- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 December 2015 15:09
- Hits: 25030
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ” ไหลลงไม่มีเด้ง”
SET ปิดปรับตัวลดลง โดยดัชนีค่อยๆปรับตัวลดลงตลอดวัน นำด้วยหุ้นพลังงานซึ่งถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ผลของการประชุม OPEC สัปดาห์ก่อน ประกอบกับแรงขายในกลุ่มธนาคารและอสังหาฯ ซึ่งกดดันดัชนีต่อเนื่องในภาคบ่าย ปิดตลาด SET index ปิดที่ 1,306.98 จุด เปลี่ยนแปลง -26.59 จุด Vol 3.6 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) แรงซื้อของกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี
(+) ครม.เห็นชอบแผนการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 และรัฐบาลมีแนวความคิดจะนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ PPP
(+) ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขยอดสั่งซื้อเครื่องจักร เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 10.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่เติบโต 1.4%
(-) รัสเซียโจมตีกลุ่ม ISIS ด้วยขีปนาวุธ Kaibr จากเรือดำน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสร้างแรงกดดันต่อการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง
(-) นักลงทุนต่างชาติมี Net Sell วานนี้ มูลค่า 3 ร้อยล้านบาท รวมมี Net Sell ต่อเนื่อง 3 วันมูลค่ารวม 1.3 พันล้านบาท
(+/-) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ตั้งเป้าผลักดันการส่งออกให้โต 5% ในปี 59
(+/-) นายสมคิด จาตุพรศรีพิทักษ์ เผยเตรียมเสนอกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Thailand Future Fund) เข้าประชุม ครม.สัปดาห์หน้า
(+/-) ครม.อนุมัติงบประมาณในโครงการสินเชื่อเพื่อเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย เพิ่มเติมอีก 5 พันล้านบาท
(+/-) ครม.เห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เพื่อรองรับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่
(+/-) ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลง 14 เซนต์ ทรงตัวจากวันก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ ก่อนการประชุม FOMC ในวันที่ 15-16 ธ.ค.
* EASA เตรียมประกาศระดับมาตรฐานด้านการบินของไทยในวันที่ 10 ธ.ค.
* ความตึงเครียดในซีเรียและตุรกี
กลยุทธ์การลงทุน “ซึมตามกระแส”
คาดหมายการปรับตัวลดลงของดัชนี จากมุมมองลบทางด้านเทคนิค คาดมีแรงขายให้ดัชนีมีโอกาสแกว่งไปทดสอบแนวรับ 1,290 จุด ขณะที่นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นผู้เล่นหลักหลังจากนักลงทุนต่างชาติที่มีบาทบาทน้อยลงในระยะหลัง กลับมามี Net Sell ทำให้โอกาสต่อการรีบาวด์ต่ำลง สำหรับการเก็งกำไรแนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันระดับต่ำ และมุมมองต่อการลงทุนระยะยาวเรามองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มน่าสนใจจากอัตราผลตอบแทนปันผลที่ปรับสูงขึ้น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
EPG เก็งกำไร
* คาดธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์ในช่วง4Q58จะมีผลดำเนินงานที่แข็งแรงขึ้น จากการควบรวม TJM และการขายผลิตภัณฑ์ใหม่
* ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ราคาวัตถุดิบของบริษัทมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมัน
* แนวทางการวิจัยและพัฒนาสินค้า สร้างความยั่งยืนในระยะยาว
KTB เก็งกำไร
* ซื้อขายกันต่ำกว่าระดับ 1 เท่า Book Value น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว
* ได้ประโยชน์จากการเตรียมปล่อยสินเชื่องานภาครัฐ
* จาก Bloomberg นักวิเคราะห์ในตลาดคาดปันผลปี 59 ที่ 0.93 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทบเงินปันผล 5.7%
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ