WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
     ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังคงเป็นลักษณะของการไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,400 จุด หุ้นกลุ่มธนาคารฟื้นตัวเล็กน้อย ขณะ AOT / BH / SCC ขยับขึ้นเด่น รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ตอบรับกับการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ เช่นเดียวกับกลุ่มท่องเที่ยว ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 0.38 จุด มาอยู่ที่ 1,394.22 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 28,500 ล้านบาท
     กระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดเป็นวันที่ 2 ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 839 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 4,334 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 4,063 ล้านบาท แม้ว่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 10 สตางค์ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายก็ตาม

ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม ครม. วันนี้ อาจมีการพิจารณาเกี่ยวกับแผนการลงทุนเพิ่มเติม
ติดตามตัวเลขส่งออก - นำเข้า เดือนต.ค.ของไทย Bloomberg consensus คาดส่งออก -7.40% yoy ส่วนนำเข้า -17.00% yoy
เงินทุนต่างชาติเริ่มกลับมาเลือกลงทุนหุ้นรายตัวในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

มุมมองต่อตลาด
      เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 6 พร้อมให้น้ำหนักกับ SET INDEX มีโอกาสทดสอบและปิดยืนเหนือ 1,400 จุดได้ในวันนี้ แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบที่จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในปีหน้า จากโอกาสที่มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจะถูกยกเลิกในช่วงกลางเดือนม.ค. 2559 ส่งผลกระทบต่อกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ต่อเนื่องก็ตาม
      แต่เราประเมินว่า เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ ย่อมเป็นบวกต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในช่วง 3-5 เดือนจากนี้ จะทรงตัวในระดับต่ำ ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภค / เอกชนเริ่มฟื้นตัว ย่อมกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ให้ฟื้นตัว รวมถึงการเร่งเดินหน้าผลักดันแผนการลงทุนขนาดใหญ่ ล่าสุดวันที่ 25-28 พ.ย.นี้ รองนายกฯ ดร.สมคิด และคณะ เดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อเชิญชวนเอกชนญี่ปุ่นเข้าลงทุนใน 10 อุตฯ เป้าหมายที่รัฐบาลจะผลักดันให้เป็นลักษณะ คลัสเตอร์ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - ญี่ปุ่น ประเด็นเหล่านี้ จะเป็นบวกที่ช่วยสนับสนุนราคาของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร / กลุ่มนิคมอุตฯ ให้ทรงตัวถึงขยับขึ้นได้เช่นกัน
      ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ การเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในไทย ทั้งตลาดหุ้น / SET50 Index Futures / ตลาดตราสารหนี้ ที่เริ่มทยอยสะสมต่อเนื่องอีกครั้ง ผนวกกับ ความเห็นของโบรกเกอร์ต่างชาติต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่/ ตลาดหุ้นไทย เป็น "กลางถึงบวก" มากขึ้น อีกทั้งวันที่ 2-4 ธ.ค. งาน Thailand Focus เปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนในต่างประเทศ เข้าพบปะกับบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยกว่า 100 บริษัท เราเชื่อว่าจะเห็นเม็ดเงินทุนต่างชาติกลับมาเลือกลงทุนเป็นรายตัว (Stock Selection) ในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว Christmas Holiday ในช่วงกลางเดือนธ.ค.เป็นต้นไป

กลยุทธ์การลงทุน
      ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน เมื่อ SET INDEX ทะลุแนว 1,400 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย" เพื่อรอกลับมาสะสมหุ้นเป้าหมายเมื่อราคาย่อตัวลง

Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: KTB/ TPIPL

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
KTB : ราคาปิด 17.10 บาท ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
     MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2559 หลัง GDP 3Q58 กลับมาขยายตัวทั้ง yoy และ qoq สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว
แผนลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่เริ่มเปิดประมูลตั้งแต่เดือน พ.ย.2558 เป็นต้นไปถึง 1H59 จะเป็นบวกโดยตรงต่อ KTB ที่มีสัดส่วนการปล่อยกู้ให้กับโครงการภาครัฐฯในสัดส่วนสูง
     คาดผลประกอบการ 4Q58 จะเริ่มฟื้นตัว qoq แม้ว่าโดยปกติ KTB จะมีการตั้งสำรองที่สูงในไตรมาส 4 ของทุกปี แต่เนื่องด้วย 3Q58 มีการตั้งสำรองหนี้เสียของ SSI เป็นจำนวนมาก จึงคาดว่าการตั้งสำรองจะลดลง qoq ใน 4Q58
Valuation ถูก โดยซื้อขายต่ำกว่า BV ที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.88 เท่า และให้ Dividend Yield 4.6% ต่อปี (จ่ายปีละ 1 ครั้ง)
มี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรปี 2559 หากได้รับชำระคืนเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท หลังศาลตัดสินให้ KTB ชนะคดีปล่อยกู้ให้กับ KMC โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการขายที่ดินหลักประกันและคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1Q59
TPIPL : ราคาปิด 2.48 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
     MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อ TPIPL แม้งบ 3Q58 จะออกมาขาดทุนสุทธิ 508 ล้านบาท แต่หากพิจารณารายละเอียดของงบการเงินแล้ว พบว่าเกิดจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 634 ล้านบาท และการปรับโครงสร้างสายธุรกิจไฟฟ้าอีกราว 300 ล้านบาทซึ่งเป็นรายการครั้งเดียว
ดังนั้น หลังปรับปรุงรายการพิเศษแล้วจะพบว่า TPIPL มีกำไรจากการดำเนินงานราว 300 ล้านบาท ใน 3Q58
     คาดผลประกอบการ 4Q58 จะขยายตัว qoq จากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าขยะจำนวน 73MW เต็มไตรมาส นอกจากนั้น การกลับมาแข็งค่าของเงินบาทต่อยูโร ราว 2 บาทต่อยูโร ใน 4Q58 จะช่วยหนุนให้ TPIPL กลับมามีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 300 ล้านบาท
แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2559 คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติจะเติบโตก้าวกระโดด +627% yoy เป็น 2,879 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของธุรกิจปูนซีเมนต์ และรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า 73MW เต็มปี
ซื้อขายที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.82 เท่า ต่ำกว่า SCC ที่ 2.37 เท่า และ SCCC ที่ 3.18 เท่า

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อสุทธิเล็กน้อย US$15 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$67 ล้าน

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิ 3 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 2
    นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 839 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,223 ล้านบาท เทียบกับ 10 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 13,930 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิสูงกว่า 1.1 แสนล้านบาท เป็น 116,582 ล้านบาท
    SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิวันที่ 4 อีก 4,334 สัญญา รวม 4 วันทำการ Long สุทธิ 11,360 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Long สุทธิต่อเนื่อง ผลักดันให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 44,649 สัญญา เมื่อ S50Z15 ปิดต่ำกว่า 900 จุด เป็นวันที่ 11 โดย S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 15 กว้างขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.29 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.94 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเป็นวันที่ 9 ลดลงเป็น 16,078 สัญญา
    และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 4,063 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 7,490 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 26,419 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 7 อีก 3.59bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 6.58bps ปิดที่ 2.828%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 3 เป็น 468 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 576 ล้านบาท

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,648 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,099 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,809 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 600 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 302 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคารซื้อสุทธิ 221 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 112 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 193 ล้านบาท กลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 179 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 178 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างขายสุทธิสูงสุดแต่ก็เพียง 73 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ดัชนี PMI ภาคการผลิต เบื้องต้น เดือนพ.ย. เท่ากับ 52.6 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 54.5 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 54.0 จุด เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2556 โดยคำสั่งซื้อใหม่ ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออก
ยอดขายบ้านมือสอง เดือนต.ค. หดตัว 3.4% mom เป็น 5.36 ล้านหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 5.40 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 5.55 ล้านหลัง โดยยอดขายบ้านเดี่ยว ลดลง 3.7% mom ยอดขายคอนโด ลดลง 1.6% mom
ประธานเฟดอธิบายถึงเหตุผลของการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำตลอด 7 ปี: ชาวอเมริกัน จะไม่ประสบปัญหาอัตราดอกเบี้ยต่ำตั้งแต่ปี 2551 อีกต่อไป แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว อาจเป็นบวกต่อผู้ออมเงินเพียงชั่วคราวเท่านั้น การปรับนโยบายการเงินจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ยุโรป
อิตาลีเตรียมแผนแยกแบงก์เป็น Bad Bank: รัฐบาลอิตาลี เตรียมเสนอแผนแก้ไขปัญหาหนี้เสียในระดับ (NPLs) ก่อนสิ้นปีนี้ วางแผนตัดหนี้ NPLs ราว 3.30 แสนล้านยูโร เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอในทางอ้อม ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากทาง EC แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ เบื้องต้นจะจัดตั้งเป็น SPV ขึ้นมาถือหนี้ Senior Debt ที่ถูกค้ำประกันโดยรัฐบาล หรืออาจผ่าน Cassa Depositi e Prestiti ทำหน้าที่ค้ำประกันแทน
ดัชนีธุรกิจในอียูแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 2554: ดัชนี PMI การผลิตและบริการ เดือนต.ค. เท่ากับ 54.4 จุด เดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ 53.9 จุด เป็นระดับสุงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2554 และดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาดที่ 53.9 จุด อย่างไรก็ตามภาพรวมของอียูยังคงเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด

จีน
ไม่มี

เอเชียแปซิฟิก
อินโดนีเซียเตรียมออกกฎหมายให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับปัญหาหมอกควัน: The Financial Services Authority เตรียมใช้ร่างกฎหมายในปีหน้า โดยกำหนดหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อแก่โครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายในปี 2561 เพื่อนำไปสู่การควบคุมปัญหาไฟไหม้ป่า / หมอกควัน โดยสินเชื่อที่จะมีการควบคุมเข้มงวดได้แก่ ภาคเกษตร, พลังงาน, ประมง และ ไมโครไฟแนนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตน้ำมันปาล์มจะเริ่มในเดือนม.ค.ปีหน้า
อัตราเงินเฟ้อสิงคโปร์หดตัวต่อเนื่อง: ลดลง 0.80% yoy ในเดือน ต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.6% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาด -0.4% yoy นอกจากนี้ยังเป็นการลดลง 0.4% mom หดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด -0.1% mom โดยราคาบ้านและขนส่งลดลง 4.3% yoy และ 1.7% yoy ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 1.8% yoy

ไทย
ทางหลวงผุดมอเตอร์เวย์ 2 สาย ดึงเอกชนร่วม PPP: นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.เร่งเดินหน้าศึกษาความเหมาะสมของโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาของภาครัฐ ที่ต้องการให้เอกชนเข้าร่วมโครงการลงทุน หรือ PPP โดยจะนำร่องที่โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 2 เส้นทาง มูลรวม 1.1 แสนล้านบาท ประกอบด้วย เส้นทางนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 118 กม. วงเงินลงทุน 8.06 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา และเส้นทางสงขลา-ชายแดนไทย-มาเลเซีย หรือด่านสะเดา ระยะทาง 83 กม. จะมีการจัดเตรียมงบเพื่อทำการศึกษาในปี 2560 โดยคาดว่าเฟสแรกจะจัดทำระยะทาง 55-60 กม. ภายใต้งบประมาณราว 3 หมื่นล้านบาท

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!