- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 November 2015 17:44
- Hits: 785
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังผันผวนแต่ลุ้นทรงตัวเพื่อรอดีดขึ้นได้ จึงน่าถือต่อ!
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังปรับตัวย้อนลบลงอีกพอควรวานนี้ แต่ก็ยังมีลักษณะทรงตัวได้เกือบทั้งวัน แสดงถึงแรงรับที่ยังมีเข้ามาช่วยหนุน ทำให้เราคาดว่ากรอบลบของตลาดน่าจะค่อนข้างจำกัด และยังมีสิทธิขยับขึ้นหาระดับดัชนีพื้นฐานปีนี้ที่ 1450 จุดได้ตามคาดเดิม จึงแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอขายตามเป้าต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VTE, TPOLY, SGP(buy back)
แนวโน้ม : SET ยังแกว่งตัวผันผวนและปรับตัวลงต่ออีกพอควรในช่วงเช้าวานนี้ ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นบ้างในภาคบ่าย แต่ก็ยังเป็นการแกว่งตัวด้านลบ เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างตุรกีกับรัสเซีย รวมทั้งไม่มั่นใจกับแนวโน้มผลประกอบการของหุ้นกลุ่ม ICT หลังการประมูลคลื่น 1800MHz ที่ผ่านมามีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้นักลงทุนยังรอจับตาดูการประมูลคลื่น 900MHz ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศดูเหมือนจะผ่อนคลายลงบ้าง หลังรัสเซียไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มความรุนแรงทางทหารต่อตุรกี ขณะที่มีข่าวว่ารัสเซียยังให้ความร่วมมือในการโจมตีกลุ่ม IS ร่วมกับชาติอื่นๆ ซึ่งมีตุรกีร่วมด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวก ส่วนแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT น่าจะเริ่มเบาบางลงได้บ้าง เนื่องจากราคาหุ้นหลายตัวลงมามากแล้ว และยังต้องรอความชัดเจนในช่วงกลางเดือนหน้าก่อน โดย FSS คาดว่านักลงทุนยังมีความหวังกับการที่ ECB อาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน LTF/RMF ในช่วงท้ายปีน่าจะมีเข้ามาช่วยหนุนตลาดได้ด้วย
แนวรับ 1380-1377 , 1375-1370 จุด
แนวต้าน 1385-1388 , 1390-1394 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$235ล้าน ส่วนใหญ่เป็นการไหลออกจากเกาหลีใต้ US$153.1ล้าน ตามด้วยไทย US$46.1 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ US$6.5ล้าน และ US$1.2ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนยังคงมีทิศทางไหลออกแม้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและตุรกีจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ตลาดเกิดใหม่ยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเดือนหน้า
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กลุ่ม Media กสทช. กำหนดให้เรียงช่องทีวีดิจิทัลใหม่ที่ช่อง 1-36 เหมือนกันทุกแพลตฟอร์มทั้งระบบเคเบิลและดาวเทียมตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.นี้ เราคาดเป็นลบต่อ Rating ของผู้ประกอบการในตลาดอย่าง BEC, RS, WORK (ที่ปัจจุบันช่องทีวีของบริษัทอยู่ในอันดับต้นๆ 1-10) ในช่วงแรกราว 1-2 สัปดาห์หลังการย้ายช่อง แต่ระยะยาวเราเชื่อว่าขึ้นกับความแข็งแรงของ Content มากกว่า จึงไม่น่ามีผลกระทบต่อประมาณการทั้งปีอย่างมีนัยยะ เรายังคงเลือก MAJOR เป็น Top Pick ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 35 บาท ส่วน RS ราคาหุ้นปรับลงมาจนมี Upside กว้างขึ้นเป็น 20% จากราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 13 บาท แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีปัยจัยบวกกระตุ้น จึงยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อ
(+) คาดการณ์หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ SET50 งวด 1 ม.ค.-มิ.ย.2016 มี 5 ตัวได้แก่ BAY , BIGC , BLA , SCCC , TASCO และออกได้แก่ BMCL , CBG, JAS, SAWAD, THCOM ส่วน SET 100 หุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณมี 17 ตัวได้แก่ BAY, BIGC, BLA, EPG, GL, GPSC, IFEC, MTLS, PLANB, PLAT, PTG, SCCC, SCN, SUPER, TASCO, VNG, WORK ขณะที่หุ้นที่เอาออกมี ASP, BJCHI, CKP, DEMCO, ERW, GFPT, GLOBAL, LOXLEY, MC, MONO, PSL, SAPPE, SF, SGP, TICON, U, UV
(0) AOT จะประกาศผลประกอบการปี 2015 (ปิดงบทุกก.ย.) เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q15 จะอยู่ที่ 3,598 ลบ. ลดลง 11.7%Q-Q แต่เติบโตได้ 58.3%Y-Y เพราะมีค่าใช้จ่ายพนักงานสูงสุดในปี แต่เนื่องจากการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวขึ้นทำให้ชดเชยได้ด้วยรายได้รวมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 8% Q-Q และ 30% Y-Y ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2015 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.65 หมื่นลบ. เติบโต 35% Y-Y ส่วนปี 2016 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องอีก 8.3% Y-Y เป็น 1.76 หมื่นลบ. เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 305 บาท แนะนำถือ
(+) PIMO ผลประกอบการ 9M15 น่าผิดหวังเนื่องจาก มอเตอร์อุตสาหกรรมชะลอตัวตามภาคการเกษตร และคำสั่งผลิตที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าปั๊มน้ำรายใหญ่ยังไม่มา แต่คาดว่า 4Q15 จะได้เห็นกำไรกลับมาโดดเด่น เพราะลูกค้ารายดังกล่าวเริ่มรับของค้างและสั่งผลิตเพิ่ม ต้นทุนและค่าใช้จ่ายก็ลงเพราะราคาทองแดง อะลูมิเนียม และเหล็กที่เป็นต้นทุนหลักยังทรุด และไม่มีค่าทำ IPO เหมือน 3Q15 ส่วนปีหน้ากำไรจะกระชากแรง จากลูกค้าปั๊มน้ำที่เพิ่มคำสั่งซื้อเต็มปี และตลาดส่งออกที่ขยายตัวหลังได้ใบอนุญาตจากสหรัฐฯ โดยเราคาดกำไรสุทธิปีนี้ 32 ล้านบาท ลดลง 20% Y-Y ส่วนปีหน้าคาด 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 37% Y-Y ประเมินราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 2.36 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทรงตัวท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากเข้าช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้หลังจากร่วงแรงในวันก่อนหน้า แม้จะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค แต่ยังคงได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ ECB จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นยุโรป โดยนักลงทุนคาดหวังว่า ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.61-35.75 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 43.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังกดดันปัจจัยด้านอุปทานที่อาจลดลง
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,070.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สนับสนุนให้สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26-พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q15 GDP
- สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน Thanksgiving
27-พ.ย. - ไทย : ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน (ต.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (พ.ย.)
30-พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมันทางธุรกิจ (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านรอปิดการขาย, ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
1-ธ.ค. - จีน: PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)
- ยูโรโซน: PMI ภาคการผลิต, อัตราว่างงาน (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (พ.ย.)
2-ธ.ค. - ยูโรโซน: เงินเฟ้อ, อัตราว่างงาน (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (3Q15), ประธาน FED แถลง
3 ธ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.), TKN เริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- ยูโรโซน: ECB Press Conference
- สหรัฐฯ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ISM นอกภาคการผลิต (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch