- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 November 2015 17:51
- Hits: 1073
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +19.51, NASDAQ +0.33, S&P +2.55, FTSE -28.26, CAC -68.84 และ DAX -158.32 ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ที่คาดมีความรุนแรงมากขึ้น หลังเครื่องบินขับไล่ Su-24 ของรัสเซียถูกตุรกียิงตกลงใกล้ชายแดนซีเรียวานนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และยังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) GDP – 3Q/58 ขยายตัว 2.1%qoq สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 1.5% และสูงกว่าระดับ 0.6%เมื่อ 1Q/58 โดยเป็นผลจากการทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขสินค้าคงคลังในภาคเอกชน รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในภาคการก่อสร้าง และ (2) ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศ – ก.ย. เพิ่มขึ้น 4.9%yoy สูงกว่าระดับ 4.6% เมื่อเดือนส.ค. แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค – พ.ย. อยู่ที่ 90.4 ลดลงจาก 99.1 เมื่อ
ต.ค. และต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 99.5
…..ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ถูกกดดันจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย และส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว
..... ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. +US$1.12 อยู่ที่ US$42.87 ต่อบาร์เรล ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดข้างต้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่คาด (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
..... ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$7.0 อยู่ที่ US$1,073.8 ต่อออนซ์ ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดข้างต้น กระตุ้นให้มีการซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามยังได้รับปัจจัยกดดันจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -200 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -116,782 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
(-) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขส่งออกของไทย - ต.ค. ลดลง 8.11%yoy ลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และต่ำกว่าที่คาดว่าจะลดลง6.95% ขณะที่ 10M/58 หดตัวลง 5.32%yoy โดยก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าการส่งออกปี’58 หดตัว 3.0%
(-) ธปท. อาจปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี’58 และ 59 ลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ (เมื่อก.ย. ที่ผ่านมา) ที่ 2.7% และ 3.7%ตามลำดับ หลังมีความเสี่ยงมากขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเอเชีย และปัญหาภัยแล้งในประเทศ โดย ธปท. จะเปิดเผยการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจครั้งต่อไป ในวันที่ 25/12/58
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ผันผวน? คาดมีโอกาสปรับลดลง ภายใต้ปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่คาดยังถูกกดดันจากประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนหน้า (15 – 16/12/58) ที่คาดสร้างความผันผวนให้กับภาพรวมตลาดจนถึงกลางเดือนหน้า อย่างไรก็ตามอาจถูกชดเชยด้วยมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่คาดเติบโตเพียงพอและสามารถรับต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี นอกจากนี้คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากความเป็นไปได้ที่ ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ที่คาดมีความชัดเจนในการประชุม 3/12/58
.....ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขส่งออก และการส่งสัญญาณของ ธปท. ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ที่คาดมีโอกาสปรับลดตัวเลข GDP ปี’58 และ 59 ลง รวมถึง Fund Flow ที่มีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิ สลับกัน อย่างไรก็ตามแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ซึ่งภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า ตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบการประชุมเดือนหน้า คาดยังมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow โดย โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets รวมถึงไทย
.....แนะจับตา (1) กลุ่มพลังงาน ที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น และ (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ ITD, CK, STEC และ UNIQ จากโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทาง ถ.จิระ – ขอนแก่น วงเงินประมาณ 26,000 ล้านบาท หลังผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น (PQ) ทั้ง 4 ราย และ รฟท. กำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 8/12/58
...รวมถึงติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท เช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 35.71 – 35.72 แข็งค่าขึ้นจากวานนี้
แต่ระยะกลางคาดมีโอกาสอ่อนค่าอีกครั้ง ส่วนหนึ่งตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL) และหุ้นกลุ่มขนส่ง (เช่น AAV, AOT) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.24% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.31 อยู่ที่ 15.93
หุ้นแนะนำ : LIT
ประเด็นที่ต้องติดตาม (25 - 27 พ.ย.’58)
25/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - ต.ค. (2) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - ต.ค. (3) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
(4) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - พ.ย. (5) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - พ.ย. (6) ยอดขายบ้านใหม่ - ต.ค. (6) สต็อกน้ำมัน
26/11/58 : - ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากหน่วยงานราชการและตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ ในวันขอบคุณพระเจ้า –
27/11/58 : - ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ –
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788