- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 January 2016 15:43
- Hits: 2787
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex: สัญญาณขายระยะสั้น แนวต้าน 1280
SET lndex: 1272.45 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1280 จุดกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือเส้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้น ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มของ SET Index น่าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1300 และ 1315 จุด แต่การปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1280 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลไงปทดสอบแนวรับที่ 1260 จุด
แนวต้าน : 1277 และ 1280
แนวรับ : 1270 และ 1267
ADVANC = 142 / 145, lNTUCH = 49.50 / 51.00, PTT = 245 / 248, KBANK = 148 / 150, JAS = 3.10 / 3.20
NCL International Logistics (NCL TB; THB 2.34) -ซื้อ
แนวต้าน : 2.54 และ 2.70
แนวรับ : 2.34 และ 2.30
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณเส้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้น ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบนี้มีโอกาสทะลุผ่านขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ NCL โดยมีแนวรับที่ 2.34 และ 2.30 และมีแนวต้านที่ 2.54 และ 2.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.18 ลงไป
Chularat Hospital (CHG TB; THB 2.70) - ซื้อ
แนวต้าน : 2.84 และ 2.90
แนวรับ : 2.70 และ 2.64
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่บริเวณจุดสูงสุดใหม่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ CHG โดยมีแนวรับที่ 10.00 และ 9.90 และมีแนวต้านที่ 10.40 และ 10.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.60 ลงไป
SET50 Index Futures
S50H16 ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ตั้งแต่เปิดตลาดจากความกังวลในต่างประเทศ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงหลังจากปรับตัวลดลงที่ 785-788 ถ้าไม่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 790 ได้ จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 780 และ 760
แนวต้าน : 788 และ 790
แนวรับ : 784 และ 782
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน S50H16 ที่แนวรับ 790 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 815 และ 820
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50H16 ปิดต่ำกว่า 790 ลงไป
TRUEH16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 6.50 หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00-7.10 ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงไปทดสอบแนวต้านที่ 6.84 และ 7.30 ดังนั้น การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 6.50 เรายังคงแนะนำให้เน้นการ Open Long
แนวต้าน : 6.70 และ 6.80
แนวรับ : 6.50 และ 6.44
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TRUEH16 เพิ่มที่แนวรับ 6.50 หลังจากแนะนำให้ไปแล้วที่ 6.80 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือ 7.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TRUEH16 ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 6.30 ลงไป
JASH16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับ 3.00 หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.30 แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 2.90 แต่การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 3.00 เราแนะนำให้เน้นการขายสถานะ Short เปลี่ยนเป็นสถานะ Long
แนวต้าน : 3.10 และ 3.14
แนวรับ : 3.00 และ 2.96
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายสถานะ Short ใน JASH16 ที่แนวรับ 2.96 และเปลี่ยนเป็นสถานะ Long เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.20
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASH16 ปรับตัวลดลหงลุด 2.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…แกว่งตัวขึ้น
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไรในต้นปี 2016 หากเปรียบเทียบโดยรวมถือว่าเด่นขึ้น คือ 1. ค่า P/BV 12 เดือนล่วงหน้า ลงมาที่ค่า-1SD แล้วดีดตัวกลับ และเล่นต่ำกว่าเพื่อนบ้านอย่าง อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์และมาเลเชีย 2. อัตราการทำกำไรหรือ EPS growth ในปีนี้ของไทย (MSCI Thailand 29 บริษัท) อยู่ที่ 12.01% (เทียบปีนี้ที่ 5.76%) เทียบอินโดนีเชียที่ 9.85% มาเลเชีย 6.63% และฟิลิปปินส์ที่ 11.36% ถือว่าอัตราการทากำไรของตลาดหุ้นไทยปีหน้าดีกว่าเพื่อนบ้าน ส่วนปี 2015 อัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยไม่ติดลบ เหมือนอย่าง อินโดนีเชียและมาเลเชียที่ติดลบ 6.6% และ 3.67% 3. ค่า Earning revision ratio ของตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้แรงที่สุด
อัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทย (EPS growth) ที่สูงกว่าเพื่อนบ้านในปีนี้ มาจากการประเมินผลของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ รวมๆ ปีหน้าประเด็นภายในที่จะส่งผลต่อการลงทุนคือ ความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ส่วนภาคการส่งออก คาดยังทรงและซึม จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนค่า Earning revision ratio ที่ปรับตัวขึ้นแรง มาจากการปรับค่า EpS หุ้นในกลุ่มที่โตจากในประเทศ
สัปดาห์นี้คาดดัชนียังคงได้รับแรงหนุนจาก แรงซื้อในประเทศ ส่วนปัจจัยในต่างประเทศดูเหมือนจะไม่เป็นใจ คือดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในช่วงก่อนสิ้นปี แต่ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ได้ ปัจจัยที่กำหนดทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์นี้คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานในสหรัฐและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะยังมีไม่น่ามีอะไรมาก ส่วนวันนี้ทาง รองนายกฝ่ายเศรษฐกิจจะออกมาแถลงแนวทางเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานว่าจะยังเป็นไปตามกรอบที่กำหนด ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมา
วันนี้เปิดขึ้นดัชนี SET จะผันผวนตามภูมิภาคแต่สุดท้ายน่าจะดีดตัวกลับได้จากแรงหนุนของแรงซื้อในประเทศ ส่วนแรงขายที่จะเกิดจาก LTF/RMF ยังไม่น่าจะมาก เนื่องจากดัชนี SET ในช่วง 3 ปีก่อนยังอยู่ระดับเดียวกับปัจจุบัน ทิศทางดัชนีทั่วโลกในเดือน ม .ค. คาดยังคงอิงกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในเดือน ม.ค. เพราะสามารถพยากรณ์ทิศทางดัชนีได้ทั้งปีถึง 75%
กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะดีดตัวกลับได้ในช่วงสัปดาห์นี้คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร รับเหมา จากแรงหนุนของการเก็งงบ Q4/15 และความชัดเจนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1282-1278 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1295-1300 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,272.45 จุด ลดลง 15.57 จุด (-1.21%) มูลค่าการซื้อขาย 14,784.81 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลปรับตัวลง ตามตลาดภูมิภาคเอเชีย โดยมีแรงกดดันจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่หดตัวต่ำกว่าคาด และกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง บ้านเราช่วงเช้ามีแรงขายนำในกลุ่มสื่อสาร และธนาคาร ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.58 หดตัว -0.85% yy -0.39% mm ทั้งปี 2558 CPI -0.9%
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย ลุ้นรีบาวน์ที่ 1270 จุด ช่วงเช้าแรงขายหุ้นใหญ่จากกลุ่มสื่อสารและธนาคารเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยนอกจากปัจจัยต่างประเทศที่กดดันแล้ว ส่วนหนึ่งเราคาดว่าจะเป็นแรงขายของการไถ่ถอน LTF ซึ่งโดยปกติจะมีออกมาค่อนข้างมากในช่วงสัปดาห์แรกของปี และจะเริ่มเบาบางลงหลังจากนั้น ซึ่งจะทำให้ตลาดรีบาวน์กลับมาได้ ดังนั้น เรามองว่าการปรับตัวลงของ SET จะเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นสำหรับลงทุนระยะยาว โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงแรงๆในวันนี้เช่น KBANK BBL DTAC ADVANC INTUCH มีระดับราคาที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ ส่วนทางเทคนิค หาก SET ยืนเหนือ 1270 จุดไม่ได้ จะลงไปทดสอบ lw เดิมที่ 1258 จุด แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1285 จุด หากไม่ต่ำกว่า 1250 จุด ยังไม่ต้อง Stp lss สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้เข้าซื้อไว้
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
NCL Iteatial Listics (NCL TB; THB 2.34) - ซื้อ
Chulaat Hspital (CHG TB; THB 2.70) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]