- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 December 2015 17:49
- Hits: 2049
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -309.54, NASDAQ -111.71, S&P -39.86, FTSE -135.27, CAC -85.50 และ DAX -258.87 ภายใต้ปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันร่วงที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ตัดสินใจคงอัตราการผลิตไว้ที่ระดับเดิม แม้ว่าอุปทานจะยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป รวมถึงความกังวลว่าเฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีของสหรัฐฯ (ผลการประชุมเฟด เช้า พฤ.ตามเวลาไทย) หลังสหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) – พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.3%MoM ดีกว่าที่คาดว่าจะทรงตัว และ (2) ยอดค้าปลีก – พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนก.ค. ที่ผ่านมา
.....เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป ที่ได้รับปัจจับลบจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. -US$1.14 อยู่ที่ US$35.62 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลภาวะอุปทานส่วนเกินที่คาดอยู่ในระดับที่สูง ทั้งจากการตัดสินใจคงอัตราการผลิตไว้ที่ระดับเดิมของโอเปก และตัวเลขการผลิตน้ำมันของกลุ่มฯ – พ.ย. เพิ่มขึ้น 230,000 บาร์เรล/วัน อยู่ที่ 31.70 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน
....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$3.7 อยู่ที่ US$1,075.7 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ที่คาดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,626 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -126,567 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดยังมีโอกาสลดลง ภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นเดิม โดยเฉพาะต่างประเทศทั้ง (1) ความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (ผลการประชุมเช้า พฤ. ตามเวลาไทย) หลังการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีทิศทางที่ดี และเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายในระยะกลางที่ 2.0% รวมถึงตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และ (2) ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนที่คาดอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง คาดยังส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
.....ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวม Fund Flow จากแรงขายสุทธิต่างชาติที่มีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ YTD ยอดขายสุทธิสะสมเพิ่มต่อเนื่อง อยู่ในระดับที่สูงกว่า 126,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในช่วงปลายปี คาดมูลค่าซื้อขายอาจเบาบางลง โดยเฉพาะจากต่างชาติ แต่คาดได้รับการชดเชยบ้างจากเม็ดเงิน LTF / RMF และยังแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ที่คาดภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า ตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด คาดมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets นอกจากนี้คาดยังถูกกดดันจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจไทย ซึ่ง ธปท. มีโอกาสปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ในปี’58 และ 59 ลง โดย กนง. จะมีการประชุมในวันที่ 16/12/58 นี้ แต่คาดอาจถูกชดเชยได้บ้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลที่คาดออกมาต่อเนื่อง
....ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 (2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season และ (3) กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC, DTAC, TRUE และ JAS จากประเด็นการประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz (2 ใบ) วันพรุ่งนี้ (15/12/58)
....รวมถึง (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท เช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 36.15 – 36.17 อ่อนค่าจากวันก่อนหน้า และคาดยังมีโอกาสอ่อนค่าอีก ส่วนหนึ่งตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) สายการบิน (เช่น AAV) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.10 อยู่ที่ 2.14% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +5.05 อยู่ที่ 24.39
หุ้นแนะนำ : SMT
ประเด็นที่ต้องติดตาม (14 - 18 ธ.ค.’58)
14/12/58 : - ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ -
15/12/58 : กสทช. กำหนดเปิดประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz
สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - พ.ย. (2) ดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์ค - ธ.ค. (3) ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย - ธ.ค.
(4) เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติ - ต.ค. (5) เฟด เริ่มประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก
16/12/58 : ประชุม กนง. (อัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด อยู่ที่ 1.50%)สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - พ.ย. (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต - พ.ย. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น -
ธ.ค. (4) สต็อกน้ำมัน(5) เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
17/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดุลบัญชีเดินสะพัด – 3Q/58 (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - ธ.ค. (4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - พ.ย.
18/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - ธ.ค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788