- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 November 2015 18:55
- Hits: 1435
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Consolidated (3)
วันนี้คาด ดัชนีฯ หลุด 1,400 จุด และแนะลดการเก็งกำไร รอประเมินแรงซื้อสู้บริเวณแนวรับถัดไป 1,385 จุด ปัจจัยลบ เมื่อวานเฟดสาขาซานฟรานฯเห็นควร ทยอยขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธค.นี้, ขณะที่ หุ้นส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลหรือขอใบอนุญาต ยังขาดความชัดเจน ส่งผลแรงซื้อชะลอลง เช่น รับเหมา-โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (ไม่รู้ใครได้งาน), มือถือ (กังวลราคาประมูลสูงกว่าคาด)
ระยะสัปดาห์ ดัชนีฯยังคงเปราะบางตามข่าวบวก/ลบ ของหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ (เมื่อวาน PTTGC กำไรสุทธิแย่กว่าคาด) กลยุทธ์แนะนำ หุ้น (Local play) Laggard, หุ้นที่คาดว่าจะรายงานงบออกมามี Positive surprise, หุ้นข่าวบวกรายตัว เช่น การประกาศหุ้นเข้า/ออก หรือ เพิ่ม/ลดน้ำหนักลงทุน ของ MSCI ที่จะประกาศวันที่ 12 พย.นี้
กรอบสัปดาห์หน้านี้ คงแนะ หลุดแนวรับ 1,400 จุด หยุดเล่นก่อน เพื่อรอประเมินสถานการณ์ตลาดใหม่ ส่วนแนวต้าน (เดิม) 1,430/1,440 จุด
ระยะเดือน (พย.) แนวรับสำคัญ 1,340 จุด ต้าน 1,430 จุด กลยุทธ์เราได้แนะนำให้แบ่งพอร์ตเริ่มซื้อหุ้นคืน (เลือกลงทุนเป็นรายตัว/รายกลุ่ม) 20/30% ตั้งแต่ ปลาย สค. บริเวณ 1,300 จุด และตอนนี้เราคงคำแนะนำ ใครที่ซื้อตาม พิจาณาเก็บเงินสดส่วนที่เหลือรอซื้อเพิ่มเมื่อปรับฐาน หรือ ขายเล่นสั้น แล้วซื้อเล่นใหม่
หุ้นแนะนำวันนี้ GOLD เก็งกำไรแนวรับ 7.20 บ. ต้าน 7.65 บ. เมื่อวานจัดแถลงข่าว พันธมิตรใหม่ เฟรเชอร์ (สิงคโปร์) โดยจะขาย PP ให้ในราคา 7.25 บ. และยังประกาศปันผลครั้งแรกรอบ 7 ปี หลังมีกำไรสะสม 9 เดือน กว่า 371 ลบ.
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้
(+) PTTGC รายงานกำไรสุทธิ 3Q15 ที่ 1.2 พันล้านบาท -84% y-y, 87% q-q แย่กว่าคาด 21% จากขาดทุนสัญญาล่วงหน้า แต่กำไรหลักไม่รวมขาดทุนสต็อก และ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 5.93 พันล้านบาท -37% y-y, -22% q-q ตามคาด กำไรสุทธิ 9 เดือน คิดเป็น 62% ของประมาณการณ์เรามีแนวโน้มต้องปรับคาดการณ์กำไรสุทธิลง ส่วนกำไรหลัก 4Q15 คาด เติบโตขึ้น y-y, q-q จากยอดขาย และ ค่าการกลั่นที่นิ่งขึ้นกว่า 3Q15 (มอง 3Q15 คือไตรมาสที่แย่สุด ได้ผ่านไปแล้ว)
(+) AAV รายงานกำไรสุทธิ 3Q15 ที่ 92 ล้านบาท และ กำไรหลัก 323 ล้านบาท (ไม่รวมขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 231 ล้านบาท) พลิกจากขาดทุนใน 3Q14 และ +12% q-q กำไรหลักโตดีกว่าตลาดคาด เรายังคงคาดการณ์กำไรหลักปีนี้ที่ 1.44พันล้านบาท และราคาปัจจุบันสะท้อน PE ปี 2015-16 เพียง 20.3-11.9 เท่า แค่นั้น ถูกกว่าค่าเฉลี่ยตัวเองที่เคยเทรด 23 เท่า ตอนรัฐประหารและ เหตุวุ่นวายทางการเมือง (ถูกกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคปีนี้ที่ 26 เท่า) เราคงคำแนะนำ ซื้อ TP 6.40 บาท
(-) QH รายงานกำไรหลัก 3Q15 ที่ 570 ล้านบาท -47%y-y ,-15% q-q กำไรต่ำกว่าเรา และตลาด คาด 16-24% เราปรับกำไรปี 2015-16 ลง 5% สะท้อนกำไรที่ต่ำคาด ส่วนแนวโน้มกำไรปีหน้าคาดมีความเสี่ยง เพราะ ยอดเปิดโครงการใหม่ในปีหน้าลดลง และ เราคาดว่าการประชุมนักวิเคราะห์พรุ่งนี้จะมี Flow ปรับกำไรลงตามมา เราปรับลดคำแนะนำลงจาก Trading buy เหลือ Hold ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท
(0) BCP รายงานกำไรสุทธิ 3Q15 ที่ 432 ล้านบาท -13% y-y, -85% q-q ส่วนกำไรหลักอยู่ที่ 2.18 พันล้านบาท (ไม่รวมขาดทุนสต็อก และรายการพิเศษอื่นๆที่ขาดทุนรวม 1.78 พันล้านบาท) ตามคาด แนวโน้ม 4Q15 คาดต้องดีขึ้น เพราะ ค่าการกลั่น GRM ตลาดสิงคโปร์ ไตรมาส 4 ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ $7.2 แล้ว (+15% y-y,+17% q-q) ทำให้เรายังคงคาดการณ์กำไรหลักปี 2015 ที่ 9 พันล้านบาท แต่ปรับกำไรสุทธิขึ้น 48% เป็น 6.3 พันล้านบาท เพราะผลขาดทุนสต็อกจากนี้ไปจะไม่มากอย่างที่คาดตามราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัว และราคาหุ้นตอนนี้ คาด Downside จำกัด เพราะสะท้อน PE ปี 2016 แค่ 8.6 เท่า -0.4 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10.3 เท่า และ ยังมีผลตอบแทนเงินปันผลปี 2015-16 อีก 5.2% (ค่าเฉลี่ยภูมิภาคแค่ 3.4%) เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 39 บาท
(-) BTS รายงานกำไรสุทธิ 2Q15 (งวด กค-กย.) ที่ 474 ล้านบาท -25% y-y, -84% q-q ส่วนกำไรหลักอยู่ที่ 431 ล้านบาท -30% y-y, -21% q-q กำไรหลักต่ำกว่าเราคาด 12% จากรายได้ดอกเบี้ยรับต่ำกว่าคาด และ ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทฯร่วมฯ สำหรับแนวโน้มกำไร 3Q15 (ตค.-ธค.) คาดจะกลับมาโต y-y, q-q จากปัจจัยฤดูกาล และ กำไร 6 เดือน คิดเป็น 42% ของคาดการณ์ทั้งปี 2.35 พันล้านบาท เรายังคงคาดการณ์กำไร เราคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.60 บาท โดย Upside ส่วนเพิ่มจะมาจากการได้งานบริหารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการณ์
(+) LH รายงานกำไรหลัก 3Q15 ที่ 1.5 พันล้านบาท -15% y-y, -2% q-q กำไรดีตามคาด เราคงคาดการณ์กำไร และ แนวโน้ม 4Q15 คาด จะมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นจาก การขายกอง Terminal 21 เข้า REIT มูลค่ากองราว 4 พันล้านบาท และ เราคาดเป็น Upside ต่อประมาณการณ์ราว 10-12% ส่วนกำไรปีหน้า คาดโดดเด่นสุดในกลุ่มจากการโอนคอนโดที่สร้างเสร็จรอโอนปีหน้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ The Room สุขุมวิท 69 และ สาทร 11, 333 River side เชื่อหนุนกำไรตามเป้า และราคาปัจจุบันสะท้อน PE 2016 แค่ 13.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 15.4 เท่า แถมยังมีผลตอบแทนเงินปันผลปี 2015-16 อีก 5.4-6.1% เราคงคำแนะนำซื้อ TP 9.8 บ.
(+) MAJOR เราคงมุมมองเชิงบวกหลังประชุม นักวิเคราะห์เมื่อวาน โดย Key massage จากผู้บริหารยังคงมุมมองกำไร 4Q15 ทีดีกว่า 3Q15 จากหนังดังทำเงินเรียงคิวฉายช่วง 4Q15 รายได้จากสาขาในลาว และกัมพูชา บวกกับการเปิด สาขาใหม่ที่ห้าง Central EastVille และ Promenade จะหนุนกำไรให้โตได้ตามเป้า เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 40 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) AUCT เผยได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้จัดการประมูล 4G ทั้งคลื่น 1800 และ 900MHz ครั้งนี้
(+) ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ คลอง 19-แก่งคอย สัญญา 1 มูลค่า Bt9.3bn ประกอบด้วย 1) ITD 2) CK+CHO 3) STEC 4) UNIQ 5) A.S 6) ทิพากร+China Harbour
สัญญา 2 มูลค่า Bt559m ประกอบด้วย 1) ITD 2) ทิพากร+China Harbour 3) NWR
ทั้งนี้จะประมูล E-auction 19 พย.นี้
(+) GOLD บริษัทฯจัดแถลงข่าวเมื่อวาน บอร์ดอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุน 685.7 ล้านหุ้น ให้ เฟรเชอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (FPHT) ที่ ราคา 7.25 บาท ทั้งนี้ เฟรเชอร์ฯ (บริษัทฯของสิงคโปร์) มีประสบการณ์ ในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในหลายทวีปทั่วโลก คาดเกื้อหนุนธุรกิจหลักของ GOLD ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ GOLD ประกาศปันผล ระหว่างกาล 0.05 บ. เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี หลังจากมีกำไร 9 เดือน 371 ล้านบาท และวันที่ 17 ธค.นี้จะชง ผถห.อนุมัติ เรื่องเพิ่มทุน PP และ การลงทุนโครงการสามย่านมูลค่า 8.5 พันล้านบาท โดยบริษัทฯจะร่วมลงทุน 49% คาดใช้เงินลงทุนราว 1.96 พันล้านบาท (ที่มา ASPEN)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) ประธานเฟด สาขา ซานฟรานซิสโก เผยควรจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างเหมาะสมค่อยเป็นค่อยไปในเดือน ธค.นี้
(0) อังคาร US Whole sale inventory (กย.)คาด คงที่ 0.1% Import price (ตค.) คาด -0.1% คงที่, ประชุม รมว.คลังยุโรป, ฟิลิปปินส์ ส่งออก (กย.) คาด -8.3% จาก -6.3% จีน CPI เงินเฟ้อ ตค. คาด +1.5% จาก 1.6% y-y
(+) พุธ ประธาน ECB กล่าวสุนทรพจน์ที่อังกฤษ, จีน Industrial production ตค.คาด +5.8% จาก 5.7% y-y
(-) พฤหัส EU area Industrial production (กย.) คาดพลิก +0.1% จาก -0.5% m-m, ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%, ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ คาดคงดอกเบี้ย 4%, อินเดีย คาด CPI ตค. +4.9% จาก 4.4% และ Industrial production คาด +4.9% จาก 6.4%
(0) ศุกร์ US retail sales ตค.คาด +0.3% จาก -0.1% m-m, US PPI เดือน ตค. คาด +0.2% จาก -0.5%, EU GDP 3Q15 1st คาด +0.4% คงที่ ส่วน เยอรมนี +0.3% จาก 0.4% (ฝรั่งเศส ฮอล์แลนด์ คาดดีขึ้น ส่วนอิตาลี คาดแย่ลง), มาเลเซีย GDP 3Q คาด +4.8% จาก +4.9%, ฮ่องกง GDP 3Q คาด +1.8% จาก 2.8%
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ข่าวเด่นเศรษฐกิจ
คลังเร่งจ่ายงบลงทุนน้ำ-ถนน หนุนจีดีพีโต 3%
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายเงินลงทุนตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการบริหารจัดการน้ำและถนน วงเงินรวม 8 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายได้แล้ว 2.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 2558 จะสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย 3.5 หมื่นล้านบาท และเม็ดเงินจะถูกอัดฉีดเข้าระบบเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทันทีภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ช่วยสนับสุนนเศรษฐกิจปี 2558 เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
แบงก์ชาติจับตาดอกเบี้ยต่ำฉุดเงินออมฮวบ
ธปท.รับดอกเบี้ยต่ำฉุดการออมต่ำ เสี่ยงเกิดเก็งกำไร แต่ไม่กระทบสภาพคล่อง นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาระยะหนึ่ง ทำให้ ธปท.ต้องระมัดระวังเรื่องเสถียรภาพทางการเงิน 2 ประเด็น คือ เงินออมของประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ หากจะมีการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็ต้องมองปัญหาด้านเงินออมที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยต่ำด้วย (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
เกียรตินาคินหวัง NPL สิ้นปีเหลือ 5%
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคาร เกียรตินาคิน เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปรับลดลงมาเหลือ 6.6% เมื่อสิ้น ไตรมาส 3 หลังจากขึ้นไปแตะสูงสุดในไตรมาส 2 ที่ระดับ 6.9% หลังจากสินเชื่อเช่าซื้อได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและเร่งตัวขึ้นจากโครงการรถคันแรก จึงเร่งแก้ไขมาแล้ว 1-2 ปี (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
กรุงไทยรับปี59 คุมเข้มเงินกู้ เคเคจับ'ลูกค้ารวย-บรรษัท'
กรุงไทยยันปีหน้ายังคุมเข้มสินเชื่อ และเกาะติดหนี้เสีย ตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อย ปีหน้าโต 4-5% ลดลงจากปีนี้ที่จะขยายตัวได้ 7-8% ด้านเอสเอ็มอีโต 9% รับอานิสงส์นโยบายรัฐช่วยกระตุ้น ระบุ กลุ่มรับเหมา พลังงานทางเลือก และอาหาร เป็นหนึ่งธุรกิจเป้าหมายสินเชื่อ ด้านเกียรตินาคินมองปีหน้า เน้นลูกค้าบรรษัทและลูกค้ามั่งคั่งเลี่ยงเศรษฐกิจชะลอ (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
ดันเป็นศูนย์กลางผลิตระดับโลก 'ฮอนด้า' มั่นใจไทย-ทุ่ม 1.7 พันล้านผุดสนามทดสอบ
'ฮอนด้า' ลุยสร้างสนามทดสอบรถยนต์มอเตอร์ไซค์ในเมืองไทย ทุ่มงบฯ 1.7 พันล้าน บนพื้นที่ 500 ไร่ ปราจีนบุรี เป็นสนามนอกญี่ปุ่นแห่งที่ 2 ต่อจากสหรัฐ ส่งผลไทยป็นศูนย์กลางการผลิต และดึงประเทศอื่นๆ มาใช้สนามในไทยด้วย (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
รถไฟฟ้าหรู 'เทสลา' รุกตลาดไทย
น.ส.นวมลลิ์ ฐิติวรทัต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทสลา ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา จากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุน 5,000 ล้านบาท สำหรับนำเข้าและเปิดศูนย์บริการรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยงบฯ 3,500 ล้านบาท เป็นการนำเข้ารถในปีแรก ส่วนงบฯ อีก 1,500 ล้านบาท เตรียมไว้เปิดศูนย์บริการหลังการขาย ในเดือนธ.ค.นี้ที่ถนนนราธิวาสฯ (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: AAV คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 6.40
- AAV รายงานกำไรหลักไตรมาส 3/58 ทำจุดสูงสุดใหม่ของงบไตรมาส 3 โดยพลิกกลับจากขาดทุนหลักไตรมาส 3/57 และเติบโต 12% QoQ
- คาดกำไรหลักไตรมาส 4/58 ขยายตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
- เรายังคงประมาณการกำไรหลักปี 2558 ไว้ตามเดิม แต่ปรับกำไรสุทธิลง 17% เพื่อสะท้อนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่บันทึกในไตรมาส 3/58
- เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2559 ที่ 6.40 บาท
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: PTTGC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 73.00
- กำไรหลักลดลง 37% YoY และ 22% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด
- กำไรหลักไตรมาส 4/58 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
- เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ลง 4% เพื่อสะท้อนรายการพิเศษที่บันทึกในไตรมาส 3/58
- เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2559 ที่ 73 บาท
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: LH คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 9.80
- กำไรหลักไตรมาส 3/58 ลดลง 15% YoY และ 2% QoQ ตามที่เราและตลาดคาดไว้
- กำไรหลักไตรมาส 4/58 มีแนวโน้มแตะจุดสูงสุดใหม่ พร้อมรับกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้า REIT
- เรายังคงใช้ประมาณการกำไรหลักปี 2558-2559 ไว้เดิม โดยเรามองว่า LH มีความชัดเจนของกำไรปี 2559 เติบโตสดใสติดหนึ่งในสามของกลุ่ม
- เราแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2559ที่ 9.80 บาท
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: QH คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 2.60
- กำไรหลักไตรมาส 3/58 ลดลง 47% YoY และ 15% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 16% และตลาด 24%
- แม้มองกำไรไตรมาส 4/58 กระโดดสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ แต่กำไร 9M15 ต่ำกว่าคาดมาก
- เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 2558 ลง 6% แลปะ 2559 ลง 9%
- ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" จาก "ซื้อเก็งกำไร" ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2559 ที่ 2.60 บาท แนวโน้มกำไรปี 2559 มีความชัดเจนน้อย
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: MAJOR คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 40.00
- เราแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย ที่ 40.00 บาท
- MAJOR รายงานกำไรหลักลดลง 20% YoY และ 47% QoQ สอดคล้องกับประมาณการของเรา
- คาดกำไรไตรมาส 4/58 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY
- MAJOR มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายสาขาต่างประเทศ
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: นภนต์ ใจแสน
กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
- ราคาปิโตรเคมีเคลื่อนไหวแตกต่างกันไปในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ส่วนต่างราคาปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่
- ส่วนต่างราคาเอธิลีนขยายตัวขึ้น ในขณะที่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนหดตัวลง WoW
- ส่วนต่างราคา HDPE และ MEG ปรับตัวลง WoW
- ส่วนต่างราคาพีวีซีอ่อนตัวลงต่อเนื่อง WoW
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: EPG
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 9.9
Stop loss: < 9.2
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นโดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดและกลุ่ม ปัจจุบันปรับตัวขึ้นทำ New high สอดคล้องกับวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 2 สัปดาห์
Security: CSS
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 6.4
Stop loss: < 5.4
Reason: ราคาหุ้นปรับฐานลงมาที่แนวรับ 5.2-5.4 บ. เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ คาดหุ้นจะดีดกลับเมื่อคล้ายรูปแบบในอดีต
Security: ROBINS
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 44-45
Stop loss: < 40
Reason: วอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังจากการทะลุเส้น Neck line 40 บ.คาดว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นแรง โดยมองแนวต้านถัดไปที่ 44-45
Security: CPALL
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นอยู่ในข่ายที่ต้องระวังมากขึ้นเนื่องจากโมเมนตัมลดลง ขณะที่ราคาหุ้นปิดต่ำทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน สอดคล้องกับการปรับตัวลงของเครื่องมือ MACD
โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 10 พ.ย. 2558
เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าว บทวิเคราะห์ หรือความเห็นที่แสดงไว้ในเอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการชี้ชวน หรือเสนอแนะในการซื้อขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด ดังนั้นการนำไปใช้ให้ถือว่าเป็นผลจากการยอมรับความเสี่ยงและดุลยพินิจของท่านเป็นสำคัญ