- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 December 2015 17:47
- Hits: 1437
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +103.29, NASDAQ +18.77 และ S&P +9.57 ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอผลการประชุมของเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในการประชุมครั้งนี้ จากระดับปัจจุบันที่ 0.25% โดยจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ สอดคล้องกับการส่งสัญญาณของประธานเฟดก่อนหน้านี้ ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
.....สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรป โดย FTSE -78.72, CAC -76.49 และ DAX -200.72 ที่ยังคงมีความกังวลต่อราคาน้ำมัน ที่ส่งผลต่อหุ้นเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนทราบผลการประชุมเฟด
....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. +US$0.69 อยู่ที่ US$36.31 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไร หลังสัญญาฯ ลดลงต่ำกว่าระดับ US$35 ต่อบาร์เรล ในระหว่างวัน อย่างไรก็ตามยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่อยู่ในระดับที่สูง
....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$12.3 อยู่ที่ US$1,063.4 ต่อออนซ์ โดยได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่า ภายใต้การคาดการณ์เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ (ผลการประชุม เช้า พฤ. ตามเวลาไทย)
(-) เม็ดเนลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -3,235 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -129,803 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ผันผวน? คาดอยู่ระหว่างรอผลประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ซึ่งส่วนใหญ่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมครั้งนี้ หลังก่อนหน้านี้ประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน และมั่นใจว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการจ้างงานแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ รวมถึงเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายในระยะกลางที่ 2.0% อย่างไรก็ตามคาดเป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้มาโดยตลอดและกดดันมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง คาดหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่คาดการณ์แล้ว การปรับลดลงของตลาดส่วนใหญ่อาจเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่คาดยังมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนที่คาดอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ
.....ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังถูกกดดันจากภาพรวม Fund Flow หลังมีแรงขายสุทธิต่างชาติต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ YTD ยอดขายสุทธิสะสม อยู่ในระดับที่สูงเกือบ 130,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในช่วงปลายปี คาดมูลค่าซื้อขายอาจเบาบางลง โดยเฉพาะจากต่างชาติ แต่คาดได้รับการชดเชยบ้างจากเม็ดเงิน LTF / RMF และยังแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ที่คาดภาพรวมยังมีทิศทาง
อ่อนค่า ตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด คาดมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets นอกจากนี้คาดยังถูกกดดันจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจไทย ซึ่ง ธปท. มีโอกาสปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ในปี’58 และ 59 ลง โดย กนง. จะมีการประชุมในวันที่ 16/12/58 นี้ แต่คาดอาจถูกชดเชยได้บ้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลที่คาดออกมาต่อเนื่อง
....ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 (2) กลุ่ม
การบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season และ (3) กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC, DTAC, TRUE และ JAS จากประเด็นการประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz (2 ใบ) วันนี้ (15/12/58)
...รวมถึง (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท เช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 36.06 – 36.10 แข็งค่าเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามคาดยังมีโอกาสอ่อนค่าอีก ส่วนหนึ่งตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) สายการบิน (เช่น AAV) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.09 อยู่ที่ 2.23% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.66 อยู่ที่ 22.73
หุ้นแนะนำ : TOP
ประเด็นที่ต้องติดตาม (15 - 18 ธ.ค.’58)
15/12/58 : กสทช. กำหนดเปิดประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - พ.ย. (2) ดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์ค - ธ.ค. (3) ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย - ธ.ค.(4) เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติ - ต.ค. (5) เฟด เริ่มประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก
16/12/58 : ประชุม กนง. (อัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด อยู่ที่ 1.50%) สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - พ.ย. (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต - พ.ย. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - ธ.ค. (4) สต็อกน้ำมัน (5) เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
17/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดุลบัญชีเดินสะพัด – 3Q/58 (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - ธ.ค. (4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - พ.ย.
18/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - ธ.ค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788