WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
  Sideway? โดยคาดยังมีความผันผวน มีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - ตามตลาดต่างประเทศที่ไร้ทิศทาง แม้ได้รับปัจจัยหนุนเข้ามาบ้างจากการที่จีนอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน แต่คาดน่าจะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น โดยคาดส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค่าต่างๆ นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน อย่างไรก็ตามแนะติดตามราคาน้ำมันที่อาจปรับขึ้นได้บ้าง แต่คาดเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากยังคงมีความกังวลต่ออุปทานส่วนเกินที่อยู่ในระดับสูง ทำให้คาดมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมัน +/-
ทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ซึ่งล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 36.16 – 36.18 บาท อ่อนค่าลงจากวานนี้ที่ 36.11 บาท รวมถึงแรงขายสุทธิของสถาบันในประเทศ
  ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท ซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อ ITD, CK, STEC และ UNIQ
  (2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ส่งผลดีต่อ BA, AAV
  (3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO เป็นต้น
  (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL, ERW) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +9.72, NASDAQ -11.66,
S&P +4.05, FTSE +43.81, CAC +15.18 และ DAX +26.66
  โดยได้รับปัจจัยบวกจาก (1) ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินมูลค่า 1.30 แสนล้านหยวน หรือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่ระบบการเงินวานนี้ และ (2) การปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับลง ขณะที่อยู่ระหว่างจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด ระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน รวมถึงตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์นี้
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$0.79 อยู่ที่ US$35.97 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของชาติอาหรับในความพยายาม
ที่จะหนุนราคาน้ำมัน นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$3.2 อยู่ที่ US$ 1,078.4 ต่อออนซ์ ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -3,640 ล้านบาท สะสม YTD
-4,841 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.99 1.69 3.44

ที่มา : www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 45,355.64
สถาบัน -706.54
บัญชีหลักทรัพย์ +1,311.33
ต่างประเทศ -3,639.57
ในประเทศ +3,034.79

ประเด็นที่ต้องติดตาม 6 - 8 ม.ค. 2559
6/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน - ธ.ค.
   ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - พ.ย.
   ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - ธ.ค.
   ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - พ.ย.
   ดัชนี PMI ภาคบริการ - ธ.ค.
   สต็อกน้ำมัน

7/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

8/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
   ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - ธ.ค.
   สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - พ.ย.

Market Outlook
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 2.25% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.36 อยู่ที่ 19.34
  หุ้นแนะนำ : IRPC

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!