WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน



แม้ SET ยังย้อนลบแต่ก็มีลักษณะทรงตัวอยู่ จึงน่ารอขายบวก!

     กลยุทธ์ : แม้ SET จะยังแกว่งปรับพักตัวลงอีก แต่ก็มีลักษณะทรงตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วอยู่ ขณะที่ FSS คาดว่ากรอบลบของตลาดน่าจะยังจำกัด และมีลุ้นรีบาวด์ขึ้นหาระดับดัชนีพื้นฐานปีนี้ที่ 1450 จุดได้ตามคาดเดิม ดังนั้นเรายังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอขายทำกำไรตามเป้าหมายต่อไป

หุ้นเด่นทางเทคนิค : GLOBAL, KKC, CENTEL(short)
      แนวโน้ม : SET แกว่งทรงตัวได้ดีแค่เพียงในช่วงเช้าวานนี้ ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันมากขึ้นในภาคบ่าย จนทำให้ดัชนีปรับตัวลงมาปิดสิ้นวันเป็นลบอีกครั้ง โดยคาดว่าแรงขายส่วนหนึ่งมาจากความวิตกเกี่ยวกับข่าวเครื่องบินรบรัสเซียถูกยิงตกบริเวณชายแดนซีเรีย รวมถึงไม่มั่นใจสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากกลุ่ม ISIS หลังมีข่าวระเบิดในกรีซด้วย อย่างไรก็ตามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับตุรกีที่เกิดขึ้น กลับช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานช่วยผลักดันให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้พลิกกลับมาปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงก่อนในช่วงแรกกว่า 100 จุด รวมทั้งยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีกว่าประมาณการครั้งก่อนพอควรด้วย ขณะที่เช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นลบ แต่ก็เป็นการปรับตัวที่ไม่รุนแรงและยังมีบางแห่งที่ขยับบวกกลับได้ ทำให้ FSS คาดว่ากรอบลบของ SET น่าจะยังจำกัด และสามารถลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ดัชนีพลิกกลับไปแกว่งบวกต่อได้ตามคาด จากแรงซื้อเก็งกำไรความคาดหวังเชิงบวกที่ว่า ECB อาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน LTF/RMF ในช่วงท้ายปีด้วย

แนวรับ 1383-1380 , 1376-1370 จุด
แนวต้าน 1387-1390 , 1394-1398 จุด

     Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกทุกประเทศรวม US$230ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$142.8ล้าน และไต้หวัน US$39.1 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนยังมีทิศทางไหลออกจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและตุรกี

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) ตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรงหลังเครื่องบนรัสเซียถูกยิงตก โดยลดลงเฉลี่ยกว่า 1% วานนี้หลังเครื่องบินรบรัสเซียถูกตุรกียิงตกบริเวณชายแดนซีเรียซึ่งทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความตึงเครียดมากขึ้นและหนุนให้ราคาน้ำมันปรับ Brent และ WTI ปรับตัวขึ้น 2.9% และ 2.7% ตามลำดับ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯยังปิดในแดนบวกได้จากตัวเลข GDP 3Q15 ที่ดีกว่าคาดช่วยหนุน อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวอาจกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นวันนี้

  (-) ยอดส่งออกเดือน ต.ค. แย่กว่าคาด ลดลง 8.1% Y-Y (ตลาดคาดลด 6.9% Y-Y) จากฐานปีก่อนที่สูงเพราะการเมืองปลดล็อค ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรปีนี้ที่ยังเป็นตัวฉุดสำคัญ ส่วนยอดนำเข้ายังทรุดหนัก 18% Y-Y อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสที่ยอดส่งออก-นำเข้าจะติดลบน้อยลงเพราะฐานต่ำและการลงทุนเริ่มขยับ ถ้าเทียบครั้งที่ตัวเลขส่งออกเซอร์ไพรส์เชิงลบล่าสุดคือเดือน ส.ค. ซึ่งเปิดเผยวันที่ 28 ก.ย. 15 SET ปรับลงวันนั้น 1% (ใกล้เคียงกับวานนี้) แล้วลงต่ออีก 0.8% วันถัดไปก่อนจะทรงตัวได้แล้วฟื้นกลับ

  (0) ยอดผลิตรถยนต์เดือน ต.ค. ชะลอ M-M ตามปัจจัยฤดูกาล ลดลง 4% M-M แต่โตได้ 4% Y-Y ตามยอดส่งออกที่หดตัว 11% M-M แต่โต 19% Y-Y ทำให้เราคาดว่ากำไร 4Q15 ของทั้งกลุ่มจะทำได้อย่างมากเพียงแค่ทรงตัว Q-Q เรายังคงน้ำหนักการลงทุน Neutral โดยยังแนะนำซื้อ เพียง SAT ราคาเป้าหมาย 20.40 บาท และ EPG ราคาเป้าหมาย 15 บาท

  (0) กลุ่มสื่อสารฯ ดัชนีกลุ่ม ICT ปรับลง 1.9% วานนี้ ถ่วงโดย TRUE ที่ปรับลง 4.4% จากความกังวลเรื่องการเพิ่มทุนหลังยังไม่จ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz งวดแรก 2 หมื่นลบ. ซึ่งกดดันลามไปถึงหุ้นตัวอื่นๆ แต่เราคิดว่า TRUE ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพราะปัจจุบันมี D/E ratio เพียง 0.8 เท่าและมีหนี้สินในรูปหุ้นกู้ทั้งหมด จึงยังสามารถกู้จากธนาคารฯมาชำระได้ แต่หากชนะประมูลคลื่น 900 MHz ในเดือนหน้าด้วยอาจเสี่ยงที่ต้องเพิ่มทุน (เราไม่คิดว่า True จะชนะ) ส่วน ADVANC ปัจจุบันมี D/E Ratio ที่ 1.2 เท่า และ Net Debt to EBITDA เพียง 0.5 เท่า ขณะที่ DTAC ปัจจุบันมีเงินสดในมือ 2.1 หมื่นลบ. จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เราคาดว่าราคาหุ้นจะยังเคลื่อนไหวในระดับต่ำจนกว่าการประมูลคลื่น 900 MHz ในวันที่ 15 ธ.ค. จะเสร็จสิ้น ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเข้าซื้อ แต่เรายังเลือก ADVANC เป็น Top Pick ราคาเป้าหมาย 270 บาท

(+) LIT เราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาหลังประกาศผลการดำเนินงาน 3Q15 ซึ่งแม้ว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามจากเป้าหมายการเติบโตเชิงรุกและการทำงานอย่างหนักของผู้บริหารในการหาตลาดและโอกาสใหม่ๆในการขยายสินเชื่อ Factoring และ E-Bidding ทำให้เรายังเชื่อมั่นว่า LIT ยังแสดงการเติบโตทั้งรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2016 ที่ระดับมากกว่า 30% Y-Y โดยยังคงราคาเหมาะสมปี 2016 ที่ 9.70 บาท

(0) FSMART จาก Opportunity Day วานนี้ไม่มีประเด็นใหม่ เรายังคงคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2015-2017 จะโตสูงเฉลี่ยปีละ 32% ตามการขยายตัวของตู้เติมเงิน ส่วนกำไร 4Q15 คาดว่าจะโตต่อเนื่องทั้ง Q-Q และ Y-Y และเป็นระดับสูงสุดของปี โดยจะมีรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเร็วและเข้าใกล้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 16 บาท จึงแนะนำเพียงถือ

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกเล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ซึ่งหักล้างข่าวที่เครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกในชายแดนซีเรีย

(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดค่อนข้างแรงจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการก่อการร้ายในยุโรป รวมถึงแรงกดดันจากเครื่องบินรบรัสเซียที่ถูกยิงตกในเขตชายแดนซีเรีย

(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดทรงตัวเนื่องจากนักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์ตึงเครียดในฝั่งตะวันออกกลางและยุโรป

(0) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแต่ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60-35.75 บาท/ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 42.87 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเครื่องบินรบรัสเซียถูกยิงตกในซีเรีย ซึ่งทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความตึงเครียดมากขึ้นซึ่งอาจลามไปถึงอุปทานของน้ำมันที่ลดลง

  ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,073.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในระวันออกกลาง ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

25-พ.ย. - อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ

- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, การใช้จ่ายส่วนบุคคล (ต.ค.)
26-พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q15 GDP

- สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน Thanksgiving
27-พ.ย. - ไทย : ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ต.ค.)

- ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน (ต.ค.)

- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (พ.ย.)
30-พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมันทางธุรกิจ (ต.ค.)

- ญี่ปุ่น: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก (ต.ค.)

- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านรอปิดการขาย, ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
1-ธ.ค. - จีน: PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)

- ยูโรโซน: PMI ภาคการผลิต, อัตราว่างงาน (พ.ย.)

- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (พ.ย.)
2-ธ.ค. - ยูโรโซน: เงินเฟ้อ, อัตราว่างงาน (พ.ย.)

- สหรัฐฯ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (3Q15), การแถลงของประธาน FED

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!