- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 November 2015 17:37
- Hits: 1319
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +91.06, NASDAQ +91.28, S&P +7.93, FTSE +4.70, CAC -4.13 และ DAX +34.39 โดยไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ แต่ดัชนีสามารถปิดในแดนบวกได้ หลังจากนักลงทุนซึมซับถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เกี่ยวกับกรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายใต้การเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 27 – 28/10/58 ของเฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนหน้า (15 – 16/12/58) ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
..... ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$0.15 อยู่ที่ US$40.39 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดโลก
..... ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.6 อยู่ที่ US$1,076.3 ต่อออนซ์ โดยยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่า รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +384 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -117,421 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดยังมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่คาดเติบโตเพียงพอและสามารถรับต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี รวมถึงปัจจัยหนุนจากความเป็นไปได้ที่ ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
..... ด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง โดยเฉพาะจากแผนการเร่งรัดการลงทุนของาภาครัฐฯ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนทางด้าน Fund Flow ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ จำนวน 384 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ซึ่งภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า ตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบการประชุมเดือนหน้า คาดยังมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow โดย โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets รวมถึงไทย และแนะจับตาหุ้นในกลุ่มพลังงานที่คาดอาจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.73 – 35.75 อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากวันศุกร์ แต่ระยะกลางคาดมีโอกาสอ่อนค่าอีกครั้ง ส่วนหนึ่งตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL) และหุ้นกลุ่มขนส่ง (เช่น AAV, AOT) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 2.26% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.52 อยู่ที่ 15.47
หุ้นแนะนำ : TOP
ประเด็นที่ต้องติดตาม (23 - 27 พ.ย.’58)
23/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - ต.ค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น -
พ.ย.(3) ยอดขายบ้านมือสอง - ต.ค.
24/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP – 3Q/58 (2) ราคาบ้าน - ก.ย. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - พ.ย.
25/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - ต.ค. (2) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - ต.ค. (3) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
(4) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - พ.ย. (5) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - พ.ย. (6) ยอดขายบ้านใหม่ - ต.ค. (6) สต็อกน้ำมัน
26/11/58 : - ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากหน่วยงานราชการและตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ ในวันขอบคุณพระเจ้า –
27/11/58 : - ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ -
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788