- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 December 2015 17:52
- Hits: 980
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังอ่อนตัวแต่คาดกรอบลบจำกัด และยังมีลุ้นรีบาวด์...
กลยุทธ์ : SET ยังมีลักษณะแกว่งทรงตัวให้เห็น แม้ว่าจะยังอ่อนตัวลงต่อ ทำให้ FSS คาดว่ากรอบลบของ SET ช่วงนี้ยังมีจำกัด และคาดหมายโอกาสลุ้นจังหวะรีบาวด์กลับไปแกว่งบวกในช่วงถัดไปได้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้ถือไว้ก่อน เพื่อรอขายช่วงบวกดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, EA, CENTEL(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังอ่อนตัวลงอีก แต่ก็มีลักษณะแกว่งทรงตัวให้เห็น โดยคาดว่าแรงขายส่วนหนึ่งมาจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างประเทศบางราย โดยเฉพาะในช่วงก่อนปิดตลาดที่เราจะเห็นมีวอลุ่มซื้อ-ขายในหุ้นหลายตัวที่มากผิดปกติ ซึ่งเป็นหุ้นที่มีผลต่อการคำนวณดัชนีด้วย จึงอาจทำให้การแกว่งตัวของ SET ผันผวนมากกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามในภาพรวมทั้งตลาดถือว่ายังมีแรงซื้อช่วยพยุงดัชนีไว้ได้เช่นกัน ขณะที่เช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนจะปิดเป็นลบไปพอควร เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง หลังมีรายงานว่ายอดขายของบริษัทค้าปลีกสหรัฐชะลอตัวลง ทำให้นักลงทุนยังใช้ความระมัดระวังในการซื้อขาย เพื่อรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในค่ำวันศุกร์นี้(4 ธ.ค.) อีกครั้ง แต่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐก็ช่วยหนุนให้นักลงทุนยังมีความหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่มากในการประชุมกลางเดือน (15-16 ธ.ค.) ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้หลายแห่งยังสามารถขยับเปิดเป็นบวก ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบลบของ SET น่าจะยังจำกัด และสามารถลุ้นรีบาวด์จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประชุม ECB (3 ธ.ค.) และแรงซื้อ LTF/RMF ท้ายปีที่จะมีเข้ามาช่วยหนุนได้
แนวรับ 1358-1354 , 1350-1346 จุด
แนวต้าน 1365-1370 , 1374-1378 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนักมาก US$1,173 ล้าน โดยไหลออกจากทุกประเทศนำโดยไต้หวัน US$526 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$471 ล้าน และอินโดนีเซีย US$106 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคท่ามกลางความวิตกต่อตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังย่ำแย่ลง ขณะที่ความหวังเดียวในระยะสั้นนี้คือการประชุม ECB ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) IMF รับเงินหยวนเข้าตะกร้าเงิน SDR มีผลบังคับใช้ ต.ค. 2016 เบื้องต้นคาดมีน้ำหนัก 10-15% เชื่อว่าค่าเงินยูโรซึ่งปัจจุบันมีน้ำหนัก 30.9% น่าจะถูกกระทบมากกว่าเงินสกุลอื่น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินหยวนจะค่อยๆอ่อนค่าตามภาวะเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับเงินสกุลอื่นใน SDR ยกเว้นดอลลาร์ที่มีทิศทางแข็งค่า ผลกระทบกับไทยมีน้อย
(0) เศรษฐกิจไทยต.ค.ฟื้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐ ส่วนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนมีเฉพาะสินค้าจำเป็น แต่ความเชื่อมั่นไม่มากพอที่จะใช้จ่ายสินค้าราคาสูง เช่นบ้านและรถได้ สิ่งที่เราอยากเห็นคือการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น แต่กลับยังอยู่ในระดับต่ำ เราคาดการลงทุนภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H16 หลังเห็นการลงทุนภาครัฐเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น กลุ่มรับเหมาถูก Sell on fact หลังรถไฟทางคู่เส้นฉะเชิงเทรา-แก่งคอยประมูลเสร็จเมื่อ 19 พ.ย. ปัจจุบันน่าสะสมใหม่ เก็งกำไรการประมูลรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น 8 ธ.ค. ที่มีผู้ประมูลคือ ITD, CK, STEC, UNIQ
(0) ความหวังที่ SET จะทะลุ 1,400 จุดก่อนสิ้นปีนี้มีน้อยลง เพราะปัจจัยลบที่แม้เป็นเรื่องเดิมๆแต่มีมากกว่าปัจจัยบวก ทั้งนี้ขึ้นกับกลุ่มสื่อสารที่ต้องจับตาการประมูล 900MHz หากการแข่งขันไม่รุนแรง กลุ่มนี้จะปรับขึ้นได้เร็วและหนุนบรรยากาศโดยรวมเพราะราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานมากแล้ว ส่วนราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า กลุ่มแบงก์ยังไม่เห็นการขยับของสินเชื่อ ประกอบกับการประชุม Fed 15-16 ธ.ค. ที่ทำให้ตลาดกังวล มีเพียง QE ของ ECB ที่เป็นข่าวดีระยะสั้น ส่วนเม็ดเงิน LTF/RMF ยังพอคาดหวังได้เพราะแรงซื้อส่วนใหญ่เข้ามาในเดือน ธ.ค. ด้วยเม็ดเงินประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท เรามองการขึ้นและลงของ SET เดือนนี้จำกัด สอดคล้องกับมุมมองทางเทคนิคที่น่าจะแกว่งในกรอบ 1340-1400 จุด หุ้นแนะนำมี ADVANC, ASK, BIG, LIT, MINT
(+) BIG งาน Photo Fair 2015 เมื่อ 25-29 พ.ย. คาดทำรายได้ราว 100 ล้านบาทเพิ่มจากปีก่อนที่ทำได้เพียง 60 ล้านบาท บวกกับ High Season เรามั่นใจว่ากำไร 4Q15 จะทำ New high อีกครั้ง ส่วนกำไรปี 2016 อาจสูงกว่าที่เราคาดว่าจะโต 9.7% Y-Y เพราะตลาด Mirrorless ยังโตแรง การลงมาทำตลาดนี้ของ Canon และ Nikon จะกระตุ้นตลาดให้โตเร็ว และมีแนวโน้มปิด Big Mobile ที่ขาดทุนปีละ 10-15 ล้านบาท ราคาปัจจุบันมี PE ปีนี้และปีหน้าเพียง 13-14 เท่า เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 2.30 บาท
(+) CK เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 36 บาท (SOTP) และยังให้ CK เป็น Top pick ของกลุ่ม แม้เราจะปรับลดกำไรปกติปีนี้เหลือเพียง 423 ล้านบาท -57% Y-Y แต่คาดกำไรโตก้าวกระโดด 138% Y-Y เป็น 1 พันล้านบาทในปี 2016 เพราะ 60% ของ Backlog ที่มีอยู่ 6.6 หมื่นล้านบาทจะรับรู้ปีหน้า ด้วย EBITDA margin ที่คาดว่าจะรักษาให้อยู่ในระดับ 9-10% ได้ และมีโอกาสได้งานเพิ่มจากรถไฟต่างๆที่จะประมูลอีก 2.5-5 แสนล้านบาทในปีหน้า กำไรดังกล่าวยังไม่รวมกำไรของ BEM (BECL+BMCL) ที่คาดว่า CK จะถือ 27% ซึ่งจะทำให้กำไรปกติมี upside อีกกว่า 40% จึงยังคงแนะนำซื้อ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบโดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ร่วงลงหลังมีรายงายว่ายอดขายในช่วง Black Friday ชะลอตัว
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสม โดยนักลงทุนยังจับตาดูการประชุม ECB ในสัปดาห์หน้าและคาดหวังว่าจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่โดยนักลงทุนให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวค่อนมาทางแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.76-35.86 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 41.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.06 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนจับตาดูการประชุม OPEC ในวันศุกร์นี้ว่าจะมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับภาวะ Oversupply ในปัจจุบัน
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,065.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้า โดยตลาดจับตาดูการประชุม ECB และ FED ที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1-ธ.ค. - จีน: PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)
- ยูโรโซน: PMI ภาคการผลิต, อัตราว่างงาน (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (พ.ย.)
2-ธ.ค. - ไทย: TACC เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.88 บาท)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (พ.ย.), อัตราว่างงาน (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: การจ้างงานเอกชน (พ.ย.), ประธาน FED แถลง, FED Beige Book
3-ธ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.), TKN เริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: ECB Press Conference, Markit Eurozone PMI (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ISM นอกภาคการผลิต (พ.ย.)
4-ธ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (พ.ย.)
- OPEC ประชุม
8-ธ.ค. - ไทย: SPRC เริ่มเทรด (ราคา IPO 9 บาท), การประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางจิระ-ขอนแก่น
- จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: 3Q15 GDP
