- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 December 2015 16:28
- Hits: 1019
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ World Record 4G Auction
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ได้รับผลกระทบจากบรรยากาศรอบเอเชียที่ปรับตัวลง ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง และการประมูลคลื่น 4G ย่านความถี่ 900MHz ยืดเยื้อมาเป็นวันที่ 4 ทำให้หุ้นหลักปรับฐานลงแรง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ICT / พลังงาน / วัสดุก่อสร้าง/ ปิโตรเคมี ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบทั้งสิ้น 25.42 จุด หรือ 1.94% มาอยู่ที่ 1,284.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,248 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 10 อีก 2,021 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,403 สัญญา และคงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 เล็กน้อย 649 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ผลการประมูลคลื่น 4G ย่านความถี่ 900MHz รวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยผู้ชนะ JAS - TRUE
แรงขายจากต่างชาติยังคงดำเนินต่อไป ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประมูล 4G
การปรับตัวลงทุกๆ 1 บาทของหุ้น ADVANC / INTUCH / DTAC / JAS / TRUE จะมีผลกระทบต่อ SET INDEX เท่ากับ 4.23 จุด
มุมมองต่อตลาด
เราประเมินว่า SET INDEX วันนี้จะเปิดย่อตัวลงสู่แนว 1,270 จุด +/- แรงกดดันจากหุ้น 5 ตัวที่เกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่น 4G ได้แก่ ADVANC / INTUCH / DTAC/ JAS / TRUE ผลดังกล่าวถือว่าเหนือความคาดหมายของตลาดอยู่พอสมควร มุมมองของเรา
TRUE - JAS: ผู้ชนะ จะเดินหน้าสู่การประกาศเพิ่มทุน ทั้งในแง่ของ PP/ RO ทั้ง 2 หุ้น เพราะต้นทุนใบอนุญาตสูงกว่า 7.0 หมื่นล้านบาท/ใบ เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการเปิดตัวพันธมิตรของ JAS ต่อการก้าวเข้าสู่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ครั้งนี้
ADVANC - DTAC: ผู้แพ้ เราคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลง เพียงแต่ ADVANC เราประเมินว่าระดับ 180-185 บาท น่าสนใจเข้าสะสม ด้วยเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 12.00 บาท/ปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 6.5-6.7% อีกทั้งผลการดำเนินงานในปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตจากต้นทุนค่าเสื่อมระบบ 2G หายไป 8.5 พันล้านบาทในปีหน้า และ ส่วนแบ่งรายได้ให้ TOT ราว 2.8 หมื่นล้านบาท แต่จะมีต้นทุนจากค่าใบอนุญาตทั้ง 2100MHz และ 1800MHz เข้ามาราว 6 พันล้านบาท/ปี ขณะที่ DTAC จะมีความเสี่ยงต่อการทำธุรกิจที่สูงขึ้น การปรับเปลี่ยนคลื่นที่มีอยู่ในมือสู่บริการ 4G นั้นอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ต้องเจรจากับ CAT และติดเงื่อนไขส่วนแบ่งรายได้ 30%
อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังมีแรงกดดันจากความกังวลต่อ ความไม่สมดุลย์ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน คาดว่าจะกดดันต่อการฟื้นตัวของกลุ่มน้ำมัน ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากกรณีคลื่น 4G ได้แก่ กลุ่มธนาคาร / กลุ่มวางระบบ - เสา โทรคมนาคม ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากกรณีดังกล่าวคือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะรัฐบาลจะได้เงินจากการประมูลคลื่นทั้ง 2 ย่านความถี่กว่า 2.2 แสนล้านบาท ตลอด 4 ปีข้างหน้า นำมาสนับสนุนแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
แม้ว่าภาพรวม SET INDEX จะปรับฐานลงต่อจากปลายสัปดาห์ก่อน แต่หากพิจารณาจากเหตุปัจจัย ถือว่าสมเหตุสมผล จากกรณีที่กล่าวไว้ในข้างต้น แต่นั่นกลายเป็นโอกาสของการเข้าสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกรณีดังกล่าว อีกทั้งเราประเมินว่ากองทุนในประเทศที่ต้องลดน้ำหนักกลุ่ม ICT จะต้องหากลุ่มที่เข้าลงทุน หรือ Sector Rotation ย่อมช่วยจำกัด Downside risk ได้เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ อาจเลือกเข้าเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว เพราะ Downside risk ช่วงสั้นนี้จะเป็นไปอย่างจำกัด" มุ่งเน้นกลุ่ม Domestic Play เป็นสำคัญ
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Speculative Buy: BBL / SCB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
BBL : ราคาปิด 157.00 บาท ราคาเหมาะสม 199.00 บาท
MBKET ประเมินว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะมี Sentiment บวกหลังผลการประมูลใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz จำนวน 2 ใบออกมาสูงถึง 1.52 แสนล้านบาท
เนื่องจาก BBL เป็นผู้ปล่อยกู้หลักให้กับ JAS ซึ่งเป็นผู้ชนะใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ใน Lot1 ที่ราคา 7.57 หมื่นล้านบาท
คาดว่ากลุ่มธนาคารจะได้ปัจจัยบวกจากการไหลเข้าของเม็ดเงิน LTF ในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากกลุ่มธนาคาร Underperform ตลาดมาก โดย SETBANK -28.5% YTD เทียบกับ SET INDEX -14.2%
Valuation ถูกซื้อขายระดับ PER2559 เพียง 7.3 เท่า และ PBV2559 ที่ 0.78 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.8%
SCB : ราคาปิด 121.50 บาท ราคาเหมาะสม 160.00 บาท
MBKET ประเมินว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะมี Sentiment บวกหลังผลการประมูลใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz จำนวน 2 ใบออกมาสูงถึง 1.52 แสนล้านบาท
เนื่องจาก SCB เป็นผู้ปล่อยกู้หลักให้กับ TRUE ซึ่งเป็นผู้ชนะใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ใน Lot2 ที่ราคา 7.63 หมื่นล้านบาท
คาดว่ากลุ่มธนาคารจะได้ปัจจัยบวกจากการไหลเข้าของเม็ดเงิน LTF ในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากกลุ่มธนาคาร Underperform ตลาดมาก โดย SETBANK -28.5% YTD เทียบกับ SET INDEX -14.2%
Valuation ถูกซื้อขายระดับ PER2559 เพียง 7.5 เท่า และ PBV2559 ที่ 1.18 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.1%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย กลับมาขายสุทธิ US$138 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$239 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 10 เท่ากับ 2,021 ล้านบาท รวม 10 วันทำการ ขายสุทธิ 16,631 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิแตะระดับ 1.3 แสนล้านบาท เป็น 138,974 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,403 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 4,180 สัญญา คาดเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อ SET50 Index ปรับฐานลงอีกครั้ง ส่งผลให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับเป็น 17,842 สัญญา ผลักดันให้ S50Z15 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 0.73bps จากวันก่อนหน้าปิด Discount เท่ากับ 2.95 จุด
และต่างชาติขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 อีก 649 ล้านบาท รวม 8 วันทำการ ขายสุทธิ 24,552 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 5 เล็กน้อย 0.48bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.29bps ปิดที่ 2.594%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 909 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 761 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาสะสม KBANK เด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 271 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิเพียง 59 ล้านบาท เป็นที่น่าสนใจว่า NVDR กลับมาสะสม KBANK อย่างโดดเด่น ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประมูล 4G กลับเป็นกลาง สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารกลับถูกซื้อสุทธิสูงสุด 1,213 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 177 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 128 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 152 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มอาหาร ถูกขายสุทธิสูงสุด 417 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 366 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 325 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 169 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 150 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นลบ
ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น เดือนธ.ค. เท่ากับ 53.7 จุด ต่ำกว่าที่ Bloomberg consensus คาด 56.1 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 56.5 จุด เป็นระดับต่ำสุดในรอบปี และ Backlog คำสั่งซื้อลดลงเป็นเดือนที่ 5
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.: รายงานราคาบ้านใน 70 เมืองหลัก เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.9% yoy จากเดือนต.ค.ที่ +0.1% yoy และราคาบ้านเพิ่มขึ้น 0.3% mom เร่งขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ +0.2% mom ทั้งนี้ราคาบ้านในวงที่ 1 เพิ่มขึ้นเด่น เช่น บ้านในปักกิ่ง เพิ่มขึ้น 7.7% yoy เซี่ยงไฮ้ เพิ่มขึ้นถึง 13.1% yoy เป็นต้น
เอเชียแปซิฟิก
BoJ เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ: ด้วยการเพิ่มประเภทของสินทรัพย์ในการเข้าซื้อ คือ กองทุน ETF และ Trust ของอสังหาฯ ในญี่ปุ่น รวมถึงยืดอายุพันธบัตรญี่ปุ่นที่จะเข้าซื้อจากเดิม 7 -10 ปี เป็น 7-12 ปี สำหรับ ETF ได้เพิ่มวงเงินเข้าซื้อ Yen3.0 แสนล้าน / ปี โดยจะเริ่มซื้อในเดือนเม.ย. 2559
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530
Assistant Analyst 662-6586300 x 1530 Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong