- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 January 2016 16:52
- Hits: 1790
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
คาดยังผันผวน? แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัด หลังวานนี้ปรับลงแรง ภายใต้ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค่าต่างๆ ขณะที่คาดยังได้รับปัจจัยลบต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน อย่างไรก็ตามแนะติดตามราคาน้ำมันที่อาจปรับขึ้นได้บ้าง แต่คาดเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากยังคงมีความกังวลต่ออุปทานส่วนเกินที่อยู่ในระดับสูง ทำให้คาดมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมัน +/-
ทางด้านปัจจัยในประเทศ แม้มีสัญญาณเป็นบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ ที่คาดมีออกมาต่อเนื่องหลังจากนี้ไป โดยเน้นการใช้จ่ายผู้บริโภค โดยผ่านการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่น การเพิ่มค่าลดหย่อน และการลดอัตราภาษีลง เป็นต้น แต่คาดมีผลต่อปีภาษีปี’60 (ยื่นในปี’61) ทำให้อาจไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวังว่าน่าจะมีผลต่อภาษีในปีนี้ ขณะที่ Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ซึ่งล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 36.16 – 36.18 บาท อ่อนค่าลงจากวานนี้ที่ 36.12 บาท
ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท ซึ่งคาดเปิดประมูลปลายม.ค.’59 ส่งผลดีต่อ ITD, CK, STEC และ UNIQ
(2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ส่งผลดีต่อ BA, AAV
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO เป็นต้น
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL, ERW) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -276.09, NASDAQ -104.32,
S&P -31.28, FTSE -148.89, CAC -114.61 และ DAX -459.57
ภายใต้ปัจจัยลบ (1) ตัวเลขภาคการผลิตของจีน – ธ.ค อยู่ที่ 48.2 ลดลงจาก 48.6 เมื่อพ.ย. และเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลง ทำให้เกิดความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก (2) สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย ส่งผลให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้น และ (3) ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย – ธ.ค. อยู่ที่ 51.2 ลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 51.3 และ 52.8 เมื่อพ.ย. รวมถึงการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง – พ.ย. ลดลง 0.4% ซึ่งลดลงมากสุดนับแต่มิ.ย.’57
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$0.28 อยู่ที่ US$36.76 ต่อบาร์เรล แม้ได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่ยังไม่สามารดชดเชยความกังวลเกี่ยวภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$15.0 อยู่ที่ US$ 1,075.2 ต่อออนซ์ ภายใต้สถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดหุ้นที่ลดลง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,201 ล้านบาท สะสม YTD
-1,201 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
(-) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ธ.ค. 58 อยู่ที่ 105.74 หดตัว -0.85%yoy และ -0.39%mom ส่งผลให้ CPI ทั้งปี 58 หดตัว -0.90% จากคาดการณ์ -1 ถึง -0.2% และยังคงคาด CPI ปี 59 เติบโต 1-2%
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.12 1.70 3.43
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 30,766.06
สถาบัน -1,219.39
บัญชีหลักทรัพย์ +221.68
ต่างประเทศ -1,201.27
ในประเทศ +2,198.98
ประเด็นที่ต้องติดตาม 5 - 8 ม.ค. 2559
5/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีภาวะธุรกิจของรัฐนิวยอร์ค - ธ.ค.
6/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน - ธ.ค.
ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - พ.ย.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - ธ.ค.
ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - พ.ย.
ดัชนี PMI ภาคบริการ - ธ.ค.
สต็อกน้ำมัน
7/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
8/1/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - ธ.ค.
สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - พ.ย.
Market Outlook
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.25% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +2.49 อยู่ที่ 20.70
หุ้นแนะนำ : CK
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788