- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 03 November 2015 17:32
- Hits: 1952
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
มุมมองบวก
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ ตามตลาดหุ้นโลกและภูมิภาคจากมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2016 ทั้งของโลกและภายในประเทศ ภายในประเทศแผนเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้กรอบเอกชน-รัฐบาล และมุมมองบวกต่อการส่งออกน่าจะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน ของโลกดัชนี PMI ที่ดีกว่าคาดจากหลายประเทศในยุโรป และการที่ MSCI จะนับรวม ADR ของหุ้นจีนในการคำนวณดัชนี MSCI EM ยิ่งช่วยตลาด
หุ้นเด่นวันนี้ : SGP (ราคาปิด 11.70 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย IAA consensus 14.95 บาท)
เราเลือกบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากผลประกอบการที่จะ Turnaround ในปีนี้ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังมีความน่าสนใจ โดย SGP เป็นผู้จัดจำหน่ายก๊าซ LPG รายใหญ่ของประเทศผ่านสายการผลิตที่ครบวงจร ครอบคลุมกับความต้องการทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรมรวมไปถึงภาคขนส่งและยานยนต์ นอกจากนี้ SGP ยังมีการขยายธุรกิจขาย LPG ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2553 ได้แก่ ประเทศจีน เวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซีย อย่างไรก็ตามในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ต้องเผชิญกับผลขาดทุนสุทธิเป็นครั้งแรกจากหน่วยธุรกิจในต่างประเทศ หลังจากที่ราคา LPG ในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วตามทิศทางราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามบนสมมติฐานที่ราคาน้ำมันดิบโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทำให้เราเชื่อว่าผลประกอบการที่ตกต่ำในปีที่แล้วจะเป็นจุดต่ำสุดและจะฟื้นตัวนับจากนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการครึ่งปีแรกปีนี้ที่เริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิ 403 ลบ. จากขาดทุนสุทธิ 266 ลบ. ในงวด 1H57 แม้เรามองว่าตลาด LPG ในประเทศจะค่อนข้างอิ่มตัวแล้วแต่ยังเห็นศักยภาพการเติบโตของบริษัทในอนาคตจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนซึ่งยังมีปริมาณการบริโภค LPG ต่อประชากรที่น้อยกว่าไทยอยู่มาก
จากประมาณการกำไรสุทธิโดย Bloomberg consensus พบว่า EPS ในปีนี้จะอยู่ที่ 1.19 บาท/หุ้น พลิกจากขาดทุนสุทธิ 0.56 บาท/หุ้นในปีที่แล้ว ก่อนจะขยายตัวเป็น 1.23 บาท/หุ้นในปี 2559 ขณะที่ราคาหุ้นยังมีความน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ระดับ PBV ปีนี้ที่เพียง 1.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 2.0 เท่าอยู่ราว 1.5 S.D. นอกจากนี้ SGP ยังมีประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ โดยสามารถคาดหวังอัตราผลตอบแทนเงินปันผลต่อปีได้ราว 4.3% ในปีนี้และปีหน้า ในส่วนของ Price Pattern ของ SGP คาดว่าจะมีความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่ได้กลับมาเกิดทั้ง Weekly & Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้หาก SGP ปิดตลาดเหนือ 11.70 บาท จะทำให้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่เช่นกันและกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่อย่างเต็มตัว โดยในระยะสั้นหาก SGP สามารถกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ได้สำเร็จ คาดว่าจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 13.60 บาทต่อไป และหากมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะปิดตลาดเหนือ 13.60 บาทได้ คาดว่าจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายสำคัญที่ 16.40 บาท (แนวต้าน: 11.90, 12.10, 12.40; แนวรับ: 11.50, 11.20, 11.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ผู้ส่งสินค้าทางเรือมองบวกต่อการเติบโตในปี 59 สภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือคาดการณ์ว่าการส่งออกปี 59 จะเติบโตได้ 2% จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างไรตาม สภาฯ ได้กล่าวเตือนด้วยว่าการส่งออกยังคงมีปัจจัยเสี่ยงงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างช้าและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน สภาฯ ยังได้คาดการณ์ว่าไตรมาส 4/58 การขนส่งทางเรือจะยังติดลบประมาณ 5% YoY ทำให้ทั้งปียังคงติดลบ 5% (Bangkok Post)
การประมูลคลื่น 900 ในวันที่ 15 ธ.ค. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงว่าการประมูลคลื่น 900 จะถูกผลักดันให้กลับมาประมูลตามกำหนดเดิมในวันที่ 15 ธ.ค. (Bangkok Post)
คณะกรรมการ PPP เร่งรัดการลงทุน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3.4 แสนลบ. ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าจะเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งในปี 2559 (The Nation)
กระทรวงกลาโหมต้องการให้มีการผลิตและประกอบอาวุธยุทโธปกรณ์จากในประเทศมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมทางการทหารในประเทศมีเทคโนโลยีที่จำกัดและมีต้นทุนสูง ซึ่งต้องการให้มีการพัฒนาในจุดนี้ อย่างไรก็ตามการระดุมทุนในภาคเอกชนเป็นสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบัน เนื่องจากงบประมาณภาครัฐที่จำกัด (The Nation)
IRPC (4.16 บ,) รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q58 อยู่ที่ 887 ลบ. ปรับตัวลดลง 79% QoQ แต่สูงขึ้น 39 เท่าจากฐานกำไรที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และถือว่าสอดคล้องกับที่ตลาดคาดว่าจะรายงานออกมาอยู่ที่ 760 ลบ. (อ้างอิง Bloomberg consensus) (SET) ความเห็น: กำไรสุทธิที่หดตัวแรง QoQ มีสาเหตุหลักมาจากการบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมัน 1.6 พันลบ. พลิกจากงวดก่อนหน้าที่บันทึกเป็นกำไร 1.9 พันลบ. ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหน่วยธุรกิจปิโตรเคมี
TASCO (42.75 บ.) ผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่สุดของอาเซียน วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตให้ถึงหนึ่งแสนบาร์เรลภายในห้าปีด้วยเงินลงทุนทั้งหมด 3.5 พันลบ. โดยในปีหน้าจะเริ่มขยายกำลังการผลิตในประเทศมาเลเซียเป็น 50,000 บาร์เรลจากปัจจุบันอยู่ที่ 30,000 บาร์เรลเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ผู้บริหารคาดการณ์ว่าปริมาณยางมะตอยที่ขายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 15% เป็น 2.2 ล้านตันและคาดว่าอุปสงค์ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และไตรมาสแรกของปี 59 จะเพิ่มขึ้น 25% (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ ส่วนพันธบัตรระยะสั้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ตามความคาดหวังบนความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ล่าสุดลดลงมา 9/32 ให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.184% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีล่าสุดลดลงมา 12/32 ให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.955% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันจันทร์ หลังจากความเห็นจากสมาชิก 2 ท่านของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปได้ลดความหวังที่จะอัดฉีดเงินเข้าระบบมากขึ้นในเดือนหน้า ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.28% เทียบกับเงินยูโรอยู่ที่ 1.1036 ดอลลาร์สหรัฐ และดัชนีเงินดอลลาร์ลดลง 0.24% อยู่ที่ 96.719 จุด(Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนี หุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม นำโดยกลุ่มพลังงานและธุรกิจเฮลท์แคร์ซึ่งตอนนี้มีการควบรวมกิจการ หุ้นบ.น้ำมันหลัก ๆ อย่าง เอ็กซอนและเชฟรอนประกาศผลการดำเนินดีเกินคาดเมื่อวันศุกร์ บริษัทผู้ผลิตยาของอังกฤษ Shire ประกาศว่าจะซื้อบ. Dyax เป็นจำนวนเงิน 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
กิจกรรมภาคการผลิตสหรัฐลดลงในช่วง 2 ปีครึ่งในเดือนต.ค. แต่การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อใหม่ได้ให้ความหวังถึงแม้ว่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและบ.ผลิตพลังงานได้ตัดงบค่าใช้จ่ายก็ตาม สถาบัน Institute of Supply Management รายงานว่าดัชนี ISM Manufacturing Index ลดลงอยู่ที่ 50.1 จุดในเดือนนี้ ต่ำสุดนับแต่พ.ค. 56 ส่วนเดือนก.ย. ดัชนีฯ อยู่ที่ 50.2 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนีย่อยเกี่ยวกับยอดการสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 52.9 จุดในเดือนก่อนจาก 50.1 จุดในเดือนก.ย. แต่ยอดการส่งออกยังคงลดลง แต่มีตัวเลขที่ดีขึ้นเกี่ยวกับระยะเวลาจัดส่งสินค้าและยอดการสั่งซื้อที่มีอยู่ในมือ (Reuters)
การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. บ่งบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งถึงแม้ว่ามีสัญญาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงก็ตาม การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งแตะระดับสูงสุดนับแต่ม.ค. 51 การใช้จ่ายในการสร้างที่อยู่อาศัยภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. และแตะระดับสูงสุดนับแต่เดือนม.ค. 51 เช่นกันซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของธุรกิจรับสร้างบ้านและปรับปรุงบ้าน (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปบวกในวันแรกของสัปดาห์ จากตัวเลข PMI จากหลายประเทศในยูโรโซนดีกว่าที่ตลาดคาด ในขณะที่ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดจาก Commerzbank ก็ทำให้ แนวโน้มผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น (Reuters)
คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ECB ทำให้ความคาดหวังมาตรการ QE เพิ่มเติมลดลง ประธาน ECB Mario Draghi และกรรมการบริหาร ECB Ewald Nowotny กล่าวว่าการขยาย QE และการลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และข้อมูลเมื่อถึงเวลานั้น (Reuters)
เศรษฐกิจยูโรโซนมีสัญญาณดีขึ้น ดัชนี PMI ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน จัดทำโดย Markit ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 52.3 ในเดือน ต.ค. จาก 52.0 ในเดือน ก.ย. และตัวเลขเบื้องต้นเดือน ต.ค. ที่ 52.0 เช่นกัน ดัชนีดังกล่าวยืนอยู่เหนือ 50 มามากกว่า 2 ปี ติดต่อกันแล้ว (Reuters)
อุตสาหกรรมเยอรมันโตช้าลงเล็กน้อยในเดือนตุลาคม แต่ยังถือว่าแข็งแกร่งโดยรวม ดัชนีPMI ภาคอุตสาหกรรมเยอรมัน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 ของเยอรมันซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ลดลงมาอยู่ที่ 52.1 ในเดือน ต.ค. 0kd 52.3 ในเดือน ก.ย. แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 51.6 (Reuters)
เอเชีย :
MSCI เตรียมดึงหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นอกประเทศจีนมารวมในดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging market index) ซึ่งคิดเป็นขนาดกว่าพันล้านดอลลาร์ฯ เพื่อเป็นการประเมินและทดสอบเบื้องต้นถึงความต้องการลงทุนหุ้นจีนของนักลงทุนต่างชาติ โดยอาจนำไปสู่ความเป็นไปได้ที่จะดึงหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ในลำดับต่อไป (Reuters)
คณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นแนะควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม คณะกรรมการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจและการคลังเตรียมยื่นเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันพุธนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ไปถึงเป้าการเติบโตที่ 2% จากระดับใกล้ศูนย์ในปัจจุบัน โดยข้อเสนอดังกล่าวประกอบด้วยการเพิ่มการลงทุนในภาคเอกชน รวมถึงการจ้างงานผู้ที่เลยวัยเกษียณที่ 65 ปีไปแล้ว (Reuters)
ตลาดการเงินในญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันหยุดแห่งชาติ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาทองปรับตัวลงทั้งทางเทคนิคอลและกลัวเฟด ราคาทองสปอทในสหรัฐลดลง 8.65 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1,133.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ลดลงต่อเนื่องสี่วันติดต่อกัน จากปัจจัยทั้งทางเทคนิครวมกับความกังวลว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ (Reuters)
ราคาน้ำมันลดลงจากปัจจัยทางจีนและรัสเซีย ความกังวลต่ออุปสงค์ที่หดตัวจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนและตัวเลขการผลิตน้ำมันของรัสเซียที่ยังอยู่ในระดับสูงกดดันราคาน้ำมันในวันจันทร์ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 45 เซนต์ หรือ 1% เป็น 46.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 77 เซนต์ หรือ 1.6% เป็น 48.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094