- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 December 2015 17:42
- Hits: 933
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Retail Sector
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดฟื้นตัวขึ้นทดสอบด่าน 1,275 จุด นำโดยหุ้นหลัก ADVANC / INTUCH / DTAC แต่การฟื้นตัวทำได้เพียงจำกัด แรงขายลดน้ำหนัก ADVANC / DTAC ยังคงดำเนินต่อมา รวมถึงกลุ่มธนาคารที่เผชิญกับแรงขายอีกครั้ง แม้ว่าบรรยากาศรอบเอเชียจะเป็นบวก ส่งผลให้ SET INDEX ซึมตัวลงและปิดที่ 1,261.66 จุด ลบเล็กน้อย 2.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,938 ล้านบาท
ทั้งนี้ ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 12 สูงถึง 5,931 ล้านบาท คิดว่าจะยังเป็นการลดน้ำหนักกลุ่ม ICT ต่อเนื่อง แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 2,183 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 10 เพียง 209 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
มาตรการกระตุ้นภาคการบริโภคภายในประเทศ ด้วยการนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 15,000 บาทในปีภาษีนี้
คาดแรงขายในกลุ่ม ICT จะชะลอตัว ทั้งนี้จับตา DTAC หลัง Conference call ค่ำวานนี้แล้วไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระจักรพรรดิ์
มุมมองต่อตลาด
เราประเมิน SET INDEX วันนี้จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่แนวต้าน 1,268-1,270 จุด พร้อมให้จับตาการเคลื่อนไหวของหุ้น ADVANC / INTUCH หากสามารถทรงตัวถึงฟื้นตัวได้ บรรยากาศการลงทุนโดยรวมจะกลับมาเป็นกลางถึงบวกได้อีกครั้ง ซึ่งเราเชื่อว่าต่างชาติที่ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่นในช่วง 2 วันทำการกว่า 1.0 หมื่นล้านบาท เป็นการลดน้ำหนักกลุ่ม ICT ซึ่งสถาบันทั้งในและต่างประเทศลงทุนใน ADVANC/ INTUCH / DTAC ค่อนข้างมาก เพราะเป็นหุ้นปันผลเด่น การขายสุทธิทั้ง 2 วันทำการที่ผ่านมา น่าจะสะท้อนการปรับลดน้ำหนักกลุ่มนี้ไปแล้ว อีกทั้งจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.
แต่ที่น่าจับตามองคือ หุ้นขนาดกลาง ที่อาจเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2558 นอกเหนือจากหุ้นหลักที่เราเชื่อว่ากลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร / อสังหาฯ / รับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว / สายการบิน / AOT ที่ราคาหุ้นหลักๆ ของกลุ่มเหล่านี้ราคามี upside gain จำกัดมากขึ้น
รวมถึงกลุ่มค้าปลีก / ค้าปลีกไอที คาดว่าจะเกิดแรงเก็งกำไรต่อมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ หลังครม.มีมตินำใบเสร็จการซื้อสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค.2558 ไม่เกิน 15,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมสำหรับปีภาษี 2558 ได้
หากกระแสเงินทุนลงทุนของต่างชาติเป็นไปตามสิ่งที่เราคาดการณ์ SET INDEX จะมีแนวโน้มฟื้นตัวลักษณะ sideways-to-sideways-up สู่ 1,300 จุดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ด้วยแรงผลักดันของการทำ Window dressing และเม็ดเงินใหม่จาก LTF / RMF
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม Domestic Play อาจพิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,280 จุด +/- " เพื่อรอจังหวะเข้าเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย หากราคามีการย่อตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Speculative Buy: ERW
Accumulative Buy: ADVANC
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
ADVANC : ราคาปิด 151.50 บาท ราคาเหมาะสม 220.00 บาท
MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อ ADVANC ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ แม้ว่าการเกิดคู่แข่งขันรายใหม่ อาจส่งผลกระทบเชิงลบในแง่ Sentiment ว่าการแข่งขันอาจมีความรุนแรงขึ้น แต่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงถึง -22% หลังทราบการประมูล 4G คลื่น 900MHz เชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว
จุดเด่นอยู่ที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึงปีละ 7.8% โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2559 หุ้นละ 11.68 บาท
คลื่นความถี่จำนวน 30MHz บนความถี่ 2100 MHz และ 1800 MHz เพียงพอที่จะรองรับความต้องการใช้งานของลูกค้าไปอีกอย่างน้อย 3 ปีข้างหน้า และการบรรลุข้อตกลงกับ TOT เพื่อนำคลื่น 2100 MHz ของ TOT มาให้บริการอีก 15MHz จะช่วยเสริมหากความต้องการใช้ Data ของลูกค้าเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์
เชื่อว่าการปรับพอร์ตของต่างชาติจะเริ่มเบาบางลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาส์ และปีใหม่ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสในการเข้าสะสม
Valuation เข้าสู่ระดับที่น่าสนใจ ที่ระดับ PER2559 ที่ 12.9 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่สูงกว่าระดับ 15 เท่า
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
ERW : ราคาปิด 4.26 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
ราคาหุ้น Laggard มาก โดย YTD -8.1% เทียบกับ SET TOURISM +18.2% และหุ้นธุรกิจโรงแรม เช่น CENTEL +44.3%, MINT +10.7%
ทิศทางผลประกอบการ 4Q58 แข็งแกร่ง เติบโตเด่น ทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ ดังนั้น เบื้องต้นเราคาดการณ์กำไร 4Q58 ที่ 112 ล้านบาท เติบโตถึง +129% yoy และพลิกกลับจากขาดทุนใน 3Q58
คาดกำไรจาการดำเนินงานปกติปี 2559 จะเติบโต +88.9% yoy เป็น 393 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด คือ โรงแรม Hop Inn ที่จะสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่อง ผลักดันให้ EBITDA Margin ในปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 26.4% จากปี 2558 ที่ 25.4%
Valuation ต่ำกว่าหุ้นในกลุ่ม โดยซื้อขายระดับ EV/EBITDA2559 ที่ 11.3 เท่า ต่ำกว่า CENTEL ที่ 14.1 เท่าและ MINT 15.5 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$155 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิUS$209 ล้าน
เน้นขายตลาดหุ้นไทย
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักกลุ่ม ICT เป็นหลักต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 12 ขยับขึ้นเป็น 5,931 ล้านบาท รวม 12 วันทำการ ขายสุทธิ 27,217 ล้านบาท คาดว่าจะยังเป็นการลดน้ำหนักกลุ่ม ICT หลังนักวิเคราะห์ต่างออกมาลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นหลักของกลุ่มนี้ และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิทะลุ 1.4 แสนล้านบาท เป็น 149,561 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 2,183 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 6,918 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 4,180 สัญญา คาดทยอยปิดสถานะ Short และกลับมา Long สุทธิ เมื่อ SET50 Index ลงมาใกล้ระดับ 800 จุดเหมือนวันก่อนหน้า ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับเป็น 22,357 สัญญา เมื่อ S50Z15 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เท่ากับ 0.43 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.39 จุด
และต่างชาติขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 10 ลดลงเหลือเพียง 209 ล้านบาท รวม 10 วันทำการ ขายสุทธิ 26,184 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 7 อีก2.89bps จากวันก่อนหน้าลดลงเพียง 0.14bps ปิดที่ 2.564%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 เท่ากับ 1,315 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,231 ล้านบาท กระจุกตัวอยู่ที่ ADVANC - INTUCH-JAS - TRUE
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 เน้นลดน้ำหนัก ADVANC เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีก 701 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าขายสุทธิมากถึง 1,085 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 2,057 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการลดน้ำหนักหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่น 4G ต่อเนื่อง สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 878 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 1,108 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ขายสุทธิ 54 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 เล็กน้อย 61 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 324 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 57 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นกลาง
GDP ใน 3Q58 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 2.0% qoq เท่ากับ Bloomberg consensus แต่ลดลงจากตัวเลขก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 2.1% qoq โดยมีการปรับการเติบโตของสินค้าคงคลังเป็น US$8.55 หมื่นล้าน จากเดิม US$9.02 หมื่นล้าน
ยอดขายบ้านมือสอง เดือนพ.ย. เท่ากับ 4.76 ล้านหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 5.32 ล้านหลัง หรือหดตัว 10.5% mom เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 4.1% mom โดยเป็นยอดขายบ้านเดี่ยวที่หดตัว 12.1% mom ขณะที่คอนโดฯ กลับเพิ่มขึ้น 1.7% mom
ยุโรป
เศรษฐกิจสเปนขยายตัวต่อเนื่อง: ธนาคารกลางสเปน ประเมินเศรษฐกิจใน 4Q58 เติบโต 0.8% qoq และทำให้ภาพทั้งปี จะเติบโต 3.2% yoy ผลักดันด้วยการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
อินเดียทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้น: ประมาณการงบประมาณปี 2558 สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2559 คาดว่าจะขาดดุลเพิ่มขึ้น 1.0% เป็น 8.5% ของ GDP ทั้งนี้การปรับโครงสร้างอาจทำให้การขาดดุลงบประมาณปีหน้าจะลดลงเป็น 4.57% ของ GDP จากตัวเลขเดิมที่ 2.76% ทำให้รัฐบาลมีวงเงินที่จำกัดในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ไทย
ครม.เห็นชอบหลักการ National E-Payment: ประชุมครม. เห็นชอบการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นประธาน เพื่อผลักดันการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแผนยุทธศาสตร์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดย National e-Payment Master Plan จัดทำขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทยให้เข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) อย่างครบวงจร
คลังเตรียมแถลงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย - ลดหย่อนภาษี: นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าว ว่า อีก 1-2 วันจะมีมาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคจับจ่ายใช้สอยของประชาชนออกมา รวมถึงรัฐบาลยังเตรียมปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะลดอัตราสูงสุดให้ต่ำลงกว่า 35% เพื่อไม่ให้เขย่งกับภาษีนิติบุคคลที่ลดเหลือ 20% ในปัจจุบัน อัตราภาษีบุคคลธรรมดาจะปรับลดลง และจะให้มีการลดหย่อนมากขึ้นด้วย เพื่อให้สะท้อนความจริงมากขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้ ทั้งนี้ เรายังจะมีมาตรการอื่นมากระตุ้นกำลังซื้อในอีก 1-2 วันนี้ด้วย
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530