WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index : แนวโน้มลงทดสอบ 1400 แนวต้านสำคัญ 1420
  SET Index : 1414.58 ฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1412 จุดที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน หลังจากในปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่แนวต้านสำคัญ 1420-1425 จุด ทำให้แนวโน้มหลักของ SET Index ยังคงมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลังจากถูกขายที่บริเวณแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 1420 จุด ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1400-1404 จุด และมีแนวต้านที่ 1420 จุด


  แนวต้าน : 1415 และ 1418
  แนวรับ : 1412 และ 1410

ITD = 7.40 / 7.60, JAS = 5.80 / 5.90, ADVANC = 228 / 232, ASEFA = 5.00 / 5.10, WHA = 3.48 / 3.54

Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 3.16) - ซื้อ
  แนวต้าน : 3.24 และ 3.30
  แนวรับ : 3.14 และ 3.10
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่โครงสร้างของราคาสามารถทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ SYNTEC โดยมีแนวรับที่ 3.14 และ 3.10 และมีแนวต้านที่ 3.24 และ 3.30 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.06 ลงไป

Asian Phytoceuticals (APCO TB; THB 1.81) - ซื้อ
  แนวต้าน : 1.90 และ 1.95
  แนวรับ : 1.80 และ 1.78
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง ในขณะที่โครงสร้างราคาสามารถทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใก้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ APCO โดยมีแนวรับที่ 1.80 และ 1.78 และมีแนวต้านที่ 1.90 และ 1.95 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.75 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50Z15 ฟื้นตัวในระยะสั้นที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมงที่ 904 แต่เรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 900 และ 880 หลังจากถูกขายที่บริเวณแนวต้านสำคัญของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 925 และมีแนวต้านสำคัญที่ 920 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 935
  แนวต้าน : 914 และ 916
  แนวรับ : 908 และ 905
  คำแนะนำ : เราแนะนำให้เน้น Open Short ใน S50Z15 ที่แนวต้าน 912-914 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 890 และ 880
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 920 กลับขึ้นไป

ITDZ15
  ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 8.10 ลงไป ทำให้โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 7.25 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวต้านสำคัญที่ 8.00 ถ้าฟื้นตัวกลับขึ้นไป จะมีแนวต้านถัดไปที่ 8.40
  แนวต้าน : 7.70 และ 7.80
  แนวรับ : 7.50 และ 7.40
  คำแนะนำ : เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน ITDZ15 ต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 7.70 เนื่องจากทิศทางหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบ 7.25-7.30
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า ITDZ15 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.80 ขึ้นไป

TPIPLZ15
  ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 2.50 ลงไป หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว แต่ไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ทำให้โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 2.36 และ 2.20
  แนวต้าน : 2.46 และ 2.50
  แนวรับ : 2.36 และ 2.30
  คำแนะนำ : เราแนะนำให้ Open Short ใน TPIPLZ15 ที่แนวต้าน 2.46-2.50 เนื่องจากทิศทางหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบ 2.36 และ 2.20
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า TPIPLZ15 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 2.54 กลับขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...อ่อนตัวลง
  การไหลเข้าของเม็ดเงินจากต่างประเทศมายังตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชีย คาดจะยังดำเนินต่อไป แต่จะเป็นเฉพาะบางตลาด ซึ่งที่เห็นได้ชัดคือประเทศในแถบเอเชียเหนือ อย่าง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง หรือแม้แต่จีน ขณะที่ประเทศในอาเซียนอย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย มาเลเชียและไทย ยังคงเป็นสัญญาณในการซื้อๆขายๆ หรือ Trading มากกว่า
  ปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามายังประเทศในแถบเอเชียเหนือ ที่เห็นได้ชัดมากคือ เป็นตลาดที่ยังไม่แพง จากรูปด้านซ้าย พบว่าค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของประเทศ ไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน หรือแม้แต่สิงคโปร์ ยังเล่นกันต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E 10 ปี ขณะที่ประเทศในอาเซียน จะขึ้นไปเล่นเหนือค่า P/E เฉลี่ย 10 ปี ส่วนปัจจัยอื่นๆก็น่าจะมาจากประเทศเอเชียเหนือ มีโครงสร้างเศรษฐกิจอิงกับสหรัฐและยุโรปสูงและอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ไม่มากเท่าอาเซียน และกำลังได้ประโยชน์จากการตกต่ำของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
  ตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือน ส.ค. ถึงปัจจุบัน พบว่าจะขึ้นทุกประเทศ แต่ที่แรงๆ คือ เอเชียเหนือ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่เป็นวัฎจักรเศรษฐกิจ ส่วนในไทยเอง ก็ถือว่าขึ้นแรง แต่น่าจะเป็นการขึ้นตามดัชนีภูมิภาค มากกว่าที่จะเกิดจากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า หรือขึ้นจากสภาพคล่องมากกว่าพื้นฐาน เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ยังเน้นไปที่ตลาด TFEX มากกว่าที่จะลงในหุ้น เหตุน่าจะมาจาก มองกันว่าอัตราการทำกำไรของตลาดรวมยังไม่ดีขึ้นหรือยังอยู่ในช่วงชะลอตัว หุ้นกลุ่มหลักไม่มีปัจจัยหนุนและการลงทุนใน TFEX น่าจะให้ผลตอบแทนที่เร็วและสูงกว่าหุ้นในช่วงสั้นๆ
  หุ้นกลุ่มหลักๆ ที่ยังถือว่ามีการเติบโตสูงๆ เหมือนอย่างในต่างประเทศ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี สัดส่วนหุ้นดังกล่าวยังมีต่ำในตลาดหุ้นไทย อย่าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรคนิคส์ รถยนต์ ซึ่งปัจจุบันเทรดกันในระดับค่า P/E ที่สูง กลุ่มที่หวังกันว่าจะเป็นตัวหนุนกำไรของตลาดในอนาคต คือกลุ่มที่โยงกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งดูเหมือนตอนนี้ยังมีความคืบหน้าไม่มากและผลน่าจะกระตุ้นเศรฐกิจได้ในกลางปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงาน ยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ดีพอ เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน จึงเป็นแค่การเล่นเก็งกำไรระยะสั้น สุดท้ายกลุ่มสื่อสาร เริ่มมีปัญหาในการประมูลคลื่น
  สรุปดัชนี SET ที่ขึ้นมาในรอบนี้เป็นผลโดยตรงจากสภาพคล่องภายในหรือแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพียงแต่จะผันผวนเร็วดังที่เห็นในปัจจุบัน เรามองว่ายังต้องรอให้มีปัจจัยหนุนใหม่ๆที่ดีพอ อย่างตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ เกิดความชัดเจนเรื่องทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ (ซึ่งตอนนี้คาดมีแนวโน้มขึ้นมากกว่า 50% รูปด้านขวา) หรือความชัดเจนเรื่องการประมูลคลื่น ส่วนในสัปดาห์หน้าจะเป็นอย่างไร ก็จะขึ้นอยู่กับตัวเลขการจ้างงานในคืนนี้ หากออกมาดี ก็จะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์แต่จะเป็นแรงกดหุ้นตลาดเกิดใหม่
  วันนี้คาดดัชนี SET จะยังมีแรงกดทั้งจากดัชนีในภูมิภาคและข่าวภายใน คาดดัชนีจะแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ จากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานและปัจจัยลบภายในของ กลุ่มสื่อสารและรับเหมาบางตัว แนวรับวันนี้อยู่ที่ 1406-1402 ส่วนแนวต้านที่ 1416-1420 จุด วันนี้เล่นเก็งกำไร CENTEL TCAP


Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,415.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.42 จุด(+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 18,680.02 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ในกรอบ เนื่องจากรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่
  ตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานของสหรัฐ (วันนี้)

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะผันผวน แต่ยังมีทิศทางแกว่งขึ้น มองแนวต้านที่ 1420 จุด และแนวรับที่ 1404 จุด โดยเราคาดว่าเม็ดเงิน LTF จะยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดต่อเนื่อง ซึ่งเราประเมินว่าจะยังคงมีเม็ดเงินที่รอเข้าซื้ออีกประมาณ 16,000-17,000 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งน่าจะมีผลให้หุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สื่อสาร ค้าปลีก และพลังงาน ปรับตัวขึ้นได้ โดยกลุ่มนี้เราชอบ KBANK SCC PTT CPALL CENTEL AOT ADVANC INTUCH EGCO BDMS

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  Asian Phytoceuticals (APCO TB; THB 1.81) - ซื้อ
  Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 3.16) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!