อวานนี้(2) ราคาน้ำมันที่ลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน(3) สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังมีความขัดแย้งทางการทูตของหลายประเทศในตะวันออกกลางและ(4) การทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯโดยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน–พ.ย. ลดลง0.2% เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงใน 4Q/58 และมีการปรับลดคาดการณ์GDP – 4Q/58 ลงสู่ระดับ0.5%
ราคาน้ำมันดิบ(NYMEX) ส่งมอบเดือนก.พ. -US$2.0 อยู่ที่US$33.97 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลัง EIA เปิดเผยปริมาณผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น17,000 บาร์เรล อยู่ที่ 9.219 บาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง แม้สต็อกน้ำมันดิบ ล่าสุด ลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล(คาดว่าจะเพิ่มขึ้น0.3 ล้านนาร์เรล) อยู่ที่482.3 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ(COMEX) ส่งมอบเดือนก.พ. +US$13.5 อยู่ที่US$ 1,091.9 ต่อออนซ์ โดยยังได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดทั้งในตะวัน
ออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี ที่เป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ-1,796 ล้านบาท สะสม YTD -6,636 ล้านบาท(ปี’57 และ58 ยอดขายสุทธิสะสม36,584 ล้านบาทและ154,346 ล้านบาทตามลำดับ)
P/E (เท่า)
P/BV (เท่า)
Dividend Yield (%)
22.10
1.70
3.42
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย
หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย
45,260.92
สถาบัน
+947.50
บัญชีหลักทรัพย์
-24.02
ต่างประเทศ
-1,795.56
ในประเทศ
+872.08
ประเด็นที่ต้องติดตาม7 - 8 ม.ค. 2559
7/1/59 : สหรัฐฯเปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
8/1/59 : สหรัฐฯเปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร- ธ.ค.
สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง- พ.ย.
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ10 ปี-0.07 อยู่ที่2.18% (ระดับสูงสุด3.77% เมื่อกพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง(VIX) +1.25 อยู่ที่20.59
หุ้นแนะนำ: AAV
นักวิเคราะห์: จิตรลดาเลขาพันธ์โทร.02-684-8788