WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

SET Index : ฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญ 1355

      ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1359.70 จุด ลดลง 3.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,890 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนบริเวณแนวรับสำคัญของโครงสร้างรายสัปดาห์ที่ 1355 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ทิศทางหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1340 จุด
      Daily: เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนหลังจากปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาลง ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงต่อเนื่องในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณ 1355 จุด เนื่องจากเป็นแนวรับของโครงสร้างรายสัปดาห์ โดยมีแนวต้านที่ 1380 และ 1400 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ แต่ถ้าหลุด 1350 จุดลงไปโครงสร้างในระยะยาวจะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1292-1300 จุด
กลยุทธ์ :SET Index ฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญ 1355 จุด ทำให้ทิศทางในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดอบแนวต้านที่ 1380 และ 1400 จุด แต่ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1400 จุดขึ้นไปได้ การปรับฐานในรอบถัดไปมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1300 จุดค่อนข้างสูง

Asia Fund Flow : 30 พฤศจิกายน 2558
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 4 ล้านเหรียญ (1 ธ.ค.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ขายสุทธิ 526 ล้านเหรียญ รวมทั้งเดือนขายสุทธิ 526 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 106 ล้านเหรียญ รวมทั้งเดือนขายสุทธิ 244 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 31 ล้านเหรียญ รวมทั้งเดือนขายสุทธิ 1,109 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 72 ล้านเหรียญ รวมทั้งเดือนขายสุทธิ 403 ล้านเหรียญ

Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
KBANK สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 174-175 แนวรับ 170 170 / 169 174 / 175
ADVANC ซื้อที่แนวรับ 198 และ 196 แนวต้าน 205 198 / 196 202 / 205
PTT สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 255 และ 252 แนวต้าน 260 255 / 252 258 / 260
PTTGC แนวรับสำคัญ 52.50 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 50.00 แนวต้าน 55.00 52.50 / 51.50 54.00 / 55.00
CPALL สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 46.00 แนวต้าน 49.00-49.50 46.50 / 46.00 48.00 / 48.50
AOT แนวโน้มลงทดสอบ 300 และ 296 แนวต้าน 312-314 307 / 304 312 / 314
SCB แนวโน้มลงทดสอบ 125 แนวต้าน 134-135 130 / 128 132 / 134
JAS สัญญาณขายต่อเนื่อง แนวรับ 4.60-4.64 แนวต้าน 4.90 และ 5.00 4.64 / 4.60 4.70 / 4.74
SCC แนวโน้มลงทดสอบ 440 และ 434 แนวต้าน 460 450 / 444 454 / 456
PTTEP สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 62.00 แนวต้าน 68.00-68.50 64.00 / 63.00 65.50 / 66.50

Energy Absolute (EA TB; THB 24.80) - ซื้อ
แนวต้าน : 26.00 และ 27.00
แนวรับ : 24.80 และ 24.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ EA โดยมีแนวรับที่ 24.80 และ 24.60 และมีแนวต้านที่ 26.00 และ 27.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 24.20 ลงไป

Gunkul Engineering (GUNKUL TB; THB 24.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 27.00 และ 28.00
แนวรับ : 24.50 และ 24.20


ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น เข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หลังจากเคลื่อนไหวอออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ GUNKUL โดยมีแนวรับที่ 24.50 และ 24.20 และมีแนวต้านที่ 27.00 และ 28.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 23.80 ลงไป
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...แรงกดหุ้นใหญ่ผ่านพ้นไป

     เมื่อวานนี้การปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนของกองทุนต่างๆ ผ่าน MSCI Rebalancing ผ่านพ้นไป จึงไม่แปลกที่ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียในช่วงการเทรดจึงปรับตัวลง เพราะตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่โดนปรับลดน้ำหนัก ส่วนของไทยแรงกดในช่วงเปิดตลาด โดยมีแรงขายหุ้นในกลุ่มที่ถูกลดน้ำหนัก อย่างกลุ่ม สื่อสาร พลังงาน และ ธนาคารพาณิชย์ แต่ในส่วนของหุ้นที่เกี่ยวโยงท่องเที่ยวบางตัว ค้าปลีก โรงพยาบาลและอาหารกลับมีแรงซื้อสวนเข้ามา สะท้อนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่โตจากแรงหนุนในประเทศ
     สภาพตลาดรวมๆ หลังจากนี้ แรงกดน่าจะเริ่มคลายตัวลง แล้วค่อยๆ ดีดตัวกลับด้วยแรงซื้อหุ้นจากสภาพคล่องในประเทศ ในหุ้นใหญ่กลุ่มหลักๆ อย่าง ธนาคารพาณิชย์ พลังงาน ปิโตรเคมี และสื่อสาร โดยมองว่าราคาหุ้นสะท้อนการถูกปรับลดน้ำหนักไปแล้ว สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก (US$) ยังปรับตัวลงในแดนลบนับตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 27 พ.ย. โดยตลาดหุ้นไทยลงไปทั้งสิ้น 19.1% เทียบภูมิภาคที่ 13.6% ถือว่า Underperform แต่ดีกว่า มาเลเชียและอินโดนีเชีย
     สำหรับ กลุ่มอุตสาหกรรมที่กลับมีแรงซื้อเข้ามา อย่างเห็นได้ชัด คือ ธนาคารเล็ก ส่วนธนาคารใหญ่ที่มีแรงขายอย่างต่อเนื่อง เริ่มที่จะยืนได้ เหตุคงมาจากเริ่มที่จะไม่แพงและลงมาลึก หากมองเฉพาะค่า P/BV 12 เดือนล่วงหน้าของกลุ่มพบว่าในปัจจุบันกำลังลงมาเทรดกันที่ค่า P/BV ประมาณ 1.2x+/- ซึ่งเป็นแนวที่สำคัญและไม่เคยหลุด ยกเว้นในปี 2008-2009 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ จนลุกลามไปทั่วโลก
      ผลสำรวจความคิดเห็นของบรรดากองทุนใหญ่ของโลก 50 กองทุนทั้งในสหรัฐ ยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่นและจีน ระหว่างวันที่ 17 และ 26 พ.ย ที่ผ่านมา พบว่าบรรดากองทุนเริ่มมีทิศทางในเชิงบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง โดยคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกในเดือน พ.ย.ที่ 48.2% เพิ่มน้ำหนักในพันธบัตร 1% เป็น 37.4% และลดการถือเงินสดลงจาก 6.3% เหลือ 5.4% สำหรับน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้น พบว่ามีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดสหรัฐ ตลาดหุ้นเกิดใหม่ในยุโรป (จะได้ประโยชน์จากการทำ QE ของยุโรป) และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น โดยมองว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นจะได้ประโยชน์จาก ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับต่ำและการใช้จ่ายของสหรัฐที่ดีขึ้น ส่วนตลาดหุ้นเกิดใหม่ในลาตินอเมริกาถูกลดน้ำหนักลง
แรงซื้อคืนของหุ้นใหญ่ เมื่อวานนี้เป็นของนักลงทุนในประเทศ ในกลุ่ม ธนาคารและสื่อสารใหญ่ ส่วนพลังงาน ยังจะมีก็คือ PTTGC ทิศทางดัชนี SET น่าจะยืนได้ หลัง ธปท. ออกมารายงานภาวะเศรษฐกิจในเดือน ต.ค. ที่บอกว่ายังขยายตัวต่อเนื่องจากเดือน ก,.ย.ขณะที่วันนี้จะมีการประชุม ครม. ที่คาดกันว่าทางรัฐบาลจะออกมาตรการระดมเงินเพื่อนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และการเปิดทางให้ SME เข้าร่วมประมูลโครงการของรัฐในปีหน้า ถือเป็นปัจจัยบวกกับตลาดในปีหน้า
     ทิศทางดัชนี SET วันนี้มองจะดีดตัวกลับ หลังแรงกดดันจากการปรับน้ำหนักของ MSCI ผ่านพ้นไป โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1368-1372 จุด ส่วนแนวรับที่ 1354-1350 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TRC THCOM และ RS
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,361.80 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด(+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 15,574.55 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งผันผวนในกรอบ โดยมีแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน ขณะที่มีแรงเก็งกำไรในหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หลังข้อมูลการผลิตของญี่ปุ่นปรับขึ้น และดัชนี pMI ภาคการผลิตของจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ IMF มีมติอนุมัติให้นำเงินหยวนเข้าสู่ตระกร้าสกุลเงิน SDR แต่จีนต้องปฏิรูปเศรษฐกิจให้ดีขึ้นเพื่อให้เงินหยวนมีเสถียรภาพ ติดตามการประชุม ECB (3 ธ.ค.) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ (4 ธ.ค.)

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย แก่วงแคบๆ ภาพรวม SET ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากนักลงทุนยังรอความชัดเจนใน 3 เรื่องหลัก คือ 1) การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 2) การประมูล 4 จี 3)การพิจารณาของการบินพลเรือนสหรัฐ ซึ่งทุกเรื่องจะมีความชัดเจนในช่วงกลางเดือนนี้ ทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน เรามองว่า SET จะยังแกว่งตัวในกรอบแคบไปสักระยะจนกว่าจะถึงช่วงกลางเดือนนี้ โดยมีแนวรับที่ 1355 จุด และ 1345 จุด แนวต้าน 1370 จุด ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยเราแนะนำ EPG, SMPC,SUTHA,MK,COM7

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  S11 Group (S11 TB; THB 8.70) - ซื้อ
  Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 3.10) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!