- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 November 2015 18:04
- Hits: 1199
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ข่าวดีกลายเป็นผลลบ
คาดว่า SET จะร่วงวันนี้เพราะตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีและร้ายกระทบความรู้สึกของนักลงทุน กลบข่าวบวกของไทย ในประเทศมีข่าวได้ดีลขายข้าว การเปิดเสรีการติดแผงโซลาเซลล์บนหลังคาซึ่งน่าจะเป็นบวก แต่ต่างประเทศมีตัวเลขการจ้างงานสหรัฐทีเป็นบวกซึ่งยิ่งย้ำให้ Fed น่าจะยิ่งขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐเข้าไปอีก ขณะที่ตัวเลขจีนที่อ่อนแอก็ยิ่งกระทบความรู้สึกให้เป็นลบ ทั้งหมดนี้น่าจะผลักดันให้ตลาดในประเทศปรับตัวลง
หุ้นเด่นวันนี้ : SAMART (ราคาปิด 20.90 บาท; NR; Bloomberg 24.99 บาท)
เราเลือก บมจ.สามารถคอร์ปเรชั่นเป็นหุ้นเด่นวันนี้เนื่องจากเครือธุรกิจไอซีทีครบวงจร ซึ่งมีอนาคตจากธุรกิจไอซีทีน่าจะได้รับประโยชน์จากแผนของรัฐบาลที่จะเร่งเบิกจ่ายและผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล SAMTEL บริษัทลูกที่รับเหมางานวางระบบไอซีทีและโทรคมนาคมเป็นผู้นำในตลาดนี้ ซึ่งมีโครงการระดับพัน ลบ.ในมือหลายโครงการกับหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ เช่น ระบบข้อมูลกรมที่ดิน ระบบวิทยุสื่อสารสำนักงานตำรวจแห่งชาติและท่าอากาศยานไทย ด้าน SIM ซึ่งเป็นธุรกิจจำหน่ายมือถือน่าจะได้รับประโยชน์จากกระแส 4จีที่กำลังจะมาด้วย นอกจากนี้ยังมีบริษัทลูกอีกหลายแห่งที่พร้อมจะขับเคลื่อนการเติบโต อาทิ แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส (CATS) ทำธุรกิจโดยได้สัมปทานยาวนานถึง 32 ปีเพื่อควบคุมการจราจรทางอากาศและความปลอดภัยในประเทศกัมพูชานับแต่ปี 2544 ด้าน Teda ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ถือทางอ้อมก็มีธุรกิจกับการไฟฟ้านครหลวงและยังมีโอกาสได้งานจากนโยบายนำสายไฟลงดินด้วย ด้าน สามารถวิศวกรรมก็มีโอกาสขายตู้สถานีฐานให้แก่ค่ายมือถือและผู้รับเหมาต่อได้อย่างดีรับกับกระแส 4 จีที่ต้องมีการติดตั้งตู้เพิ่มจำนวนมากด้วย SAMART ยังขยายไปยังธุรกิจพลังงานด้วยการเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานขยะด้วยกำลัง 6-8 เมกะวัตต์ต่อโรงในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว ตลอดจนโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 พันเมกะวัตต์ในกัมพูชา ตามคาดการณ์เฉลี่ยบลูมเบิร์กแม้กำไรสุทธิน่าจะลดลง 18% ปีนี้แต่ก็คาดว่าจะฟื้นมาเติบโตถึง 21% ได้ในปีหน้า Price Pattern ของ SAMART ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่อีกครั้งสะท้อนแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น แต่ยังWeekly & Monthly Sell Signal อยู่ จึงทำให้การฟื้นตัวระยะสั้นของ SAMART นั้นยังอยู่ในขอบเขตที่จำกัด หากราคา SAMART สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์เหนือ 24.50 บาท และปิดตลาดรายเดือนเหนือ 21.20 บาท จะทำให้ เกิด Weekly & Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ สะท้อน Price Pattern ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ระยะสั้นหากปิดตลาดเหนือ 24.50 บาท ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นต่อไปที่ 28.25 บาท (แนวต้าน: 25.00, 25.25, 26.00; แนวรับ: 24.40, 24.00, 23.30)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
นายกมุ่งเอื้อการทำธุรกิจง่ายขึ้น ระหว่างการประชุมวันศุกร์ นายกฯ ประยุทธ์เน้นย้ำว่าการปรับปรุงนโยบายการค้าและการลงทุนเป็นวาระเร่งด่วนของไทยและการลดขั้นตอนทางราชการเป็นสำคัญ รองนายกฯ สมคิดกล่าวว่ารัฐบาลจะแก้เกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคแก่ธุรกรรมทางธุรกิจในไตรมาส 4/58 (Bangkok Post)
ขายข้าวให้อินโดนีเซีย ก.พาณิชย์ระบุว่ารัฐได้บรรลุข้อตกลงขายข้าว 5 แสนตันที่เก็บเกี่ยวใหม่มูลค่ารวม 8 พัน ลบ. ให้แก่อินโดนีเซียแบบจีทูจี ช่วงเวลาส่งมอบอยู่ระหว่างเดือนที่และ มี.ค. หน้า นับแต่ ธ.ค. ปีก่อน ไทยได้บรรลุการค้าข้าวไปแล้วกว่า 2 ล้านตัน ไม่นับรวมลอตที่ขายให้อินโดนีเซียนี้ (Bangkok Post)
ความคืบหน้าโครงการโซล่าร์รูฟ หลังจากที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานอนุมัติการผ่อนคลายการควบคุมมาตรการโซล่าร์รูฟของรัฐบาลเมื่อเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดรัฐบาลมีแผนที่จะส่งเสริมให้บ้านและอาคารผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาสามารถจ่ายไฟฟ้ากลับมาให้กับรัฐบาลได้ไม่จำกัดจำนวน ทั้งนี้คาดว่ารายละเอียดและความชัดเจนจะประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ (Bangkok Post) ความเห็น: ความคืบหน้าดังกล่าวถือเป็นประเด็นบวกที่จะเดินหน้าขยายการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์รูฟในประเทศ แต่เรามองว่าอาจจะต้องมีมาตรการจูงใจเพิ่มเติมจากนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น เรายังคงชอบ GUNKUL (ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 58 32.30 บาท) ที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้รับประโยชน์ในประเด็นนี้
ผู้เชี่ยวชาญชี้ประมูล4จีมีผลบวกมาก จากการศึกษาของม.เชียงใหม่ การประมูลจะนำรายได้ให้รัฐราว 7.3 หมื่น ลบ. โดยกว่า 40 ลบ. มาจากใบอนุญาต 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ และจะดึงดูดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องราว 1.5 แสน ลบ. ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (The Nation)
MAJOR (31.50 บ., AWS 59TP 36.00 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q58 อยู่ที่ 342.9 ลบ. ลดลง 30% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 17% YoY หากไม่รวมรายการพิเศษ จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 236 ลบ. ลดลง 45% QoQ แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 2% YoY. (SET) ความเห็น: กำไรปกติงวด 3Q58 ออกมาต่ำกว่า 12% ของ bloomberg consensus คาดไว้ที่ 268.7 ลบ. แต่ยังคงเป็นไปประมาณการของเราที่ 235 ลบ.
ต่างประเทศ :
ตลาดซื้อขายล่วงหน้าอยู่ภายใต้ความกดดัน หลังจากการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในเดือนต.ค. ที่แข็งแกร่งมาก ทำมีความเป็นไปได้มากว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ตามข้อมูลของ CME FedWatch สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยบ่งบอกว่านายหน้าซื้อขายราว 70% มองว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเทียบกับเงินสกุลอื่นในช่วงเช้าวันจันทร์ หลังจากการประกาศข้อมูลการจ้างงานอันแข็งแกร่ง ดัชนีดอลลาร์ยืนใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 99.317 จุด ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ 123.35 เยน ส่วนเงินยูโรยังคงที่อยู่ที่ 1.0727 ดอลลาร์สหรัฐ ต่างจากเมื่อวันศุกร์ที่อยู่ที่ 1.0704 ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันศุกร์ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.958% สูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่งอยู่ที่ 1.281% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี แตะระดับสูงสุดในช่วงเกือบ 5 เดือนอยู่ที่ 1.774% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 7-10 ปี แตะระดับสูงสุดในช่วง 3 เดือน พันธบัตรอายุ 10 ปีให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.349% ส่วนพันธบัตรอายุ 30 ปีให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 3.099% (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อวันศุกร์ จากการขึ้นของหุ้นในกลุ่มการเงิน ส่วนกลุ่มพลังงานและกลุ่มอื่น ๆ ปรับตัวลง เนื่องจากตลาดหุ้นในสหรัฐมองว่าตัวเลขการจ้างงานอันแข็งแกร่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ (Reuters)
อัตราการจ้างงานในสหรัฐขยายตัวในเดือนต.ค. และอัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่งอยู่ที่ 5.0% ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนก่อน เพิ่มขึ้นสูงสุดนับแต่เดือนธ.ค. 57 อนึ่ง อัตราค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขี้น 9 เซ็นต์ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่เพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. และก.ย. อัตราการว่างงานในปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับแต่เดือนเม.ย. 51 และถูกมองว่าเป็นภาวะการจ้างงานเต็มที่ (full employment) นักเศรษฐศาสตร์ได้ประมาณการก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนและอัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ที่ 5.1% (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปขยับขึ้นในวันศุกร์ หลังตัวเลขการว่าจ้างงานสหรัฐ ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า มีผลหนุนหุ้นส่งออกของยุโรป เฉพาะอย่างยิ่ง ยานยนต์ แม้หุ้น Richemont จะร่วงหลังจากบริษัทดังกล่าวออกมาเตือนผลประกอบการในอนาคตว่าจะไม่ดี (Reuters)
เอเชีย :
ข้อมูลการค้าของจีนเดือน ต.ค. ที่น่าผิดหวัง และน่าจะเป็นประเด็นกดดันให้จีนมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น โดยยอดส่งออกหดตัว 6.9 YoY ซึ่งอ่อนตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ยอดนำเข้าหดตัว 18.8% ส่งผลให้จีนรับรู้ยอดเกินดุลการค้าสูงสุดใหม่ที่ 6.164 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในเดือน ต.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดก่อนหน้านี้ว่ายอดส่งออกจะหดตัว 3.0% และยอดนำเข้าจะหดตัว 16.0% ซึ่งเดิมคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากเมื่อเดือน ก.ย. ที่ยอดส่งออกหดตัว 3.7% และยอดนำเข้าหดตัว 20.4% (Reuters)
ตัวเลขดุลการค้าของจีนทำให้นักวิเคราะห์ผิดหวังเนื่องจากที่ส่วนต่างที่มากขึ้นในเดือนต.ค. เป็นการเสริมให้มีความเห็นว่าจีนควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก ดุลการค้าของจีนลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ซึ่งหมายถึงมีความอ่อนแออย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศ ยอดการส่งออกในเดือนต.ค. ร่วงลง 6.9% YoY ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ส่วนยอดการนำเข้าร่วงลง 18.8% ส่งผลให้จีนมีการเกินดุลการค้าทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 6.164 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดการส่งออกจะลดลง 3.0% และยอดการนำเข้าจะลดลง 16.0% ดีกว่าตัวเลขในเดือนก.ย. ที่ลดลง 3.7% และ 20.4% ตามลำดับ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองร่วงสู่จุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนในวันศุกร์ และเป็นการลดลงรายสัปดาห์มากสุดในรอบสองปีหลังจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ต.ค. พุ่ง ทองคำตลาดจรร่วง 1.3% อยู่ที่ 1,089.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. ลดลง 1.5% อยู่ที่ 1,087.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
น้ำมันร่วงถึง 2% วันศุกร์ เป็นการลดลงสัปดาห์ที่ 3 จาก 4 สัปดาห์จากแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งและการเก็งการขึ้นดอกเบี้ย Brent ร่วง 56 เซนต์หรือ 1.2% ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐร่วง 91 เซนต์หรือ 2.0% ปิดที่ 44.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล รายสัปดาห์ลดลง 5% (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094