- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 November 2015 17:20
- Hits: 1023
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Profit-taking
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ได้รับบรรยากาศเชิงบวกจากตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค บวกกับราคาน้ำมันดิบที่ขยับขึ้นเด่น เอื้อต่อภาวะการเก็งกำไรตลอดชั่วโมงการซื้อขาย โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี / อสังหาฯ / วัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ SET INDEX สามารถยืนเหนือ 1,420 จุด ปิดที่ 1,423.42 จุด บวก 10.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,684 ล้านบาท
ทั้งนี้ ต่างชาติยังคงชะลอการลงทุนในไทย แม้กลับมาซื้อสุทธิสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ เพียง 158 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 9,733 สัญญา แต่กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 718 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน เดือน ต.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย
ติดตามการประชุม BoE ค่ำนี้ ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50%
ประธานเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ผลักดันให้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ขึ้นเป็น 58% จากวันก่อนหน้าที่ 50%
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลง 3.3% กดดันกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 6 แม้ว่าโอกาสที่ SET INDEX วันนี้จะมียังมีโมเมนตัมขึ้นทดสอบกรอบ 1,425-1,430 จุด ซึ่งถือเป็นแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญก็ตาม แต่เราเชื่อว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรบริเวณดังกล่าวมากยิ่งขึ้น อาจทำให้ Upside ในวันนี้ เป็นไปอย่างจำกัด
กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ที่เป็นดาวเด่นวานนี้ อาจทรงตัว หรือปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย น้อยว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงแรงคืนวานนี้ก็ตาม เพราะประเด็นเชิงบวกผลการดำเนินงาน 4Q58-1Q59 จากผลของฤดูกาล ช่วยประคองภาพรวมของกลุ่มดังกล่าว
ขณะที่เราประเมินว่า กลุ่มธนาคารจะกลับมาฟื้นตัวเช่นกัน หลังเสร็จสิ้นการประกาศงบ 3Q58 น่าจะเป็นจุดที่ต่ำสุดในรอบปีนี้แล้ว แนวโน้มสินเชื่อที่จะฟื้นตัว ทั้งจาก SMEs / ที่อยู่อาศัย ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล ส่วนแนวโน้มในปีหน้า เราคาดว่าสินเชื่อจะฟื้นตัวชัดเจน หลังรัฐบาลอนุมัติแผนกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชนวันอังคารที่ผ่านมา และแนวโน้ม NPLs จะเริ่มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวเช่นกัน
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ถือว่าการประชุม BoE ค่ำวันนี้เป็นกลาง เพราะประธาน BoE เคยให้ความเห็นต่อทิศทางอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษจะต่ำกว่าเป้าหมายไปอีกอย่างน้อยถึงกลางปีหน้า นั่นย่อมหมายความว่า BoE จะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินไปจนกว่าจะถึงกลางปีหน้าเช่นกัน
สำหรับความเห็นของประธานเฟดคืนวานนี้ ต่อโอกาสที่จะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ผลักดันให้โอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากการสำรวจของ Bloomberg เช้านี้ขยับขึ้นเป็น 58% จากวันก่อนหน้าที่ 50% แต่เราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกได้ระมัดระวังการลงทุนมาตลอดปีนี้แล้วเช่นกัน ผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่จะเป็นไปอย่างจำกัดในความเห็นของเรา แต่แน่นอนว่าปัจจัยนี้ก็จะจำกัด Upside ของตลาดเช่นกัน จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในการประชุมเฟด ช่วงกลางเดือนธ.ค.
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนกลับมาพิจารณาขายทำกำไรมากขึ้น เมื่อ SET INDEX เข้าใกล้ 1,430 จุด และกลับมาถือเงินสดมากขึ้นอีกครั้ง" เพราะภาพรวมของการฟื้นตัวของ SET INDEX ในรอบนี้ ยังมีความผันผวนที่สูงในความเห็นของเรา
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: TVT
Accumulative Buy: BMCL
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
BMCL : ราคาปิด 1.84 บาท ราคาเหมาะสม 2.72 บาท
a) แผนผลักดัน PPP 8 โครงการในปี 2559 ซึ่ง 1 ใน 8 โครงการคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ - ท่าพระ) เป็นโอกาสของ BMCL ที่จะได้รับเลือกเจรจาถึงแนวทางการรับจ้างบริหาร และ จัดการ ในรูปแบบของ net cost ซึ่งต่างกับที่ BTS ได้รับงานบริหารจัดการจากทาง กทม. เป็นรูปแบบ Gross cost
b) การควบรวมกิจการระหว่าง BMCL - BECL ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากรัฐบาล โดยคาดว่าจะมีความคืบหน้าภายในเดือนพ.ย.
c) เราเชื่อว่า หลังการควบรวมกิจการระหว่าง BMCL - BECL ไปสู่บริษัทใหม่ BEM จะทำให้ฐานะการเงินของบริษัทใหม่มีความแข็งแกร่ง เพื่อตอบรับกับโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ PPP ในช่วงแรก อาทิเช่น การบริหารจัดการ และ บำรุง เส้นทางมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทางที่อยู่ในแผนของ PPP ปีหน้า เป็นต้น นอกเหนือจากไปงานโครงการบริหารจัดการ รถไฟฟ้าเส้นทางอื่นๆ ที่จะตามมา
และ "ซื้อเก็งกำไร"
TVT : ราคาปิด 2.38 บาท ราคาเหมาะสม 3.00 บาท
a) TVT ได้ประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรม Digital TV เนื่องจากเป็นผู้รับผลิตรายการอิสระให้กับหลายช่องสถานี Digital TV ดังนั้น จึงคาดว่ารายได้จากการรับจ้างผลิตรายการจะมีทิศทางเติบโตได้อีกมากใน 3-5 ปีข้างหน้า
b) คาดผลประกอบการ 3Q58 เติบโต +37.3% qoq เป็น 15 ล้านบาท สวนทางหุ้นในกลุ่มสื่อที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากรายได้รับจ้างผลิตรายการที่เติบโต +163% qoq เป็น 45 ล้านบาท จากการเริ่มออกอากาศของรายการใหม่คือ The Price is right ผ่านช่อง TRUE4U
c) ขณะที่รายการเดิมซึ่งส่วนใหญ่ออกอากาศในช่อง 3 เช่น Master Key, Take me out, Dance Your Fat Off ยังได้รับความนิยมสูงมาก และคาดว่าจะมี Utilization Rate ที่เฉลี่ย 93% ใกล้เคียงกับ 2Q58
d) ทิศทางผลประกอบการ 4Q58 จะเติบโตสูง yoy และ qoq เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากการผลิตรายการละครจำนวน 2 เรื่อง ซึ่ง 1 ใน 2 เรื่องคือ "ทางผ่านกามเทพ" ละครหลังข่าวทางช่อง 3 เราเชื่อว่ากำไรสุทธิ 4Q58 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี
e) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +77.8% yoy เป็น 61 ล้านบาท และต่อเนื่อง +26.5% yoy เป็น 77 ล้านบาท ในปี 2559 และมี Upside Risk จากการ M&A ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรายการซึ่งยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อสุทธิวันที่ 3 มากถึง US$845 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$345 ล้าน เป็นการซื้อสุทธิทั้ง 6 ตลาด
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 และหนาแน่นขึ้น
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้งเพียง 158 ล้านบาท เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 10,468 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิสูงกว่า 1.0 แสนล้านบาทเป็นวันที่ 7 เท่ากับ 107,785 ล้านบาท
และด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 9,733 สัญญา รวม 4 วันทำการ Long สุทธิ 29,276 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 26,927 สัญญา แต่เราคาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง และผลักดัน QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 90,536 สัญญา เมื่อ S50Z15 และ SET50 Index ปิดเหนือ 900 จุด เป็นวันที่ 3 แม้ว่า S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 แต่ก็เพียง 0.01 จุดเท่ากับ เทียบกับวันก่อนหน้าปิด Discount เท่ากับ 0.22 จุด และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 29,809 สัญญา
แต่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 718 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยทรงตัว ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 0.18bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.23bps ปิดที่ 2.620%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 4 เป็น 441 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า 443 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 และเน้นสะสม INTUCH อย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 605 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 458 ล้านบาท โดยยังคงเน้นสะสมกลุ่ม ICT ต่อเนื่อง สรุปภาพรวมการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 707 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 398 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 107 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 66 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 179 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มอาหารถูกขายสุทธิสูงสุด 119 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 38 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 117 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 75 ล้านบาท และกลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 87 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า
ประธานเฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย: เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น การบริโภคภายในประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงส่งสัญญาณดังกล่าว และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ก็จะมีความเป็นไปได้
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
การจ้างงานภาคเอกชน เดือนต.ค. เท่ากับ 1.82 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 1.85 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.90 แสนตำแหน่ง
ดุลการค้าเดือนก.ย. ขาดดุล US$4.08 หมื่นล้าน ดีกว่า Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$4.11 หมื่นล้าน และเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุล US$4.80 หมื่นล้าน โดยเป็นการขาดดุลจากสินค้า US$6.03 หมื่นล้าน ถูกชดเชยด้วยการเกินดุลภาคบริการที่ US$1.95 หมื่นล้าน ทั้งนี้ การส่งออกยังคงเพิ่มขึ้น 1.6% mom ด้านการนำเข้าลดลง 1.8% mom
ยุโรป
คาด EU จะให้เงินช่วยเหลือกับกรีซในรอบถัดไป: เจ้าหน้าที่ EU คาดว่า EU จะพิจารณาให้เงินช่วยเหลือกับรัฐบาลกรีซ 2.0 พันล้านยูโร ในวันที่ 9 พ.ย. หากนายกฯ กรีซ จะสามารถแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในฐานะการคลัง ต่อที่ประชุมรมว.คลัง อียูในวันที่ 9 พ.ย.
จีน
ทางการจีนยืนยันเชื่อมโยงตลาดหุ้นฮั่งเส็ง - เซินเจินภายในปีนี้: ธนาคารกลางจีนยืนยันเดินหน้าเชื่อมโยงตลาดหุ้นฮั่งเส็ง และ เซินเจิน ภายในปี 2558 โดยทางการฮ่องกงให้ความเห็นว่า ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ขั้นตอนการพิจารณาของหน่วยงานกลาง
ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ออกมาดีกว่าคาด: เท่ากับ 52.0 จุด จาก 50.5 จุด ในเดือนก.ย. เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558 โดยดัชนีที่วัดจากธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 52.9 จุด จากเดือนก.ย.ที่ 50.5 จุด และดัชนีที่วัดถึงการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนเช่นกัน
เอเชียแปซิฟิก
อัตราเงินเฟ้อของไต้หวันเร่งตัวขึ้น: เพิ่มขึ้น 0.31% yoy ในเดือน ต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.28% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดชะลอตัวอยู่ที่ +0.20% yoy ขณะที่ดัชนีราคาค้าส่งยังหดตัว 8.47% yoy และหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 7.50% yoy
ไทย
กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ 7 - 0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% เนื่องจากเห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง และจะติดตามผลจากมาตรการการทางการคลังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาวะการเงินในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมแพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
รฟม.คาดเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มใน 1Q59: รฟม. คาดว่า กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี วงเงินลงทุน 1.1 แสนล้านบาทเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าเปิดประมูลได้ใน 1Q59 ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) วงเงิน 5.46 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วงเงิน 5.67 หมื่นล้านบาท คาดเสนอ ครม.ได้ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปีหน้าเช่นกัน
คมนาคม เล็งชงครม.ไฟเขียวเดินรถเชื่อมสีม่วง - น้ำเงิน: รมว. คมนาคม กล่าวว่า การเชื่อมต่อขยายเพิ่มเติมระยะทาง 1 กิโลเมตร ระหว่างสถานีเตาปูน - บางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงสถานีบางซื่อ นั้นทาง รฟม. ได้ให้ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือ บีเอ็มซีแอล ที่เดินรถสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งแผนการดำเนินงานขณะนี้กำลังเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. โดนภายหลังจากที่ ครม. อนุมัติแล้ว คาดว่าจะเร่งรัดให้สามารถเริ่มใช้งานได้ไม่เกิน 1 ปี หรือจะพยายามไม่เกินเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งยืนยันว่า จะเร่งรัดให้เร็วที่สุดเพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชน
สคร.พร้อมลุย PPP 8 โครงการ: สคร.ได้เร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพีฟาสต์แทร็ก) ซึ่งจะทำให้กระบวนการโครงการลงทุนมีความรวดเร็วมากขึ้น จากปกติ 2 ปี เหลือเพียง 9 เดือน ซึ่งในปี 2559 คาดว่าจะมีโครงการเข้าร่วมพีพีพีฟาสต์แทร็กได้ 8 โครงการ มูลค่า 3.47 แสนล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) 2.รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 3.รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระ) 4.โรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี 5.โรงงานขยะนครราชสีมา 6.โครงการ Maritime business center (กทท.) 7.มอเตอร์เวย์ (บางปะอิน-นครราชสีมา) และ 8.มอเตอร์เวย์ (บางใหญ่-กาญจนบุรี) ที่จะให้เอกชนเป็นผู้บริการและบำรุงรักษา
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530