- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 November 2015 17:28
- Hits: 1018
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาดว่า SET ยังขยับขึ้นหาเป้าหมายได้ แต่ต้องระวังแกว่งด้วย!
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังมีสิทธิแกว่งไต่ระดับขึ้นหาดัชนีเป้าหมายตามพื้นฐานในช่วงท้ายปีนี้ได้ตามคาด FSS จึงยังแนะนำเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอขายทำกำไรเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายได้ แต่ต้องระวังการแกว่งผันผวนและย้อนลบเป็นระยะ จึงไม่แนะนำให้ไล่ซื้อช่วงบวกเพราะมีความเสี่ยงจากการผันผวนอยู่
หุ้นเด่นทางเทคนิค : PIMO, TVD, KCE(buy back)
แนวโน้ม : หลังจาก SET ได้ปรับพักตัวลดความร้อนแรงลงบ้างเมื่อวันก่อน...เมื่อวานนี้ดัชนีก็เริ่มมีจังหวะขยับบวกต่อ และเข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมของรอบที่ผ่านมาแถว 1430-1432 จุดได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการขยับบวกตามภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ขยับขึ้นค่อนข้างแรง ก่อนที่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปหลายแห่งยังปิดเป็นบวกได้ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า ECB จะมีการออกมาตรการ QE เพิ่มเติมในการประชุมเดือน ธ.ค. หลังประธาน ECB ประกาศความพร้อมที่จะใช้นโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจยูโรโซนต่อไป อย่างไรก็ตามการปิดเป็นลบของตลาดหุ้นสหรัฐจากแรงกดดันหลังประธานเฟดแถลงต่อคณะกรรมาธิการฯ สภาผู้แทนฯ สหรัฐว่าเฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือน ธ.ค.นี้ ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันให้มีจังหวะย้อนลบบ้าง ทำให้แม้ว่า FSS ยังคาดหมายว่า SET จะขยับขึ้นไปหาระดับดัชนีเป้าหมายปีนี้ที่เราประเมินไว้แถว 1450 จุดหรือใกล้เคียงได้ แต่ก็ต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะด้วย โดยส่วนหนึ่งคาดว่านักลงทุนยังต้องการรอดูตัวเลขเศรษฐกิจด้านแรงงานของสหรัฐที่จะประกาศในช่วงท้ายสัปดาห์อีกครั้ง
แนวรับ 1421-1418 , 1415-1412 จุด
แนวต้าน 1425-1427 , 1429-1432 , 1435 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$845 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$724.6 ล้าน และเกาหลีใต้ US$89.3 ล้าน และเริ่มกลับเข้ากลุ่ม TIP เป็นวันแรกในรอบ 7 วัน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับเข้าภูมิภาคโดยได้รับปัจจัยบวกจากคำกล่าวของประธาน ECB ที่ระบุว่ามีความพร้อมที่จะใช้นโยบายทางการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจหากต้องการโดยยังคงตรึงวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนและอาจขยายการใช้มาตรการให้นานกว่ากำหนดการเดิมคือ ก.ย. 2016 อีกด้วย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย คำแถลงของ Yellen ต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนฯเมื่อคืนนี้ ส่งสัญญาณมีความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. หากตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น ตลาดเงินยังมีโอกาสผันผวนจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าปัจจัยในประเทศจะเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงปลายปี
(+) ยังคงเป้า 1,450 จุดสิ้นปี SET Index ที่ปรับขึ้นมา 78 จุดตั้งแต่ต้น ต.ค. มีหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีผลักดันกว่า 1 ใน 3 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น เราเชื่อว่าราคาน้ำมันยังไม่เป็นขาขึ้นและมีโอกาสพักฐาน แต่การพักฐานของราคาน้ำมันไม่น่ากดดันตลาดมากนักเพราะแรงซื้อจาก LTF/RMFจะเข้ามาหนุนแทน เรายังคงเป้า SET Index สิ้นปีนี้ที่ 1,450 จุด หุ้นที่น่าสนใจคือหุ้น laggard ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC) รับเหมา (CK, ITD) ท่องเที่ยว (AOT) สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
(+) TCAP เราชอบ TCAP มากขึ้นเรื่อยๆหลังผ่านช่วงการตกต่ำของธุรกิจไปแล้ว แม้ว่าการเติบโตของสินเชื่อและรายได้จะไม่กลับมาในทันที แต่ผลประกอบการจะค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับจากค่าใช้จ่ายที่ลดลงและคุณภาพหนี้ดีขึ้น ที่สำคัญ TBANK ยังเหลือประโยชน์ทางภาษี 5-6 พันล้านบาท นำไปใช้ตั้งสำรองหนี้และรับรู้เป็นกำไรสะสมได้ ด้วย PE และ PBV ที่ถูกที่สุดในกลุ่มมาพักใหญ่ ขณะที่ปันผลดี ทำให้ TCAP เป็นแบงก์เดียวที่ราคาหุ้น +9% YTD โดยไม่มีแบงก์ใดที่ราคาสูงกว่าราคาปิดสิ้นปีก่อน (เฉลี่ย -18% YTD) แต่ราคาก็ยังไม่สะท้อนพื้นฐานอย่างเต็มที่ จึงยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 43 บาท
(0) PLANB กำไรสุทธิเป็นไปตามคาด เติบโตสูง 180% Y-Y แต่ลดลง 16% Q-Q จากการรวม Hello Bangkok ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าบริษัท จึงฉุดให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมต่ำลง ทำให้กำไรงวด 9M15 +145% Y-Y เรายังคงคาดกำไรทั้งปี +104% และ +36% ในปีหน้า ล่าสุด PLANB เข้าไปลงทุนในบริษัทสื่อโฆษณาทำป้ายนิ่งขนาดใหญ่ในมาเลเซีย โดยจะถือหุ้น 30-40% หนุนการเติบโตในระยะยาว แต่เราคาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้าจะรับรู้กำไรเพียง 3-11 ล้านบาท/ปี คิดเป็น 1-2% ของกำไรรวม ราคาหุ้นวานนี้ปรับขึ้นมาเร็วจนใกล้เต็มมูลค่าปีหน้าที่ 7.10 บาท จึงลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(+) MTLS กนง.ที่คงดอกเบี้ยเมื่อวานนี้และน่าจะยังไม่ปรับทิศทางดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มลิสซิ่ง ขณะที่ราคาหุ้น MTLS laggard กว่ากลุ่มมานานเริ่มขยับขึ้นแรงวานนี้ แต่ยังต่ำกว่าพื้นฐานปีหน้าที่เราประเมินไว้ 25 บาท คำแนะนำจึงยังคงเป็นซื้อ เชื่อว่ากำไร 3Q15 จะไม่ทำให้ผิดหวัง เราคาด +12% Q-Q, +48% Y-Y เป็น 206 ล้านบาทเป็น New high การเติบโตไม่หยุดแค่นี้ เราคาดกำไรปีนี้เติบโต 45% และปี 2016 โต 40% ทำให้ PE ปีนี้ที่ 52 เท่าจะลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 37 เท่าในปีหน้า
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับลงเล็กน้อยหลังประธาน FED ส่งสัญญาณชัดเจนระหว่างแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดค่อนมาในแดนบวก อย่างไรก็ตามตลาดยังได้รับข่าวบวกหลังประธาน ECB ประกาศว่าพร้อมที่จะใช้นโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจในยูโรโซน
(0)ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัวค่อนมาในแดนลบจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่อาจเกิดขึ้นในเดือนหน้า
(0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.51-35.56 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 46.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.58 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังประธาน FED ส่งสัญญาณชัดเจนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า รวมถึงสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,106.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ FED ที่มีโอกาสถูกปรับขึ้นสูงในการประชุมเดือน ธ.ค. ปีนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5-พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: 3Q15 GDP
6 พ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ต.ค.)
10-พ.ย. - ไทย: J เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.77 บาท)
- จีน: ยอดสินเชื่อเดือน ต.ค.
- ตลาดหุ้นมาเลเซียและสิงคโปร์ ปิดทำการ
11-12 พ.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
11-พ.ย. - ไทย: SR เริ่มเทรด (ราคา IPO 3.50 บาท)
- จีน: ยอดค้าปลีก, Industrial Production Fixed asset (ต.ค.)
12-พ.ย. - ไทย: RP เริ่มเทรด (ราคา IPO 12 บาท)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
13-พ.ย. - รู้ผลหุ้นเข้า-ออกจากการคำนวณ MSCI Semi-annual Index Review
- ฮ่องกง: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: 3Q15 GDP
16 พ.ย. - ไทย: WHABT เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch