- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 November 2015 18:04
- Hits: 1487
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -202.83, NASDAQ -77.20, S&P -22.93, FTSE -60.40, CAC -48.70 และ DAX -74.23 ภายใต้ปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) – ต.ค. ลดลง 0.4%MoM (สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%) จากราคาน้ำมันที่ลดลง และเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และ (2) ยอดค้าปลีก – ต.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 0.1%MoM (ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%) อยู่ที่ 4.473 แสนล้านUSD เป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ ยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อการใช้จ่าย ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค – พ.ย. อยู่ที่ 93.1 จาก 90.0 เมื่อต.ค. โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 91.5
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.01 อยู่ที่ US$40.74 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความวิตกกังวลว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจจะสูงกว่าอุปสงค์ ขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะที่เปิดดำเนินงานในสหรัฐฯ ล่าสุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 แห่งเป็น 574 แห่ง รวมถึงรายงานภาวะตลาดน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่าผลผลิตน้ำมันของโอเปกอยู่ที่เฉลี่ย 31.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดความต้องการน้ำมันของกลุ่มโอเปกในปี’58 อยู่ที่ 29.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อน และคาดว่จะเพิ่มขึ้นเป็น 30.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี’59
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$0.1 อยู่ที่ US$1,080.9 ต่อออนซ์ ลดลงเล็กน้อย โดยได้รับปัจจัยลบจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และคาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากการคาดการณ์ว่าเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. (15 – 16/12/58)
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,478 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -112,757 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ผันผวน? ภายใต้ปัจจัยกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นต่อประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (ในรอบการประชุม 15 – 16/12/58) ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันจากประเด็นดังกล่าวลงได้บ้าง หลังในช่วงที่ผ่านมามีผลต่อภาพรวมตลาดทั่วโลก อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามทิศทางของ Fund Flow โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets ขณะที่เงินสหรัฐฯ ยังคงแข็งค่า นอกจากนี้คาดยังได้รับ (-) จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน ซึ่งคาดอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังประเทศคู่ค้า และ (+) จากคาดการณ์ว่า ECB อาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งอาจเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายระยะเวลาออกไป (จากต้นปีทีผ่านมา ECB ประกาศวงเงินซื้อพันธบัตร จำนวน 60,000 ล้านยูโรต่อเดือน ถึงกันยายน’59 โดยเริ่มซื้อมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งหมด 18 เดือน เป็นวงเงินรวมประมาณ 1.1 ล้านยูโร) แนะติดตามการประชุมของ ECB ในวันที่ 3/12/58 รวมถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ที่คาดอาจจะส่งผลกระทบต่อ Sentiment ในการลงทุนบ้าง?
…..ทางด้านประเด็นในประเทศ แนะติดตามตัวเลข GDP – 3Q/58 ที่คาด +0.7%qoq และ +2.6%yoy รวมถึง (1) กลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ ADVANC และ TRUE ชนะการประมูล 4G บนคลื่นความถี่ 1800MHz ด้วยมูลค่ารวม 80,778 ล้านบาท (2) หุ้นในกลุ่มพลังงาน คาดยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ลดลง และ (3) หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น ITD, CK, STEC, UNIQ และ NWR หลังผ่านคุณสมบัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 10,525 ล้านบาท (แบ่งเป็น สัญญา 1 มูลค่า 9,926 ล้านบาท และสัญญา 2 มูลค่า 599 ล้านบาท) และ รฟท. จะเปิดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 19/11/58 (พฤ.นี้)
.....ขณะที่อยู่ในช่วงท้ายของการประกาศงบฯ – 3Q/58 ที่คาดอาจการขายทำกำไร – Sell on Fact ออกมา ส่วนทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิ เกือบ 2,500 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่ โดยค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า
...โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.93 – 35.95 คาดมีโอกาสอ่อนค่าอีกครั้ง (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL) และหุ้นกลุ่มขนส่ง (เช่น AAV, AOT) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.04 อยู่ที่ 2.28% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.71 อยู่ที่ 20.08
หุ้นแนะนำ : SYNTEC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (16 - 20 พ.ย.’58)
16/11/58 : สภาพัฒน์ฯ เปิดเผย GDP – 3Q/58 โดยคาด +0.7%qoq และ +2.6%yoyสหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีการผลิต (Empire State Index) - พ.ย.
17/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ต.ค. (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต - ต.ค.
(3) ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย - พ.ย. (4) เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติ - ก.ย.
18/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - ต.ค. (2) สต็อกน้ำมัน
19/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - พ.ย.
(3) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - ต.ค.
20/11/58 : - ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ -
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788