- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 November 2015 17:29
- Hits: 1464
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
แนวโน้มปี 2016 สดใสขึ้น
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ ด้วยมุมมองที่กลับมาเป็นบวกแบบระมัดระวังทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศของนักลงทุนจะหนุนตลาด กำหนดการจะลงนามในบันทึกความเข้าใจไทย-ญี่ปุ่นเรื่องโครงการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่และความเร็วสูง แผนการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz และมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในปีหน้าของสภาพัฒน์ฯ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดชัดเจน ในขณะที่นักลงทุนหายจากความตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์โจมตีที่กรุงปารีส และการที่กรีซบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ แล้วจะเริ่มได้รับเม็ดเงินช่วยเหลือจริงๆ ยิ่งหนุนตลาดเพิ่ม
หุ้นเด่นวันนี้ : UNIQ (Bt21.30; NR; 15TP Bloomberg Bt22.53)
เราเลือกหุ้นของบริษัท ยูนีค เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) เป็นหุ้นเด่นวันนี้ UNIQ เพิ่งประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 เมื่อวานนี้ รายรับเพิ่มขึ้นทั้งโดยรวมและจากธุรกิจการก่อสร้าง 9.9% YoY และ 8.8% YoY ตามลำดับ แม้อัตรากำไรจากธุรกิจก่อสร้างจะขยับลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในอัตราที่จัดว่าสูงที่ราว 17% และน่าจะอยู่มในระดับนี้ต่อไปอีกในภาวะที่ราคาน้ำมันยังอ่อนตัวอยู่ EPS ลดลง 22.9% จากการเพิ่มทุนในเดือน ก.ค.ที่มีหุ้นใหม่เพิ่มขึ้น 302 ล้านหุ้น ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4.5% YoY มาอยู่ที่ 175 ล้านบาท จากนี้ไป UNIQ จะได้ประโยชน์จากการเร่งดำเนินการโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจุบัน UNIQ มีงานอยู่ในมือมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทซึ่งโดยปกติจะเพียงพอสร้างกำไรได้อย่างสบายอีก 2-3 ปี แต่เราคาดว่าบริษัทจะสามารถประมูลชนะโครงการภาครัฐได้อีกปีละไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท ใน 5 ปีข้างหน้า จากข้อสรุปการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ของ Bloomberg กำไรของ UNIQ น่าจะขยายตัว 22% ในปีนี้ เร่งตัวขึ้นเป็น 36% ปีหน้า ในทางเทคนิคเคิลหุ้น UNIQ กำลังปรับฐานหลังจากเกิดสัญญาณขายในกร๊าฟรายวัน แต่การที่ยังเกิดสัญญาณซื้อในกร๊าฟรายสัปดาห์และรายเดือนบ่งชี้ว่าหุ้นยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง สำหรับระยะเวลากว่าสัปดาห์ชึ้นไป และถ้าหุ้นสามารถปิดเหนือ 21.60 บาทได้ จะกลับมาเกิดสัญญาณซื้อรายวันทำให้มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งเรามองว่าน่าจะไปได้ถึง 25.50 บาท (แนวต้าน: 21.40, 21.50, 21.70 ; แนวรับ: 21.20, 21.10, 20.90)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
MOU ระบบรางไทย-ญี่ปุ่นใกล้เข้ามา ระหว่างเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. ไทยและญี่ปุ่นจะลงนามบันทึกความเข้าใจของโครงการร่วมพัฒนาระบบรางคู่ มุ่งเป้าไปที่ 3 โครงการ เส้นแรกระยะทาง 547 กม. เชื่อมกาญจนบุรีกับสระแก้วซึ่งน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ต้นปีหน้า ส่วนโครงการต่อมาคือรถไฟความเร็วสูง 715 กม. ระหว่างกรุงเทพเชียงใหม่และเส้น 718 กม.ระหว่างตากกับมุกดาหารซึ่งไทยจะชวนญี่ปุ่นมาร่วมทุน (Bangkok Post)
เคาะประมูล 900 เมกะเฮิร์ตซ์แต่ละรอบยังคงยาว 20 นาที เช่นเดียวกับการประมูล 1800 เมกะเฮิร์ตซ์สัปดาห์ที่แล้ว จากที่เดิมมีไอเดียผุดว่าอาจจะตัดเหลือช่วงละ 10 นาทีแทน เพราะรอบก่อนประมูลใช้เวลาถึง 30 ชม. (Bangkok Post)
สคช. คาดเศรษฐกิจฟื้นปี 59 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช) คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัว 3-4% ในปี 59 จากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชนและการลงทุน การบริโภคคาดว่าจะเติบโตได้ 2.6% ในปี 59 จาก 2.0% ในปีนี้ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโต 4.7% เทียบกับติดลบ -1.3% ในปีนี้ (The Nation) ความเห็น: สคช.ยังคาดหวังการเร่งลงทุนของรัฐบาลที่จะเติบโตจาก 2.7% ในปีนี้ เป็น 3.2% ในปี 59 แต่การเติบโตปีหน้ายังต้องพึ่งพาภาคเอกชนด้วย
นักท่องเที่ยวกังวลต่อความปลอดภัยมากขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวกล่าวว่าการก่อการร้ายที่ฝรั่งเศสเป็นปัจจัยเพิ่มความกังวลของนักท่องเทียวทั้งระยะสั้นและระยะยาวซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องยกระดับความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียนักท่องเที่ยว (Bangkok Post)
TASCO (39.25 บ.) ผู้นำการผลิตและจำหน่ายยางมะตอยของไทย เมื่อวานนี้ประกาศมติอนุมัติของบอรด์ในการเข้าซื้อบริษัทผู้ผลิตและให้บริการด้านโลจิสติกส์ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียจากผู้ถือหุ้นเดิม Colas SA มูลค่า 2.2 พันลบ. บริษัทมีแผนลงทุนปีละ 1.7 พันลบ. ในอีกห้าปีข้างหน้า สำหรับปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจะเติบโตได้ 10-15% เป็น 2.2-2.3 ล้านตัน ราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญขณะที่บริษัทยังคงรักษาราคาขายไว้ได้ยิ่งช่วยเพิ่มอัตราทำกำไรของบริษัทในไตรมาส 3/58 (The Nation)
ต่างประเทศ :
ฝรั่งเศสให้คำมั่นว่าจะทำลายกลุ่ม ISIS ส่วนกลุ่ม ISIS ขู่โจมตีกลับ: ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายฟรังซัว ออลลองด์ เรียกร้องให้สหรัฐและรัสเซียร่วมกันถล่มรัฐอิสลามหลังจากการโจมตีทั่วกรุงปารีส และประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายในฝรั่งเศส เขาสัญญาว่าจะเพิ่มเงินทุนสำหรับความมั่นคงแห่งชาติและทำให้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อตอบโต้การระเบิดพลีชีพและการยิงซึ่งคร่าชีวิต 129 ราย ส่วนรัฐอิสลามเตือนในวิดีทัศน์เมื่อวันจันทร์ว่าประเทศใดก็ตามที่โจมตีพวกเขาจะต้องประสบชะตากรรมเดียวกับที่กรุงปารีส และระบุว่ามีเป้าหมายที่กรุงวอชิงตัน (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเทียบเงินสกุลหลักอื่น หลังจากความสนใจของนักลงทุนได้กลับมาที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งมีความเป็นไปได้ในเดือนธ.ค. ดอลลาร์เกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 123.33 เยน เงินเยนเป็นเงินสกุลหลักอีกสกุลหนึ่งที่ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งโดยปกติแล้วจะถือครองในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินสวิสฟรังก์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกตัวหนึ่ง หลังจากแข็งค่าขึ้นมากสุดในรอบ 8 เดือน เงินยูโรยังทรงตัวอยู่ที่ 1.0688 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่อ่อนค่าลง 0.9% เมื่อคืน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทแตะระดับสูงสุดในช่วง 3 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจะมีผลกระทบในระยะยาวน้อยมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐและผลกำไรของบริษัทใหญ่ ๆ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมากสุดในตลาดเนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังจากเหตุโจมตีกรุงปารีสเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศซึ่งจะมีผลต่อปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก ส่วนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสันทนาการได้แก่ สายการบิน เรือสำราญ และอื่นๆ ได้รับผลกระทบในเชิงลบ (Reuters)
ราคาพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นพอสมควรเมื่อวันจันทร์ จากความกังวลเกี่ยวกับเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ ถึงแม้นักลงทุนมองว่าเฟดจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 4/32 และให้อัตราผลตอบแทน 2.268% ลดลงจาก 2.28% เมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปกลับมาปิดบวกเล็กน้อยหลังจากร่วงในช่วงต้นในวันจันทร์ โดยหุ้นพลังงานที่บวกแรงสามารถต้านแรงลบจากการที่หุ้นท่องเที่ยวถูกเทขายหนักจากเหตุก่อการร้ายในปารีสในวันศุกร์ต่อเสาร์ที่ผ่านมา จากปฏิกริยาการเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนพอจะสรุปว่า การสูญเสียความเชื่อมั่นจะเป็นไปในระยะสั้นต่อหุ้นท่องเที่ยว และการขนส่งเท่านั้น โดยไม่น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว และไม่น่าจะมีผลต่อทิศทางการฟื้นตัวของตลาด(Reuters)
กรีซบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ ในเรื่องเงื่อนไขการปฏิรูปเช้าวันนี้ ขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ที่ได้ทำสัญญากันไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ โดยกรีซจะได้รับเม็ดเงินกู้ทั่วไปงวดแรก 2 พันล้านยูโร และเงินเพิ่มทุนธนาคารอีก 1 หมื่นล้านยูโร กรีซได้ลงนามในการขอรับความช่วยเหลือเป็นเงินกู้จำนวน 8.6 หมื่นล้านยูโรมาก่อนหน้านี้ แต่ติดขัดที่ความเห็นไม่ลงรอยกันในเรื่องกฎระเบียบการยึดอสังหาริมทรัพย์ และการจัดการเรื่องภาษี (Reuters)
เอเชีย :
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ นำโดยหุ้นกลุ่มส่งออก กลุ่มสายการบิน และบริษัทตัวแทนจำหน่ายการท่องเที่ยว จากแรงกดดันของเหตุการณ์ก่อการร้ายของกลุ่ม ISIS ในกรุงปารีส (Reuters)
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติจะเริ่มขึ้นในปี 2560 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเลื่อนกำหนดการก่อสร้างออกไปหลายครั้งซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนที่วางไว้ (Reuters)
IMF คาดว่าจะสามารถอนุมัติข้อสรุปในการนำสกุลเงินหยวนเข้ามารวมไว้ในตระกร้าเงินของ IMF มูลค่ากว่า 2.8 แสนล้านดอลลาร์ฯ ได้ภายในเดือนนี้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบวันจันทร์ขยับขึ้น หลังจากร่วงแรงสัปดาห์ก่อน เพราะการโจมตีฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์ทำให้เกิดความตึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศซึ่งอาจสั่นคลอนอุปทานน้ำมัน Brent ขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 44.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ปิดที่ 41.74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หนุนจากตลาดหุ้นที่เป็นบวกด้วย (Reuters)
ราคาทองเป็นบวกน้อยลงในวันจันทร์ หลังในช่วงแรกมีแรงซื้อจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยตามเหตุการณ์การโจมตีฝรั่งเศส แต่ก็ชะลอตัวลงหลังนักลงทุนกลับมาสนใจแนวโน้ม Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า ทองคำตลาดจรบวกเพียง 0.1% มาอยู่ที่ 1,083.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำตลาดล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. ปิดขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 1,083.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094