- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 December 2015 17:10
- Hits: 1180
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังอ่อนแอ แต่ก็ทรงตัวได้บ้างแล้ว ทำให้คาดมีลุ้นรีบาวด์...
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังแกว่งตัวผันผวนและปิดเป็นลบต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีลักษณะของการแกว่งทรงตัวในกรอบ หลังปรับตัวลงลึกในรอบก่อนได้อยู่ ทำให้ FSS ยังคาดหมายโอกาสลุ้นจังหวะรีบาวด์กลับไปแกว่งบวกในช่วงถัดไปได้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้ถือไว้ก่อน เพื่อรอขายช่วงบวกดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VGI, SR, TICON(buy back)
แนวโน้ม : วานนี้ SET ยังผันผวนและย้อนลบอีก หลังจากดัชนีแกว่งทรงตัวด้านบวกได้เกือบตลอดครึ่งวันเช้า แต่มีแรงขายกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ PTT ซึ่งมีผลต่อการคำนวณดัชนีค่อนข้างมาก จึงทำให้ SET ไหลลงแกว่งตัวด้านลบแทนในภาคบ่าย ทั้งที่ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังปิดบวกได้ดี แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนจะยังอ่อนแออยู่ก็ตาม ขณะที่ช่วงค่ำตลาดหุ้นสหรัฐยังสามารถพลิกกลับขึ้นมาปิดเป็นบวกได้ดีขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ECB จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนในการประชุมพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งยังมีจังหวะเปิดเป็นบวกต่อได้อีก ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยได้ด้วย อย่างไรก็ตามยังต้องระมัดระวังการแกว่งตัวผันผวนของ SET ต่อเนื่อง เพราะ FSS คาดว่านักลงทุนบางส่วนคงยังต้องการรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในค่ำวันศุกร์นี้อีกครั้ง แต่เราคาดว่ากรอบลบของ SET ยังค่อนข้างจำกัด และสามารถลุ้นรีบาวด์จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประชุม ECB และแรงซื้อ LTF/RMF ช่วงท้ายปีที่น่าจะมีเข้ามาช่วยหนุน SET ต่อได้ จึงยังแนะนำให้ถือเพื่อรอขายช่วงบวก
แนวรับ 1355-1353 , 1350-1346 จุด
แนวต้าน 1360-1365 , 1370-1374 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาค US$362 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$268.8 ล้าน และเกาหลีใต้ US$113.2 ล้าน ขณะที่ยังไหลออกจากอินโดนีเซียและไทย US$18.5 ล้าน และ US$10.4 ล้านตามลำดับ กระแสเงินทุนมีความผันผวนระยะสั้นเนื่องจากยังรอปัจจัยบวกจากการประชุม ECB ที่คาดว่าจะมีมาตรการเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลต่อตัวเลขเศรษฐกิจจีน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก Fed
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) FAA ของสหรัฐลดเกรดมาตรฐานการบินไทย จาก Category 1 (CAT1) เป็น Category 2 (CAT 2) ส่งผลให้สายการบินที่มีสัญชาติไทยไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินได้ ข่าวนี้ไม่กระทบ AAV, NOK, BA ซึ่งบริการเฉพาะเส้นทางระยะสั้น-กลาง และไม่มีการบินเข้าสหรัฐ และไม่กระทบ THAI ซึ่งยกเลิกการบินตรงไปยังสหรัฐทั้งหมดแล้ว แต่จะมีความเสี่ยงหากยุโรป EASA ลดเกรดตาม (ประกาศผล 10 ธ.ค.) เพราะมีรายได้จากเส้นทางยุโรปเกือบ 20% ในกลุ่มสายการบิน เราแนะนำซื้อ AAV (ราคาเป้าหมายปีหน้า 6 บาท) เพียงตัวเดียว ส่วน AOT ไม่ถูกกระทบจากข่าวนี้แต่แนะนำขายเพราะเต็มมูลค่า
(+) ครม.เห็นชอบแผนลงทุนระยะเร่งด่วน 1.7 ล้านล้านบาท เป็นความหวังของกลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง และแบงก์ในปีหน้า โครงการที่พร้อมจะประกวดราคาได้ตั้งแต่ปี 2015-17 มี 20 โครงการ เฉพาะใน 1Q16 มี 6 โครงการเช่นรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น, สุวรรณภูมิเฟส 2, ทางหลวงพิเศษพัทยา-มาบตาพุด เป็นต้น ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 5 สี (ส้ม ชมพู เหลือง แดงอ่อน ม่วง), รถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง, ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และโครงการขนาดใหญ่อื่นๆ จะทยอยประกวดราคาในปี 2016-17
(+) รถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าครม.อังคารหน้า รถไฟฟ้าสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท เป็น 1 ใน 3 เส้นทางที่อยู่ใน PPP Fast Track ที่ต้องดำเนินการให้เสร็จใน 9 เดือน เป็นเส้นทางที่มีจุดเชื่อมต่อหลายจุดกับสายสีน้ำเงินและสีม่วงที่ BMCL ดำเนินการอยู่ และคาดว่าครม.จะเห็นชอบแผนควบรวม BECL-BMCL อังคารหน้าเช่นกัน นอกจากเก็งกำไรกลุ่มรับเหมาแล้ว ยังแนะนำซื้อ BMCL ราคาเป้าหมายปีนี้ 2.40 บาท
(+) TACC เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 4.25 บาท (PE 25 เท่า) คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 50% Y-Y และโตต่อเนื่องเฉลี่ย 23.5% ในปี 2016-18 จุดเด่นของ TACC คือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชา กาแฟ ประเภทโถกดที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ 7-11 ซึ่งมีสาขากว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศและจะขยายอีกปีละไม่ต่ำกว่า 600 แห่ง เป็นช่องทางให้ TACC กระจายสินค้าและสร้างการเติบโตต่อเนื่อง และ TACC ยังมีแผนลงทุนในเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ ตั้งเป้ากระจายไปยังร้านสะดวกซื้อให้ครบ 1,500 เครื่องภายในปี 2017 ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในอนาคต (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ TACC)
(+) SCB การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ SCB มองภาพเศรษฐกิจปีหน้าเป็นบวกมากกว่าปีนี้ แต่โดยรวมยังอ่อนแอ คาด GDP ปีหน้าโตเพียง 2.5% ปัจจัยขับเคลื่อนมีเพียงการลงทุนภาครัฐ ทำให้ธนาคารยังดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวังโดยตั้งเป้าสินเชื่อโต 4-6% (เราคาด +5%) NIM 3.1-3.3% (เราคาด 3.14%) NPL ต่ำกว่า 3% (เราคาด 2.9%) สำหรับกำไรสุทธิ 4Q15 เราคาดฟื้นกลับสู่ระดับปกติ +33% Q-Q และคาดปีหน้าโต 5% Y-Y ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น 2016PE เพียง 9 เท่าและ PBV เพียง 1.3 เท่า คงคำแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายปีหน้า 166 บาท
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ราว 1% แม้ตัวเลข ISM ภาคการผลิตจะออกมาอ่อนแอ แต่ตลาดคาดว่า ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสม แม้ตัวเลขการว่างงานจะดูดีขึ้น แต่อาจทำให้ ECB ยังไม่เพิ่มขนาด QE ในการประชุมวันพรุ่งนี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมแม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปิดบวกได้ดี แต่นักลงทุนยังขาดความมั่นใจและยังจับตาดูผลการประชุม ECB
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างค่อนมาทางแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.70-35.77 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 41.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.20 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนยังจับตาดูการประชุม OPEC ในวันศุกร์นี้ซึ่งคาดว่าจะยังไม่ลดกำลังการผลิต
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,063.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 1.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดยังจับตาดูการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2-ธ.ค. - ไทย: TACC เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.88 บาท)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (พ.ย.), อัตราว่างงาน (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: การจ้างงานเอกชน (พ.ย.), ประธาน FED แถลง, FED Beige Book
3-ธ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.), TKN เริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: ECB Press Conference, Markit Eurozone PMI (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ISM นอกภาคการผลิต (พ.ย.)
4-ธ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (พ.ย.)
- OPEC ประชุม
8-ธ.ค. - ไทย: SPRC เริ่มเทรด (ราคา IPO 9 บาท), ร.ฟ.ท.เปิดประกวดราคาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 2.6 หมื่นลบ.
- จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: 3Q15 GDP
10 ธ.ค. - ไทย: EASA ประกาศผลตรวจสอบการบินไทย
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
15-ธ.ค. - ไทย: ประมูล 4G คลื่น 900 MHz
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch