- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 January 2016 15:50
- Hits: 2870
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (28 - 30 ธันวาคม 58)
SET ปิดทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนในทิศทางบวกเล็กน้อย จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยใหม่ที่โดดเด่น และปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดปลายปี ปิดสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,288.02 จุด เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น +5.09 จุด (+0.39%) WoW
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ราคาน้ำมันมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยว กับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะปัญหาระหว่างอิหร่านและซาอุฯ
(+) การเริ่มต้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ซึ่งมีผลในวันที่ 1 ม.ค.59
(-) ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตในเดือนธ.ค. ทรงตัวในระดับ 49.7 จุด ว่าอาจไม่สามารถขยายตัวได้ถึงเป้าหมายที่ 7%
(-) ความกังวลต่อปัญหาการเมืองและความรุนแรงจากปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
(-) นักลงทุนต่างชาติมี Net Sell วันก่อนมูลค่า 8 ร้อยล้านบาท
(-) แรงขายทำกำไรของกองทุน LTF ที่ครบอายุ 5 ปี
(+/-) ประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจในปีนี้ โดยตลาดคาดหมายว่า FED จะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นราว 3-4 ครั้งในปีนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ปัญหาในตะวันออกกลาง
* การแถลงมุมมองเศรษฐกิจของประธาน FED ตามรัฐต่างๆ
* การรายงานผลการประชุม FOMC ในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. ที่ผ่านมาในวันที่ 7 ม.ค.
* ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ PMI ภาคการผลิต, ตัวเลขจ้างงานจาก ADP, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ตัวเลขการว่างงาน และการจ้าง งานนอกภาคการเกษตร ยุโรป PMI ภาคการผลิต, ตัวเลขเงินเฟ้อ และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
* ตัวเลขเศรษฐกิจของไทย วันนี้ตัวเลขเงินเฟ้อ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงปลายสัปดาห์
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนีมีแนวโน้มทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ขาดปัจจัยที่โดดเด่นส่งผลให้แนวโน้มการซื้อขายยังคงไร้ทิศทาง ท่ามกลางความกังวลต่อปัญหาในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น ด้านในประเทศปัจจัยการลงทุนของภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ท่ามกลางความเสี่ยงของการส่งออกที่อาจไม่ได้ตามเป้าที่ 5% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ลดความร้อนแรงลง
กลยุทธ์การลงทุน
ประเมินภาพรวมดัชนีขาดปัจจัยที่โดดเด่น ยังคงเน้นการลงทุนเป็นรายกลุ่มมากกว่า โดยสามารถเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว รวมไปถึงหุ้นที่กลุ่มพลังงานที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 4 -8 ม.ค. 59
ระยะพักตัว ช่วงสั้น
SET Closed 1,288.02 High: 1,294.84 Low : 1,276.47
Resistant : 1,295 , 1,304 Support : 1,274, 1,280
กราฟ SET (120 นาที) มีโครงสร้างเป็น side way up แต่ในระยะท้ายสัปดาห์ มีการทิ้งตัวลงของแท่งเทียนแบบ Engulfing negative ขณะที่ Stoch เกิดภาวะสวนทางแบบ Divergence ซึ่งจะบีบให้ SET ระยะต้นสัปดาห์นี้อาจจะไปไหนได้ไม่มาก และมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ หรือลงสู่ gap ที่เปิดไว้ด้านล่างประมาณ 1,274 จุด โครงสร้างโดยรวมยังถือว่าค่อนข้างดี เว้นแต่หลุด 1,265 จุดจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็นแย่มาก และให้เป็นจุดระวังความผันผวน
กลยุทธ์
1. สัปดาห์นี้ยังเน้นการเก็งกำไรแบบซื้อเมื่ออ่อนตัว และซื้อขายระยะสั้น
2. ปริมาณโวลุ่มตลาดยังไม่แน่นอน ให้ใช้การเก็งกำไรในหุ้นขนาดไม่ใหญ่ไว้ก่อน
3. หากหลุด 1,265 จุด ขายหุ้นออกให้มาก
4. หากปิดระยะปลายสัปดาห์สูงกว่าต้นสัปดาห์ ให้ถือหุ้นข้ามสัปดาห์ ปริมาณมากขึ้น
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
BBL ราคาปิด 152.50 บาท
* ได้รับผลดีจากภาพรวมเศรษฐกิจในปี 59 ที่ฟื้นตัวสร้างการขยายตัวของสินเชื่อ
* มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนการลงทุนในภาคธุรกิจ สร้างการขยายตัวของสินเชื่อ
* ราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV ที่ 0.83 เท่าของปี 59 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว พร้อมการจ่ายปันผลที่ อัตรา 4-5% ต่อปี
วิเคราะห์ทางเทคนิค
BBL ราคาปิด 152.50 บาท
แนวต้าน : 155, 158แนวรับ : 150, 151
กราฟ BBLอยู่ในระหว่างการย่อตัวตามโครงสร้างของรูปสามเหลี่ยม ขณะที่ Stoch อ่อนตัวลงเล็กน้อย คาดว่าจะปรับฐานลงในรูปแบบ double bottom ที่แนว 151 บาทก่อนจะเด้งตัวขึ้นในระยะกลางสัปดาห์ เราคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากฐานของเส้นแนวรับที่มีลักษณะ side way up ดังนั้นการย่อตัวจึงเป็นจังหวะของการสะสมหุ้น
กลยุทธ์
1. ซื้อเมื่ออ่อนตัวบริเวณแนว 150-151 บาท
2. ซื้อเพิ่มเมื่อราคาหุ้นดีดตัวผ่าน 155 บาทขึ้นไป
3. ยังเน้นการลงทุนระยะสั้น
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ