- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 November 2015 16:09
- Hits: 741
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : ซื้อที่แนวรับ 1380-1385
SET Index: 1383.34 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1380 จุดก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาในช่วงสั้น เหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นกว่า 22,000 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณารูปแบบทางเทคนิคของการปรับตัวลดลง เราคาดว่า การปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับสำคัญที่ 1370-1380 จุด น่าจะมีความเสี่ยงอีกไม่มาก และมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1420 จุด เนื่องจากการปรับตัวลดลงในหุ้นรายตัวเริ่มมีแรงขายไม่สูงมาก ยกเว้นหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ยังไม่ได้ข้อยุติเกี่ยวกับการประมูล 4G
แนวต้าน : 1386 และ 1390
แนวรับ : 1380 และ 1378
ADVANC = 214 / 218, JAS = 5.20 / 5.40, RP = 17.00 / 17.80, TRUE = 9.25 / 9.50, INTUCH = 70.00 / 71.00
Berli Jucker (BJC TB; THB 36.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 38.50 และ 40.00
แนวรับ : 36.50 และ 36.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่โครงสร้างของราคาน่าจะสิ้นสุดแนวโน้มขาลงไปแล้ว
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวลดลงทดสอบแนวโน้มลง RSI เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ BJC โดยมีแนวรับที่ 36.50 และ 36.00 และมีแนวต้านที่ 38.50 และ 40.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 35.50 ลงไป
PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 55.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 58.00 และ 59.00
แนวรับ : 55.00 และ 54.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป แต่เมื่อพิจารณาการทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญ
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยลงไปในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงเข้าใกล้ระดับ 40
แนะนำซื้อ PTTGC โดยมีแนวรับที่ 55.00 และ 54.50 และมีแนวต้านที่ 58.00 และ 59.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 54.00 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z15 ฟื้นตัวในระยะสั้นที่บริเวณแนวรับ 880 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาลงในระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 890 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิค และมีแนวรับที่ 875 ดังนั้น การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 875 ลงไป เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะ Open Long โดยมีแนวรับสำคัญที่ 865
แนวต้าน : 885 และ 888
แนวรับ : 880 และ 875
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Short ใน S50Z15 ที่แนวรับ 880 และ 875 พร้อมกับเปลี่ยนเป็นสถานะ Long ที่แนวรับ 870
STOP LOSS สถานะ Short ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 890 กลับขึ้นไป
JASZ15
ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทำจุดต่ำสุดที่ 5.05 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปปิดในช่วงเช้าที่ 5.26 ซึ่งเราได้แนะนำให้ Open Long ที่แนวรับ 5.20 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวในระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 5.50 แต่การปรับตัวลดลงหลุดแนวรับที่ 5.20 ลงไป ทำให้โครงสร้างในระยะยาวยังคงมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
แนวต้าน : 5.30 และ 5.40
แนวรับ : 5.25 และ 5.20
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ขายสถานะ Long ใน JASZ15 ที่แนวต้าน 5.40 เนื่องจากสัญญาณขายค่อนข้างแข็งแกร่ง และมีแนวรับที่ 5.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDZ15 ปรับตัวลดลงหลุด 5.20 ลงไป
TRUEZ15
ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 9.40 หลังจากพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลีย่ 10 และ 20 วัน แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณจุดต่ำสุดเดิม โดยมีแนวต้านที่ 9.70 แต่ถ้าปรับตัวดลลงหลุด 9.30 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 8.80
แนวต้าน : 9.60 และ 9.70
แนวรับ : 9.40 และ 9.30
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Long และเปลี่ยนมาเป็นการ Open Short ใน TRUEZ15 ที่แนวต้าน 9.60 และมีแนวรับที่ 9.40
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า TRUEZ15 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 9.80 กลับขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ผันผวนต่อ
สภาพตลาดคาดยังคงอยู่ในสภาพทรงๆ ซึมๆ อีกสักพัก หลังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ เข้ามา จะมีบ้างก็เป็นการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ซึ่งดูเหมือนตลาดจะค่อยๆ ซึมทราบข่าวไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดในแดนลบ ส่งผลให้ไม่มีปัจจัยชี้นำตลาด โดยประเด็นที่ตลาดต้องจับตามองมากที่สุด คือ วันพรุ่งนี้ที่ทาง MSCI จะประกาศการทบทวนน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI ประเภทต่างๆ
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเล่นหุ้นในวันพรุ่งนี้ คือ การทบทวนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI หรือ MSCI November Semi-Annual Index Review ซึ่งเราจะรู้ผลการประกาศในวันพรุ่งนี้ แม้จะยังคาดไม่ได้ว่าหุ้นของไทยที่จะเข้าไปคำนวณหรือถูกถอดออกมีหุ้นไหนบ้าง แต่พอที่จะคาดการณ์คร่าวๆได้ว่า จำนวนที่ถูกถอดออก น่าจะมากกว่าที่จะใส่เข้าไป เนื่องจากภาวะการลงทุนในช่วง 6 เดือนหลังของปี ตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยจะดีทั้งสภาพคล่องที่หดหายไปและผลตอบแทนที่ติดลบ โดยสภาพดังกล่าวน่าจะเหมือนกันกับในหลายๆตลาดในอาเซียนทั้ง ไทย มาเลเชีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเชีย
หากหุ้นใหญ่ในกลุ่มสำคัญ ถูกถอดออกจาก MSCI Global Standard ก็น่าจะกระทบกับดัชนี SET ได้แรง เนื่องจากสภาพตลาดอยู่ในภาวะเปราะบาง แต่หากไม่มีการถูกถอดออกหรือใส่เข้าไปใหม่ ก็คงไม่กระทบอะไร ซึ่งคงต้องรอลุ้นในวันพรุ่งนี้ หากมีการถอดหุ้นออกหรือเพิ่มเข้าไปใหม่ น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็กที่อยู่ใน MSCI Global Small cap. หากมาดูหุ้นใหญ่ใน SET 50 ของไทยในช่วง 6 เดือนหลังถึงปัจจุบัน จะพบว่าราคาหุ้นที่ลงไปลึกๆ จะเป็นหุ้นที่โยงกับกลุ่มพลังงาน อาหาร ปูนและสื่อสารบางตัว ขณะที่ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงลึก คือ พลังงานและปิโตรเคมี ดูรูปด้านขวา ส่วนรูปด้านซ้าย แสดงดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน พบว่ากลุ่มธนาคารลงลึกสุด มากกว่า 20%
วันนี้คาดตลาดจะยังถูกดดันจากการไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ ทั้งราคาน้ำมันยังปรับตัวลงจากแรงกดดันของปริมาณสต๊อกน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นหลักในต่างประเทศต่างปิดในแดนลบ คาดดัชนี SET จะยังแกว่งตัวตามดัชนีในภูมิภาคเพื่อรอดูการทบทวนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ในวันพรุ่งนี้ คาดแนวรับวันนี้อยู่ที่ 1384-1380 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1395-1400 จุด กลยุทธ์การลงทุนของการเล่นรอบ ยังคงให้รอ จนกว่าจะเห็นความชัดเจนการทบทวนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI แต่สามารถเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงาน Q3/15 ออกมาดี อย่าง STEC TOP และ GFPT
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,383.34 จุด ลดลง 6.81 จุด(-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 22,596.66 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงกดดันจากกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากรอผลการประมูล 4G ขณะที่มีแรงหนุนซื้อจากกลุ่มธนาคาร ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ เนื่องจากรอปัจจัยใหม่หนุน
AP รายงานผลประกอบ Q3/15 มีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาท (EPS 0.24 บาท) ลดลง 28% YoY แต่เพิ่มขึ้น 16% QoQ (มากกว่าที่ตลาดคาด 8%) 9M15 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,947 ล้านบาท (EPS 0.62 บาท) ลดลง 3% YoY โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 7.63 บาท (Buy/Hold/Sell : 21/1/0)
IVL รายงานผลประกอบ Q3/15 มีกำไรสุทธิ 475 ล้านบาท (EPS 0.05 บาท) ลดลง 19% YoY และ 91% QoQ (น้อยกว่าที่ตลาดคาด 33%) 9M15 บริษัทมีกำไรสุทธิ 6,203 ล้านบาท (EPS 1.16 บาท) เพิ่มขึ้น 154% YoY โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 27.73 บาท (Buy/Hold/Sell : 10/4/3)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งรอผลประมูล 4G ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญในการแกว่งของ SET index ในช่วงเช้าภาพรวมตลาดถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังการประมูลยังยืดเยื้อและราคาใบอนุญาติเพิ่มขึ้นกว่าที่ตลาดคาด ทำให้การคาดหวังผลบวกจากการได้ชนะประมูล 4G ลดน้อยลง โดยในกรณีที่จะส่งผลต่อภาวะตลาดทางลบมากที่สุดคือ ในกรณีที่ JAS ชนะการประมูล เพราะสามารถมองได้ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมจะรุนแรงขึ้นจากการมีผู้เล่นรายใหม่ ซึ่งมักจะต้องมีการลดราคาในการให้ได้มาซึ่งฐานลูกค้า และจะทำให้อัตราการทำกำไรของธุรกิจมือถือเปลี่ยนไปในทางแย่ลงทำให้น่าจะเกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสารออกมาอีกรอบ ในกรณีนี้แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มสื่อสารทั้งหมด ส่วนในกรณีที่ JAS ไม่ชนะการประมูล แนะนำแค่ซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ JAS และADVANC เพราะJAS ยังมีโอกาสอีกครั้งในการเข้าประมูล 4G คลื่น 900 MHZ ซึ่งก็จะเกิดภาพคล้ายกับการประมูลในวันนี้อีกครั้ง
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Berli Jucker (BJC TB; THB 36.50) - ซื้อ
PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 55.25) - ซื้อ
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : GL, FER*, TAPAC* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]