- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 November 2015 16:11
- Hits: 1550
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังแกว่งทรงตัวได้ เพื่อรอดีดบวกต่อ จึงยังเน้นถือได้!
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังมีสิทธิแกว่งผันผวนและย้อนลบได้ แต่กรอบลบน่าจะค่อนข้างจำกัด เนื่องจากตลาดลงรับข่าวไปพอควรแล้ว จึงยังลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ขยับบวกใหม่ตามคาดได้ จึงยังแนะนำถือรอบวกต่อ
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CK, PIMO, GFPT(short)
แนวโน้ม : แม้ว่า SET จะรีบาวด์กลับขึ้นมาขยับบวกได้อีกครั้งวานนี้ แต่ก็ยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบจำกัด และเป็นการแกว่งตัวในกรอบเดิม จึงมองว่าเป็นเพียงการแกว่งทรงตัว ซึ่งยังมีโอกาสปรับตัวลงแกว่งด้านลบต่อเนื่องได้อีก โดยเฉพาะเช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศก็ไม่ได้สดใสนัก ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้จะสามารถปิดเป็นบวกได้ดีพอควร เพราะได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐทำได้แค่เพียงการแกว่งตัวผันผวนขึ้น-ลงในกรอบแคบ ก่อนจะปิดทำการเป็นลบเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเอกชนบางแห่งจะถอนตัวจากโครงการโอบามาแคร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นลบอีกครั้ง หลังวานนี้หลายแห่งรีบาวด์ขึ้นได้พอควรแล้ว จึงมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้น เนื่องจากยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม แต่ FSS คาดว่ากรอบลบของ SET ช่วงนี้น่าจะยังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงมามากพอควรแล้ว และยังลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นต่อได้ตามคาด หลังนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากขึ้นจากการเร่งดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ
แนวรับ 1382-1377 , 1375-1368 จุด
แนวต้าน 1387-1389 , 1392-1398 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลกลับมาไหลเข้าภูมิภาคเป็นวันแรกในรอบ 2 สัปดาห์ที่ราว US$358ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้ US$290.5ล้าน และไต้หวัน US$83.7ล้าน ขณะที่ยังขายไทย และอินโดนีเซีย US$10.4ล้าน และ US$4.8ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนชะลอการไหลออก หลังจากรายงานการประชุม Fed ที่เปิดเผยในวันก่อนหน้าว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กลุ่มรับเหมาฯ STEC ชนะประมูลรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทราคลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 ด้วยราคา 9.83 พันลบ. ทำให้ราคาหุ้นบวกแรงและเกินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 24 บาทแล้ว ส่วนสัญญา 2 ราคาประมูลต่ำสุดอยู่ที่ 407 ลบ. โดยผู้ชนะไม่ได้อยู่ในตลาดฯ การประมูลครั้งนี้ถือเป็นตัวจุดประกายการลงทุนของภาครัฐที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต เรายังคงเลือก CK เป็น Top pick ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 33 บาท
(0) KBANK รายงานสินเชื่อเดือนต.ค.โตเพียง 0.09% M-M แม้จะเข้าไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นฤดูกาลที่ดีของการปล่อยสินเชื่อ ทำให้สินเชื่อรวม 10M15 เพิ่มขึ้น 2.69% YTD ห่างจากเป้าทั้งปีที่ 6% มากซึ่งค่อนข้างท้าทาย ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงสวนทางกลุ่มตามกำไร 4Q15 ที่คาดว่าจะหดตัวแรง 41% Q-Q และ 40% Y-Y ขณะที่กำไรปี 2016 คาดเติบโตเพียง 2.5% Y-Y จากการตั้งสำรองฯและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่กดดัน แต่เรายังเชื่อว่า KBANK มีพื้นฐานแข็งแกร่งกว่ากลุ่มทั้ง NIM ที่สูงกว่าแบงก์ใหญ่อื่นและคุณภาพสินเชื่อที่ควบคุมได้ดีกว่ากลุ่ม จึงยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 210 บาท
(0) AIT เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q15 และคาดว่าจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นใน 4Q15 เป็นต้นไป เรายังคงคาดการณ์กำไรปกติปี 2015 หดตัว 25.4% Y-Y ส่วนปี 2016 คาดเติบโต 8.2% Y-Y ซึ่งยังต้องพึ่งพางานโครงการเป็นหลักอยู่โดยคาดว่าจะเห็นงานประมูลจากภาครัฐมากขึ้น Backlog ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 2.6 พันลบ. ขณะที่การลงทุนเคเบิลใต้น้ำในพม่าและ Data Center ที่จะช่วยลดความผันผวนของรายได้คาดว่าจะเริ่มรับรู้อย่างเร็วคือปลายปี 2016 ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำให้ปัจจุบันมี Upside จำกัด เราจึงปรับคำแนะนำลงเป็นถือ เพื่อรับปันผลราว Dividend Yield 5.5% ต่อปี
(0) RS เราคาดกำไร 4Q15 จะดีขึ้น Q-Q เนื่องจากเป็น High season และการเพิ่ม Content ทำให้อัตราการใช้เวลาโฆษณาช่องทีวีดิจิตอลเพิ่มเป็น 60-65% จาก 55% 3Q15 ขณะที่รายได้จัด Event เพิ่มขึ้นและช่องทีวีดาวเทียม You Channel ขาดทุนลดลง อย่างไรก็ตามกำไรปกติปี 2015 คาดว่าจะหดตัวแรง -86% Y-Y ส่วนปี 2016 คาดฟื้นตัวสูง 384% Y-Y จากฐานต่ำ ส่วนผลกระทบที่กสทช.ให้จัดเรียงช่องทีวีดิจิตอลที่ 1-36 บนทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้ เป็นลบต่อ Eyeball ในช่วงสั้น เรายังคงคำแนะนำถือ ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 13 บาท
(+) PIMO กำไรสุทธิ 3Q15 เริ่มฟื้นตัว +19% Q-Q แต่ยังลง 12% Y-Y เพราะมอเตอร์อุตสาหกรรมทรุดตามภาคเกษตรและลูกค้ามอเตอร์ปั๊มน้ำรายใหญ่ชะลอคำสั่งผลิต แต่เริ่มกลับมาสั่งผลิตแล้ว ขณะที่ราคาทองแดง อะลูมิเนียมและเหล็กที่เป็นวัตถุดิบหลักอยู่ในช่วงขาลงและ 4Q15 จะไม่มีค่าใช้จ่ายเข้าตลาดฯเหมือน 3Q15 ทำให้กำไรสุทธิ 4Q15 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง Q-Q ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PE 30 เท่าในปีนี้ แต่จะลดเหลือ 20 เท่าในปีหน้าหรือคิดเป็น PEG เพียง 0.7 เท่า ซึ่งเป็นปีรุกการส่งออกหลังได้ใบอนุญาตจากสหรัฐฯที่เป็นตลาดสำคัญ เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 2.30 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดทรงตัว แต่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ยังปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวของบริษัทจดทะเบียนรวมถึงการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้าของ FED
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้ค่อนข้างดีจาก PBOC ที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึง ECB ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเช่นกัน
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยนักลงทุนยังจับตาเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือนหน้ารวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบหลังกลุ่ม IS ขู่โจมตีเพิ่ม
(0) ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแข็งค่าขึ้นหลังแกว่งตัวออกข้างมาซักระยะ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.71-35.82 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 40.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลง 0.21 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังคงได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันที่ยังอยู่ในภาวะ Oversupply
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,077.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20-พ.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ต.ค.)
23-พ.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
24-พ.ย. - สหรัฐ: 3Q15 GDP, ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller (ก.ย.)
25 พ.ย. - อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, การใช้จ่ายส่วนบุคคล (ต.ค.)
26-พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q15 GDP
- สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน Thanksgiving
27-พ.ย. - ไทย : ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน (ต.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (พ.ย.)
28-พ.ย. - ญี่ปุ่น: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก (พ.ย.)
- ฮ่องกง: ดุลการค้า (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch