- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 December 2015 16:31
- Hits: 1760
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แกว่งลงต่อ แต่ยังเชื่อตลาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว / แนะทยอยสะสม
KGI คาด SET วันจันทร์แกว่งลงต่อ (ศุกร์ที่แล้วลงแรงกว่าคาด หุ้นพลังงาน + สื่อสารถ่วง) คาดจิตวิทยาช่วงสั้นมากของหุ้นสื่อสารยังไม่ดี หลังราคาประมูลคลื่น 900 จบที่สูงกว่าคาดมาก และมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรม (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์วันนี้) ขณะที่หุ้นพลังงานอาจถูกกระทบจากประเด็นข่าวในสหรัฐฯ ที่ว่าคองเกรสอนุมัติให้สหรัฐฯ ส่งออกน้ำมันดิบได้หลังไม่ส่งออกมาหลายสิบปี ผนวกกับรายงานแท่นขุดเจาะปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีเราคงมุมมอง SET ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังปัจจัยภายนอกเรื่องทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีความชัดเจน และหุ้นกลุ่มหลักๆ น่าจะย่อยข่าวลบหมดเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ช่วง 8 วันทำการที่เหลือของปีน่าจะมีแรงซื้อจากฝั่งสถาบันต่อเนื่อง ตามเม็ดเงิน LTF/RMF นับจากต้นเดือนสถาบันซื้อสุทธิ 7.6 พันล้านบาท ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 9 ปีที่ผ่านมาที่ซื้อสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
สะสม DIF (ได้อานิสงค์จากผลประมูล 4G), เก็งกำไรแนวรับ EPG
DIF (เป้า Consensus 14 บาท) 1) คาดเป็นผู้ที่จะได้อานิสงค์จากผลการประมูล 4G (JAS* และ TRUE* ชนะการประมูล) ในฐานะผู้ให้บริการเช่าโครงการ เราประเมิน i) TRUE* ชนะ 2 ใบอนุญาตมีโอกาสที่จะขยายโครงการข่ายใหม่เพิ่มเติม และขายเข้า DIF (สินทรัพย์เพิ่ม) ii) JAS* ในช่วงต้นของการทำธุรกิจ คาดจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การเช่าโครงการข่ายฯ เนื่องจากการสร้างโครงการข่ายฯเองต้องใช้เวลา 2) เป็นกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลเฉลี่ยปีละ 7 – 8%
EPG (เป้า Consensus 13.5 บาท) 1) ราคาหุ้นวันศุกร์ติดแนวต้านที่เราประเมินไว้ 13.2 บาท มีโอกาสย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่บริเวณ ±12 บาท แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” แนวรับ 2) ในเชิงพื้นฐาน คาดได้อานิสงค์จาก i) ราคาน้ำมันต่ำ ส่งผลให้ราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นต้นทุนหลักลดลง (คาดอัตรากำไรขั้นต้นยืนได้สูงกว่า 35% ใน 2H58/59 ปิดงบเดือน มี.ค.) ii) เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว (สะท้อนจากการที่ FED ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย) ส่งผลบวกต่อความต้องการสินค้า (ฉนวนยาง + ชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ EPG เน้นส่งออกเป็นหลัก) ... สำหรับหุ้นที่ผลิตพลาสติกคาดจะได้อานิสงค์จากต้นทุนเม็ดพลาสติกราคาต่ำไปด้วย อาทิ TPAC, PJW เป็นต้น
… กลุ่มสื่อสาร (ADVANC*) ผลการประมูลที่ต่างจากที่ Consensus คาด มีโอกาสส่งผลลบต่อภาพรวมการลงทุนหุ้นในกลุ่มฯในระยะสั้น เพราะการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้น หลังจากที่มีคู่แข่งรายใหม่คือ JAS* (นักลงทุนสถาบันอาจลดน้ำหนักการลงทุน และเปลี่ยนไปยังกลุ่มอื่น) เราประเมินหุ้น ADVANC* จะเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งสุด แนะนำ “รอสะสม” แนวรับ 187.5 บาท และถัดไป ±170 บาท ในส่วนของหุ้นอื่นๆ แนะนำ หลีกเลี่ยง … อ่านบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม
… IFEC (เป้า Consensus 13 บาท) ราคาหุ้นวันศุกร์ปรับลงจาก 2 ประเด็น i) นักลงทุนกังวลการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง (ถือ 63 ล้านหุ้น, 3.45%) หลังมีบทสัมภาษณ์เรื่องการลงทุนใน รร ดาราเทวี นสพ กรุงเทพธุรกิจวันศุกร์ที่ผ่านมา ii) ราคาหุ้นปรับลงจนอาจเกิดแรงขายจากการ Force Sell เราประเมินดังนี้ 1) การลงทุนใน รร ดาราเทวี เป็นโอกาสในการลงทุนที่ใช้กระแสเงินสดไม่มาก (2.5 พันล้านบาท) เพื่อให้ได้สินทรัพย์ที่มีราคาประเมินใหม่ 4 พันล้านบาท (ราคาประเมินที่ดินใหม่อยู่ที่ ±15 ล้านบาท/ไร่ โดย รร ดาราเทวีมีที่ดินรวม 155 ไร่ ไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง ดังนั้นราคาที่ดินเพียงอย่างเดียว >2 พันล้านบาท) และเป็นการลงทุนที่สร้างกำไร (ที่ผ่านมา EBITDA เป็นบวก แต่ขาดทุนเพราะแบกภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยปีละ 100 – 150 ล้านบาท หลัง Hair cut จะพลิกกำไร) ... การลงทุนพลังงานทดแทนในต่างประเทศและ รร ดาราเทวี เป็นการตอบโจทย์เรื่องการเลื่อนจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการฯ 2) การลงทุน รร ดาราเทวีไม่กระทบแผนลงทุนพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ (มีแหล่งเงินทุนชัดเจน ไม่ได้ใช้เงินเพิ่มทุน) 3) เช้าวันนี้ มีโอกาสที่จะถูกแรงขายการ Force Sell แนะนำนักลงทุน Wait&See รอซื้อเก็งกำไร
… SMPC (เป้าพื้นฐาน 7.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท และถัดไปที่ 6 บาท ในส่วนของแนวต้านประเมินไว้ที่ 6.9 บาท 2) แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 คาดจะโตเด่น QoQ จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 85 – 90% (จาก 76% ในไตรมาส 3/58)
… ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.5 บาท รูปแบบราคายังเป็น Sideway up และประเมินแนวต้าน 6.15 บาท 2) คาดไตรมาส 4/58 กำไรยังดีต่อเนื่อง และจะเป็นขาขึ้นไปอีก 2 – 3 ปีเป็นอย่างน้อย โดย i) มีโอกาสได้งานระบบไฟฟ้าโครงการโซลาร์ส่วนราชการฯด้วย (เดิมมีส่วนแบ่งตลาดราว 30-40%) ii) การลงทุนภาครัฐฯ (ASEFA รอส่งงานระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีน้ำเงินมูลค่าราว >200 ล้านบาท และมีโอกาสได้งานรถไฟฟ้าสีอื่นๆเพิ่มเติม) และ iii) การขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคม (4G, Datacenter) ทั้งนี้ ASEFA มีการขยายกำลังการผลิต +50% ไตรมาส 1/59 รองรับ Mega trend ของอุตสาหกรรมฯ
… หุ้นอื่นๆที่แนะนำก่อนหน้า 1) PLAT (เป้า Consensus 7.4 บาท) แนะนำ “ถือ/ซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุน” Consensus คาดกำไรโต >30% CAGR ทำให้ PEG ตอนนี้ต่ำกว่า 1 เท่า (±0.7 เท่า) 2) BBL* (เป้าพื้นฐาน 195 บาท) วานนี้ราคาหุ้นปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 158 บาท ตามคาด หากวันนี้ดีดพ้นแนวต้าน 158 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 162 บาท เป็นจุดขายทำกำไร แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 158 บาทได้ แนะนำ “ขายล๊อกกำไร”
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, IFEC, ASEFA
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มท่องเที่ยว (โรงแรม) ฝ่ายวิจัยฯ คงน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” โดยประเมิน 1) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้น 2) อัตราค่าห้องพักเพิ่มขึ้นจาก Occupancy rate ที่เฉลี่ย 80% เลือก CENTEL* และ MINT* เป็นหุ้นเด่น
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(0) กกพ.สั่งเลื่อนไร้กำหนด จับสลากโซลาร์ฟาร์มรัฐ (ข่าวหุ้น) กกพ.ประกาศเลื่อนจับสลากโซลาร์ฟาร์มภาครัฐไร้กำหนด เชื่อกำหนดใหม่ต้นปีหน้า ส่วนหุ้น GUNKUL* - IFEC – EPCO – TSE – SOLAR - PSTC เข้าชิงจับสลากเพิ่ม แต่ช่วงนี้เลี่ยงลงทุนไปก่อน เหตุไร้ความชัดเจน
(+) IFECการันตีพื้นฐาน เน้น “ธุรกิจพลังงาน” (ข่าวหุ้น) ผู้บริหาร IFEC ยันให้ความสำคัญ “ธุรกิจพลังงาน” เป็นหลัก ส่วนการลงทุนธุรกิจอื่นๆ เป็นตัวเสริมรายได้ การันตีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง หลังหุ้น IFEC ร่วง 20.25% เหตุนักลงทุนกังวลซื้อ “โรงแรมดาราเทวี” และโซลาร์ราชการและสหกรณ์เลื่อนไร้กำหนด
(-) จับตา JAS* ฮุบ 2 ล้านราย เจาะลูกค้า ADVANC* - DTAC* หุ้นสื่อสารป่วน TRUE* ต้องเพิ่มทุน - DTAC เจอแรงขายหนัก (ข่าวหุ้น) จับตาน้องใหม่ JAS เขย่าตลาดสื่อสาร หลังคว้าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 เป้าหมายเจาะฐานลูกค้าเอไอเอส ประมาณ 2 ล้านราย ที่ค้างท่อจากคลื่น 900 เดิมและฐานลูกค้าบรอดแบนด์เดิม 1.95 ล้านราย ส่วนค่าย TRUE ไม่พ้นต้องเพิ่มทุนเหตุต้องใช้เงินลงทุนสูงมากและกดดันพลิกขาดทุนอีก จับตาหุ้นสื่อสารผันผวน เชื่อ DTAC เจอแรงขายหนัก
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ต้านสั้น 1290 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1290 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบ 1290-1315 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1290 จุดนั้น อาจรักษาแรงทางลงในกรอบ 1290-1263 จุด
แนวรับวันนี้: 1280/1270/1263 แนวต้านวันนี้: 1290/1312
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]