- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 December 2015 16:29
- Hits: 1000
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Merry X’Mas
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังเปิดบวกสู่ด่าน 1,280 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน และ ปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัว รวมถึงกลุ่ม ICT ที่เกิดแรงสะสมต่อเนื่อง ภายใต้บรรยากาศรอบเอเชียที่เป็นกลางถึงบวก ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเป็นวันที่ 2 อีก 9.65 จุด มาอยู่ที่ 1,284.15 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายชะลอเหลือ 33,773 ล้านบาท แม้ว่าจะมีรายการ Big Lot หุ้น SAWAD มูลค่ากว่า 2.0 พันล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 14 ลดลงเหลือ 1,627 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index futures เป็นวันที่ 5 มากถึง 4,502 สัญญา และกลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 12 วันทำการ 283 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• ตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการวันนี้ ได้แก่ เกาหลีใต้/ ฮ่องกง/ ฟิลิปปินส์/ อินโดนีเซีย / สิงคโปร์/ มาเลเซีย/ อินเดีย และตลาดหุ้น – ตลาดล่วงหน้า – ตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐฯ
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย. โดย ธปท. วันที่ 30 ธ.ค.
• การทำ Window Dressing ของกองทุนภายในประเทศ
• กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว
มุมมองต่อตลาด
เราคงภาพการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up สู่ด่าน 1,290 จุด แม้ว่าจะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และมูลค่าการซื้อขายมีแนวโน้มเบาบางมากขึ้นก็ตาม แต่ด้วยแรงขายจากต่างชาติที่จะเบาบางมากยิ่งขึ้นต่อเนื่องถึงสิ้นปีนี้ ย่อมทำให้ผลของการทำ Window Dressing และเม็ดเงิน LTF / RMF จะช่วยผลักดันภาพรวมของ SET INDEX
สำหรับความกังวลต่อแรงขายของกองทุน LTF ที่จะครบกำหนด 5 ปีพร้อมขายในเดือนม.ค. 2559 คือการซื้อ LTF ในปี 2555 ซึ่ง SET INDEX ระดับปิดเฉลี่ยตลอดเดือนธ.ค. 2555 เท่ากับ 1,362.37 จุด หรือระดับปิด ณ สิ้นปี 2555 เท่ากับ 1,391.93 จุด เทียบกับ SET INDEX วานนี้ปิดที่ 1,284.15 จุด จึงไม่น่าเป็นประเด็นกังวล แต่เรากลับให้โอกาสของการเกิด January Effect เป็นไปได้ในต้นปี 2559 และหากตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของไทย ส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง ย่อมสร้างโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินทุนต่างชาติกลับมาสนใจตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่ได้ปรับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในภาพรวม แต่อาจเห็นการเลือกลงทุนเป็นรายตัวอีกครั้ง หลังจากที่ลดน้ำหนักหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร / กลุ่มพลังงาน หรือ กลุ่ม ICT ในล่าสุด
ประเด็นการลงทุนในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของไทย หากการใช้จ่ายภาคการบริโภค ฟื้นตัวต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นภาคเอกชนฟื้นตัวเป็นเดือนที่ 4 พร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง เชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นต่อภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงต้นปีหน้าได้เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนอาจหาจังหวะเข้าเก็งกำไรในหุ้นเป้าหมาย หากราคามีการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย และถือข้ามสัปดาห์” เพื่อรอจังหวะขายทำกำไรบริเวณ 1,300 จุด +/-
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ได้แก่
GLOBAL : ราคาปิด 9.70 บาท ราคาเหมาะสม 11.00 บาท
o หุ้นกลุ่มค้าปลีกมี Sentiment บวกจากมาตรการภาษ๊เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยช่วงปลายปี 2558 โดยสามารถนำรายจ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค.มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกิน 15,000 บาท
o คาดกำไร 4Q58 ฟื้นตัว yoy และ qoq จาก SSSG ที่จะขยับขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากนโยบายของภาครัฐฯ ที่มุ่งเน้นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่กลุ่มคนรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัดซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของ GLOBAL
o ทิศทางการเติบโตในระยะยาวโดดเด่น จากการขยายตัวไปยังตลาดต่างประเทศผ่านบริษัทร่วมทุนกับ SCG ดังนั้น GLOBAL จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ASEAN เช่น ลาว, พม่า และกัมพูชา
o คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +17.2% yoy เป็น 1,123 ล้านบาท และต่อเนื่อง +17.1% yoy เป็น 1,315 ล้านบาท ในปี 2560