- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 December 2015 16:06
- Hits: 953
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways Up
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการซึมตัวลงมาแกว่งบริเวณ 1,275-1,280 จุด หุ้นหลักโดยรวมเกิดแรงขายระยะสัปดาห์เข้ามา อีกทั้งตลาดหุ้นหลักในเอเชียและทุกตลาดในยุโรป ปิดทำการ เนื่องในวัน คริสต์มาส ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนเป็นไปอย่างเงียบเหงา ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,282.93 จุด ลบ 1.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 16,655 ล้านบาท
ทั้งนี้ ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 15 เพียง 326 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index futures เป็นวันที่ 6 อีก 3,174 สัญญา แต่กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 887 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ธปท.ปรับประมาณการ GDP ปีนี้ขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.8% จากเดิม 2.7% แต่คงเป้าปี 2559 ที่ 3.5%
ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย.ของไทย Bloomberg consensus คาด -5.00% yoy ส่วนการนำเข้าหดตัว 14.50% yoy ทำให้ดุลการค้าคาดว่าจะเกินดุล US$1.7 พันล้าน
มูลค่าการซื้อขายเบาบาง
มุมมองต่อตลาด
เราประเมินภาพ SET INDEX วันนี้ แกว่งแคบระหว่าง 1,280-1,290 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน เหลือเพียงกองทุนภายในประเทศที่คาดว่าจะยังคงเดินหน้าทำ Window Dressing ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เราคาดว่า SET INDEX มีโอกาสปิดยืนเหนือ 1,300 จุด ณ สิ้นปีนี้
สำหรับการปรับประมาณการ GDP ของ ธปท.ปีนี้ขึ้นเป็น 2.8% จากเดิม 2.7% สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 4Q58 และแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน 4Q58 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค - การลงทุนภายในประเทศ จะมี Downside risk ที่จำกัดมากยิ่งขึ้น
กลุ่มที่คาดว่าจะเด่นในช่วง 3 วันทำการสุดท้ายของปี 2558 ในความเห็นของเราคือ กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี เพราะแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะกลับมายืนเหนือ US$40/barrel ขณะที่กลุ่ม Domestic Play ในช่วงโค้งสุดท้าย คาดว่าจะเป็นกลุ่มค้าปลีก / ค้าปลีกไอที ได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค. 2558
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจหาจังหวะเข้าเก็งกำไรในหุ้นเป้าหมาย หากราคามีการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เพื่อรอจังหวะขายทำกำไรบริเวณ 1,300 จุด +/-"
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Speculative Buy: BIG
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
BIG: ราคาปิด 1.54 บาท ราคาเหมาะสม 2.30 บาท
หุ้นกลุ่มค้าปลีกมี Sentiment บวกจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยช่วงปลายปี 2558 โดยสามารถนำรายจ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค.มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกิน 15,000 บาท
แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BIG ใน 4Q58 ที่ยังไม่รวมอานิสงค์จากมาตรการของรัฐบาล เราคาดว่าจะทำกำไรสูงสุดใหม่ของบริษัทที่ 128 ล้านบาท เติบโต 9% yoy และ 81% qoq ด้วยผลของ Seasonal และ กระแสความต้องการใช้กล้อง Mirrorless ของกลุ่มวัยรุ่น ทำให้ตลาดกล้องดังกล่าวมีการเติบโตที่โดดเด่นในปีนี้ แซงหน้ากล้อง DSLR ไปอย่างชัดเจน
ภาพการเติบโตของปี 2559 จะยังต่อเนื่อง จากผู้ผลิตกล้องทุกค่าย ต่างเร่งออกกล้องรุ่นใหม่ในเทคโนโลยี Mirrorless เพื่อตอบสนองตลาดที่เติบโตอย่างโดดเด่น และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เราคาดว่า BIG จะทำกำไรปกติในปีหน้าเป็น 439 ล้านบาท เติบโต 13%
ขณะที่ Valuation ของ BIG เมื่อเทียบกับ COM7 และ SIM มีความถูกอย่างเห็นได้ชัด ด้วย PER16 เท่ากับ 11.41x และผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4% ต่อปี ขณะที่ SIM ซื้อขาย PER16 เท่ากับ 28.00x และ COM7 เท่ากับ 18.62x
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$68 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$65 ล้าน
แต่ยังคงขายตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
Foreign Investors Action วานนี้
แรงขายต่างชาติชะลอตัวมากขึ้น
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 15 เหลือเพียง 326 ล้านบาท รวม 15 วันทำการขายสุทธิ 34,400 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิทะลุ 1.5 แสนล้านบาท เป็น 156,744 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 6 อีก 3,175 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 17,993 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 4,180 สัญญา คาดทยอยปิดสถานะ Short และกลับมา Long สุทธิต่อเนื่อง ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับเป็น 33,432 สัญญา โดย S50H16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 13.87 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 14.82 จุด
และต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 887 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 10 อีก 0.54bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.95bps ปิดที่ 2.547%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 3 เหลือ 389 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 579 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่เบาบาง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีกเพียง 151 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 250 ล้านบาท ทั้งนี้ภาพรวมเป็นการซื้อสุทธิที่เบาบางในแต่ละกลุ่ม สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 3 ล้านบาท เท่านั้น
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกซื้อสุทธิ สูงสุดเป็นวันที่ 2 เพียง 57 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 116 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 31 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 61 ล้านบาท
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530