- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 November 2015 18:02
- Hits: 893
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +27.73, NASDAQ -12.06, S&P +3.14, FTSE -19.88, CAC +0.99 และ DAX +17.07 ภายใต้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฯ – กย. เพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 3 เดือน จากยอดขายที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนและปรับขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากยังได้รับปัจจัยลบจาก (1) เพิ่มน้ำหนักต่อความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 15 – 16/12/58 และ (2) ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี’59 ลง รวมถึงจีน ที่ล่าสุดเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อยังชะลอตัว ทั้งในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$0.34 อยู่ที่ US$44.21 ต่อบาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันจะลดลงมากกว่า 20% ในปี’58 และคาดลดลงต่อเนื่องในปี’59 รวมทั้งคาดการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$0.4 อยู่ที่ US$1,088.5 ต่อออนซ์ ปรับขึ้นเล็กน้อย โดยยังได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่า และคาดการณ์ว่าเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. (15 – 16/12/58)
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -776 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -105,675 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? แต่คาดยังมีความผันผวน มีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - ตามตลาดต่างประเทศที่เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาและล่าสุด ที่ออกมาดี ทำให้คาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป จนถึงกลางเดือนหน้า จากการคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบการประชุมครั้งหน้า (15 – 16/12/58) ซึ่งคาดมีผลต่อทิศทางการไหลออกของ Fund Flow โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets ขณะที่คาดยังได้รับปัจจัยลบจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน ที่ตัวเลขการค้าล่าสุดยังไม่ดี ซึ่งคาดอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังประเทศคู่ค้า รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อยังชะลอตัว
…..ทางด้านประเด็นในประเทศ แนะจับตา (1) กลุ่มในกลุ่มสื่อสาร ที่คาดมีแรงเก็งกำไร จากการที่กสทช. กำหนดเปิดประมูล 4G บนคลื่นความถี่ 1800MHz ในวันนี้ คาดทราบผลประมูลหลังตลาดฯ ปิด และ (2) หุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่คาดได้รับปัจจัยบวกบ้างตามราคาน้ำมัน รวมถึง (3) การเก็งกำไรผลการดำเนินงาน – 3Q/58 ซึ่งอยู่ในช่วงท้ายๆ ของการประกาศงบฯ นอกจากนี้ยังมี (4) หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น ITD, CK, STEC, UNIQ และ NWR หลังผ่านคุณสมบัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 10,525 ล้านบาท (แบ่งเป็น สัญญา 1 มูลค่า 9,926 ล้านบาท และสัญญา 2 มูลค่า 599 ล้านบาท) และ รฟท. จะเปิดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 19/11/58 (พฤ.หน้า) ขณะที่ทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิ 776 ล้านบาท โดยค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า แต่คาดได้รับการชดเชยเข้ามาบ้างจากแรงซื้อสุทธิของสถาบันในประเทศ
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.86 – 35.90 คาดมีโอกาสอ่อนค่าอีกครั้ง (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL) และหุ้นกลุ่มขนส่ง (เช่น AAV, AOT) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.32% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.23 อยู่ที่ 15.29
หุ้นแนะนำ : MC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (11 - 13 พ.ย.’58)
11/11/58 : กสทช. กำหนดเปิดประมูล 4G บนคื่นความถี่ 1800MHz
สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน
12/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) งบประมาณของรัฐบาลกลาง - ต.ค.
13/11/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - ต.ค. (2) ยอดค้าปลีก - ต.ค. (3) สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ - ก.ย.
(4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - พ.ย.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788
