WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +224.18, NASDAQ +75.78, S&P +29.66, FTSE +43.40, CAC +10.27 และ DAX +18.88 หลังเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25 - 0.50% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับแต่เดือนมิ.ย.’49
  พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นในอนาคตได้ และส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะปรับนโยบายตามภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้เฟดยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี’59 และ 60 จะขยายตัว 2.4% และ 2.2% ตามลำดับ และ 2.0% ในปี’61 ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฟดคาดจะปรับตัวขึ้นจาก 0.4% ในปี’58 เป็น 1.6% ในปี’59 และ 2.0% ในปี’61 ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
  …..ขณะที่ล่าสุดสหรัฐฯ เปิดตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน – พ.ย. เพิ่มขึ้น 10.5%MoM อยู่ที่ 1.173 ล้านยูนิต ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง
  .....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ปิดทำการซื้อขายก่อนที่เฟดจะแถลงมติการประชุม ขณะที่ก่อนหน้านั้นมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  .....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. -US$1.83 อยู่ที่ US$35.52 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยลบ (1) EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล (สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล) อยู่ที่ 490.7 ล้านบาร์เรล และ (2) ผู้นำในสภาคองเกรสสหรัฐฯ เห็นพ้องให้มีการยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันสหรัฐฯ หลังบังคับใช้มานาน 40 ปี ซึ่งทำให้มีตลาดเพิ่มขึ้นจากการส่งออกต่างประเทศ หลังจากที่ผ่านมาต้องพึ่งพารายได้จากการใช้น้ำมันของชาวสหรัฐฯ
  ....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$15.2 อยู่ที่ US$1,076.8 ต่อออนซ์ โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการก่อนที่เฟดจะแถลงมติการประชุม
   (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -551 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -133,592 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
  (0/+) กนง. มีมติด้วยเสียง 7 : 0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามคาด ขณะที่ กนง. คาด GDP ปี’58 ดีกว่าคาดการณ์เดิมเล็กน้อย ที่คาดเติบโต 2.7% และคาดในปี’ 59 ใกล้เคียงคาดการณ์เดิมที่คาดเติบโต 3.7% อย่างไรก็ตาม กนง. จะประกาศคาดการณ์ GDP (ทางการ) อีกครั้งในวันที่ 25/12/58

ทิศทางตลาด :
  ทิศทางตลาด : คาดมีความผันผวน? แม้ตลาดต่างประเทศจะเคลื่อนไหวในแดนบวก ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
  องสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการรับมือกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ (ซึ่งเป็นตามคาดการณ์ของตลาดฯ) และเฟดยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย โดยจะปรับตามภาวะเศรษฐกิจ
  .....แต่คาดอาจถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศ ที่คาดให้น้ำหนักต่อประเด็นการประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz (2 ใบ) ซึ่งยังอยู่ระหว่างประมูล ล่าสุดเป็นการประมูลรอบที่ 108 ยอดรวม 96,890 ล้านบาท (ใบแรก 47,640 ล้านบาท และใบที่ 2 อยู่ที่ 49,250 ล้านบาท) และคาดผู้ประมูลยังอยู่ครบ 4 ราย ได้แก่ ADVANC, DTAC, TRUE และ JAS และด้วยมูลค่าประมูลรวมที่สูงเกือบ 100,000 ล้านบาท คาดอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น
  .....ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง คาดส่งผลต่อหุ้นใน รวมถึง Fund Flow จากแรงขายสุทธิต่างชาติต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ YTD ยอดขายสุทธิสะสม อยู่ในระดับที่สูงกว่า 133,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในช่วงปลายปี คาดมูลค่าซื้อขายอาจเบาบางลง โดยเฉพาะจากต่างชาติ อย่างไรก็ตามคาดคาดได้รับการชดเชยบ้างจากเม็ดเงิน LTF / RMF
  ...ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และ (2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season
  ....รวมถึง (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท เช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 35.99 – 36.04 อ่อนค่าเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามคาดยังมีโอกาสอ่อนค่าหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) สายการบิน (เช่น AAV) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.02 อยู่ที่ 2.29% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -3.09 อยู่ที่ 17.86

  หุ้นแนะนำ : ANAN

ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 - 18 ธ.ค.’58)
  17/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดุลบัญชีเดินสะพัด – 3Q/58 (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - ธ.ค. (4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - พ.ย.
  18/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - ธ.ค.

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!