- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 December 2015 17:44
- Hits: 962
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังย้อนปิดลบ แต่ก็ทรงตัวได้ดี จึงยังน่าลุ้นรีบาวด์ได้…
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังปรับย้อนลงมาปิดเป็นลบอยู่ แต่ก็เริ่มมีจังหวะขยับบวกได้บ้าง และในจังหวะย้อนลบก็พอที่จะแกว่งทรงตัวได้ด้วย ขณะที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศสดใสพอควร ทำให้ FSS ยังคาดหมายโอกาสรีบาวด์ของตลาดหุ้นไทยอยู่ ดังนั้นยังแนะนำเน้นถือต่อได้ แต่ถ้าจะเลือกหุ้นซื้อ เราไม่แนะนำให้ไล่ซื้อช่วงบวกเพราะยังมีความเสี่ยง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ERW, SR, M(buy back)
แนวโน้ม : แม้ว่า SET ปิดเป็นลบต่อเนื่องเมื่อวานนี้ แต่ก็ถือว่าตลอดทั้งวันยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ดัชนีมีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นบ้าง ในขณะที่หุ้นในกลุ่ม ICT ก็เริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาให้เห็นบ้างเป็นรายตัว ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศช่วงนี้ยังมีการเคลื่อนไหวในด้านบวกให้เห็นต่อเนื่อง หลังตลาดหุ้นสหรัฐมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นมาแกว่งด้านบวกได้ค่อนข้างแรง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าจะสามารถรับมือกับแนวโน้มการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ อย่างไรก็ตามคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังต้องการรอดูตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่จะทยอยประกาศในช่วงท้ายสัปดาห์นี้อีกครั้ง ทำให้ SET ก็น่าจะยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวนโดยมีจังหวะบวก-สลับเช่นเดิม แต่ FSS ยังคาดหมายว่า SET ใกล้ที่จะมีรอบรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งบวกต่อเนื่องได้บ้างในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอขายช่วงบวกดีกว่า ส่วนถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อ ก็ยังเน้นรอจังหวะตลาดอ่อนตัวถึงจะเลือกหุ้นเข้าซื้อ มากกว่าการเข้าซื้อในลักษณะไล่ราคา เพราะยังมีความเสี่ยงสูง
แนวรับ 1258-1255 , 1252-1244 จุด
แนวต้าน 1268-1272 , 1275-1285 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคแต่เริ่มชะลอลง US$170 ล้าน นำโดยไทย US$164.2 ล้าน และอินโดนีเซีย US$28.8 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$30 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$8.3 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่ชะลอลงหลังสหรัฐเผย GDP 3Q15 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด แต่มูลค่าการซื้อขายอาจเบาบางก่อนถึงเทศกาลวันหยุดยาว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) GDP3Q15 ของสหรัฐ +2% สูงกว่าตลาดคาดที่ 1.9% จากการบริโภคภาคเอกชน ในขณะที่ส่งออกยังเป็นตัวฉุด ทั้งนี้ Fed คาด GDP ปีนี้โต 2.1% ปีหน้าโต 2.4%
(+) รัฐบาลให้ของขวัญ ก.คลังเสนอให้ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 1.5 หมื่นสำหรับการซื้อสินค้าและบริการระหว่าง 25-31 ธ.ค. 2015 รวมกับมาตรการเดิมสำหรับการท่องเที่ยว ค่าโรงแรมในประเทศที่เริ่มตั้งแต่ 16 ธ.ค. 2014 - 31 ธ.ค. 2015 หุ้นที่ได้ประโยชน์มี MINT, CENTEL, ERW, COM7, BIG, MAKRO, HMPRO, GLOBAL, ROBINS, BEAUTY , SINGER
(0) ยอดส่งออกรถยนต์ พ.ย. พลิกกลับมาลดลง 9% M-M และ 5% Y-Y เพราะแรงซื้อจากตะวันออกกลางชะลอตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนยอดขายในประเทศ +13% M-M, +5% Y-Y เพิ่มขึ้น Y-Y ครั้งแรกในรอบ 31 เดือนจากแรงซื้อรถ PPV (ฟอร์จูนเนอร์, ปาเจโร่, เอเวอเรสต์) เพราะถูกกระทบจากการปรับขึ้นภาษีรถใหม่มากสุด แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q15 ของกลุ่มยานยนต์ทรงตัวถึงชะลอเล็กน้อย Q-Q แรงซื้อรถต้นปีหน้าที่จะหายไปจากแรงซื้อที่ถูกดึงมาปลายปีนี้ ทำให้กลุ่มยานยนต์หมดความน่าสนใจในการเก็งกำไรช่วงสั้น เราคงน้ำหนัก Neutral แนะนำซื้ออ่อนตัวสำหรับ SAT (เป้าหมาย 20.40 บาท) ที่รายได้ปีหน้าจะเพิ่มจาก Big Truck และบ.ย่อย SFT และ EPG (เป้าหมาย 15 บาท) ที่ยอดผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เกิด Economies of scale แล้วและมีตลาดในหลายประเทศทั่วโลก
(0) ADVANC บรรลุข้อตกลงกับ TOT ในการนำคลื่น 2100MHz จำนวน 15MHz ของ TOT มาให้บริการ ปริมาณคลื่นความถี่ของ ADVANC จะเพิ่มเป็น 45MHz จากที่มีอยู่ 30MHz และจะเช่าเสาของ TOT ทำให้ประหยัดการลงทุนสร้างเสาเองได้บางส่วนแต่ต้องจ่ายค่าเช่าคลื่นให้ TOT เพิ่มขึ้น ประเด็นนี้เป็นแผนงานที่บริษัทชี้แจงใน Conference call แล้ว เรายังคงมุมมองเดิมคือเชื่อว่า ADVANC จะสามารถรักษาความเป็นเบอร์ 1 ได้ในระยะยาว แต่การแข่งขันที่รุนแรงและไม่มีรูปแบบเพราะคู่แข่งเพิ่มขึ้น จะทำให้การเติบโตของกำไรพักตัวชั่วคราวใน 1-2 ปีข้างหน้า ความน่าสนใจซื้อเหลือเพียง Dividend yield ที่คาดสูงถึง 7-8% เราคงราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 230 บาท
(+) JASIF ราคาหุ้นที่ร่วง 12% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาตามหุ้นกลุ่มสื่อสาร ด้วยข่าวลือต่างๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ รายได้ของ JASIF มาจากค่าเช่าโดยให้ TTTBB (บ.ลูกของ JAS) เช่าเส้นใยแก้วนำแสง และมีสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า จึงมีความเสี่ยงต่ำ การที่ JAS ประมูลคลื่นมาแพง ไม่เกี่ยวข้องกับ JASIF เพราะทั้งสองเป็นคนละบริษัท เพียงแต่ JAS ถือหุ้นใน JASIF 33.33% และตามข้อกำหนดของกองทุน JAS ต้องถือ 33.33% ในปีที่ 1-3 (2015-17) และต้องไม่น้อยกว่า 19% ในปี 4-6 ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่า NAV ที่อยู่ที่ 10.288 บาท และให้ Dividend yield 8% (คาดปีนี้จ่าย 0.70 บาท/หุ้น) จึงน่าสนใจซื้อ
(+) ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังปิดพุ่งขึ้นอีก 165.65 จุด โดยปิดไปที่ 17,417.27 จุด ขานรับตัวเลข GDP ไตรมาส 3/58 ของสหรัฐที่ยังถือว่าขยายตัวได้ดี รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นด้วย
(-) ตลาดหุ้นยุโรปยังค่อนข้างไร้ทิศทาง ท่ามกลางภาวะซบเซา เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้น ประกอบกับเข้าใกล้ช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสด้วย
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังสดใสต่อเนื่องอยู่ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเปิดบวกไม่แรงมากก็ตาม
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มาแกว่งทรงตัวในกรอบ 36.01-36.10 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์เริ่มอ่อนแรง
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 36.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.33 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,074.10 ดอลลาร์/ออนซ์ กลับมาร่วงลง 6.5 ดอลลาร์/ออนซ์ คาดนักลงทุนลดการถือครองทองคำลง หลังตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นแรง รวมทั้งเป็นการชะลอการซื้อขายก่อนติดช่วงวันหยุดด้วย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23-ธ.ค. - ไทย: รัฐบาลแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี, MIT เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
- ญี่ปุ่น: ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวัน Emperor’s Birthday
- สหรัฐ: รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.)
24-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการ: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง
- ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.)
25-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐ
- ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, อัตราการใช้กำลังการผลิต (พ.ย.), กกพ.จับฉลากผู้ได้ใบอนุญาตรับซื้อไฟฟ้า (PPA) ในโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ 600MW
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่ (พ.ย.)
29-ธ.ค. - สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Index (ต.ค.)
30-ธ.ค. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
- สหรัฐ: Pending home sales (พ.ย.)
31-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการวันนี้: ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไทย
1-ม.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch