- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 November 2015 18:09
- Hits: 1257
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
แรงกดดันจากสหรัฐฯ และจีน
คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลง เนื่องจากมองว่าปัจจัยในประเทศจะไม่สามารถหักล้างกับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศได้ สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามองว่าประเด็นที่ไทยอาจจะเข้าร่วมข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศยังไม่มีความชัดเจนมากเพียงพอที่จะส่งผลกระทบกับตลาดในวันนี้ ขณะที่ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศ ข้อมูลเศรษฐกิจทั้งจีนและสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ รวมทั้งความคาดหมายที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในเดือน ธ.ค. นี้จะส่งผลกระทบเชิงลบกับอารมณ์นักลงทุนรวมถึงตลาดหุ้น
หุ้นเด่นวันนี้ : ROBINS (ราคาปิด 39.50 บาท, NR, ราคาเป้าหมาย Bloomberg 50.25 บาท)
บมจ. ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการเปลี่ยนผลัดทีมเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลนำซึ่งเน้นการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นอำนาจซื้อของชาวนาและผู้มีรายได้ต่ำโดยเฉพาะในเขตชนบท ปัจจุบัน โรบินสันบริหารห้างสรรพสินค้าและห้างรูปแบบ Lifestyle center ทั้งหมด 39 แห่งทั่วประเทศและอีก 2 แห่งในเวียดนาม ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายพื้นที่สำหรับเช่าเพิ่มขึ้น 32% เป็น 3.1 แสนตารางเมตร เพื่อกระจายสัดส่วนความเสี่ยงทางธุรกิจท่ามกลางการบริโภคภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ซึ่งรายได้ค่าเช่าจากการขยายพื้นที่จะรับรู้เต็มปีในปี 58 เป็นครั้งแรก บริษัทยังมีแผนเปิดไลฟ์สไตล์มอลล์เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งในบุรีรัมย์ แม่สอด และ ศรีสมานภายในครึ่งปีหลังนี้ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ค่าเช่าและมีอัตราทำให้กำไรที่ดีขึ้นจากการมีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มเติม จาก Bloomberg Consensus นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ROBINS จะมีกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 12% ในปีนี้และเร่งตัวเป็น 16 % ในปี 59 จากการที่ Price Pattern ของ ROBINS ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ตามมาด้วย Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ และมีแนวโน้มที่จะเห็นการปรับตัวขึ้นไปต่อเพื่อทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 42.75 บาทและขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 46.25 บาท (แนวต้าน: 39.75, 40.25, 41.00; แนวรับ: 39.25, 38.75, 38.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ไม่น่ามีการลดดอกเบี้ย จากผลสำรวจสถาบันการเงินในประเทศต่างมีความเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมที่จะถึงในวันที่ 4 พ.ย. เนื่องจาก ธปท.น่าจะรอผลของมาตรการจากทีมเศรษฐกิจใหม่ก่อน (Bangkok Post) ความเห็น: จากการประชุมกับนักลงทุนล่าสุด สมาชิก กนง.กล่าวว่าจะพยายามเลี่ยงความผันผวนของค่าเงินซึ่งเป็นข้อกังวลหลักของ ธปท. และแนวโน้มว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย มาตรการของ ECB และ BOJ ที่จะออกมาเพิ่มได้เพิ่มความผันผวนให้ค่าเงินมากพอแล้ว ธปท.จึงไม่น่าอยากจะไปเพิ่มความผันผวนเข้าไปอีก
ทีโอทีเตรียมประกาศชื่อพันธมิตรวันที่ 13 พ.ย. โดยเอไอเอสเป็นรายแรกที่ทีโอทีจะคุยด้วย ขณะที่แหล่งข่าวกล่าวว่าสมาชิกบอร์ดยังไม่ได้อภิปรายว่าทีโอทีจะฟ้องการประมูล 900 เมกะเฮิร์ตซ์หรือไม่ (The Nation) ความเห็น: เนื่องจากการเลือกพันธมิตรเกิดขึ้นหลังการประมูล (11-12 พ.ย.) ADVANC (233 บาท, ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 271 บาท) น่าจะมีอำนาจต่อรองในดีลพันธมิตรนี้เนื่องจากน่าจะได้คลื่นในมือมาบ้าง
ไม่มีการชุมนุมเสื้อแดงวานนี้ แม้ว่าจะมีการเรียกกลุ่มสนับสนุนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ให้ออกมาใส่เสื้อแดงเมื่อวานนี้ แต่ผู้ร่วมกิจกรรมดังกล่าวทั่วประเทศรวมเมืองหลวงและจังหวัดในภาคอีสานยังดูเบาบาง (The Nation)
ประกาศข้อสัญญาเกี่ยวกับการค้าเดือนหน้า นายก ประยุทธ์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในวันที่ 9 ธ.ค. และจะแถลงถึงท่าทีที่ชัดเจนของไทยต่อเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคของอาเซียน (RCEP) ซึ่งนำโดยจีน (Bangkok Post)
แผนโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมในภูเก็ตและฮับท่องเที่ยวอื่นๆ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ได้เร่งแผนพัฒนาคมนาคมในท้องถิ่น รวมถึงแผนการก่อสร้างโมโนเรลในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเสร็จแล้ว 80% คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนหน้าและส่งให้ รมว.กระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือน ม.ค. ตามลำดับ (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นทั่วโลกถูกจับเป็นตัวประกันจากความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขที่จะประกาศในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า รวมทั้งรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์หน้าเพื่อดูสภาวะทางเศรษฐกิจ (Reuters)
กิจกรรมภาคการผลิตของจีนลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนต.ค. ติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม จากรายงานที่ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งเติมเชื้อความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวอยู่ในไตรมาส 4/58 ถึงแม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาก็ตาม ตัวเลข PMI อย่างเป็นทางการในเดือนต.ค. เท่ากับ 49.8 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเดือนก่อนและต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 50.0 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีโอกาสวัดสถานการณ์เศรษฐกิจจีนอีกครั้งหนึ่งจากรายงานกิจกรรมการผลิตที่เป็นผลสำรวจจากภาคเอกชนซึ่งจะประกาศในเวลา 1.42 GMT ของวันนี้ (Reuters)
ไม่มีความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้และชัทดาวน์จนถึงก.ย. 60 ประธานาธิบดีบารัค โอบามาผ่านการขออนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อวันศุกร์ในการออกกฎหมายที่จะขยายเพดานหนี้ออกไปจนกว่าครบวาระดำรงตำแหน่งและร่างงบประมาณผ่อนคลายการใช้จ่ายที่เข้มงวดจนถึงก.ย. 60 วุฒิสภาลงมติ 64-35 เพื่ออนุมัติมาตรการดังกล่าว คาดว่าประธานาธิบดีโอบามาจะลงนามในร่างกฎหมายเช้าวันนี้ หากไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส กระทรวงคลังสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ที่รัฐบาลมีข้อผูกพันในวันที่ 3 พ.ย. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ แต่ทำผลงานได้ดีสุดใรรอบ 4 ปีท่ามกลางตัวเลขผลประกอบการแบบผสมผสาน ในเดือนต.ค. ดัชนีหลักทั้งสามมีเปอร์เซนต์การเติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่ต.ค. 54 โดยดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 8.3% นำโดยกลุ่มพลังงาน (Reuters)
การใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากรายได้แทบไม่เพิ่มขึ้น กระทรวงพาณิชย์แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคขยับขึ้น 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้นในเดือน 0.4% (ตัวเลขยังไม่ได้ปรับปรุง) นักเศรษฐศาสตร์ได้ประมาณการก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 3.2% ต่อปีในไตรมาส 3/58 ช่วยให้เพิ่มอัตราการเติบโตของจีดีพีในอัตรา 1.5% (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับขึ้นแรงสุดในรอบ 6 ปี ในวันศุกร์ ดัชนียูโรเปี้ยน FTSE Eurofirst 300 ปิดทรงตัว แต่พุ่งขึ้นถึง 8% ในเดือน ต.ค. ดีสุดนับตั้งแต่ ก.ค. 2009 ดัชนี Euro STOXX 50 สำหรับหุ้นชั้นนำขยับขึ้น 0.1% ในวันศุกร์ (Reuters) ความเห็น: เกิดจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด และความคาดหวังว่า ECB จะขยายเพิ่มมาตรการ QE
ธนาคารกรีซ ต้องการทุนเพิ่มอีก รายงาน Stress Test ของ ECB ระบุว่าธนาคารกรีซต้องเพิ่มทุนราว 1.4 หมื่นล้านยูโร เพื่อรองรับหนี้ MPLS อย่างไรก็ตามถือว่าดีกว่าที่ ECB คาดไว้ เดิมว่าจะต้องเพิ่มทุนถึง 2.5 หมื่นล้านยูโร(Reuters)
เอเชีย :
ญี่ปุ่นและจีนเดินหน้าสานสัมพันธ์มากขึ้น หลังจากที่ล่าสุดรมว.ต่างประเทศของทั้งสองประเทศเตรียมที่จะพบปะหารือกันอีกครั้งหนึ่งในช่วงปีหน้า ทั้งนี้ประเด็นความขัดแย้งในอดีตเรื่องเกาะทางทะเลตะวันออกของจีนไม่ได้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศนี้ นับตั้งแต่ที่นาย Shinzo Abe นายกฯ ญี่ปุ่นได้พบปะกับ Xi Jinping ปธน. จีนถึงสองครั้งในเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว (Reuters)
ผู้นำเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันบูรณาการเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งความตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในงานประชุมร่วมกันที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยทั้ง 3 ประเทศมุ่งเป้าความสำคัญไปที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (RCEP) ซึ่งมีจีนเป็นประเทศแกนนำหลักที่จะทำให้เกิดเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายใต้ประชากรกว่า 3.4 พันล้านคน (Reuters)
ที่ประชุม BOJ เมื่อวันศุกร์ยังไม่เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แม้ว่าจะมีการถอยกรอบเวลาสำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อเข้ามา 6 เดือนเป็นเดือน มี.ค. 2560 ก็ตาม โดย BOJ กล่าวถึงระดับเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ตกต่ำว่าเป็นเพราะราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ไม่ใช่เป็นเพราะผลจากเศรษฐกิจแต่อย่างใด (Reuters)
ภาคบริการของจีนชะลอตัว เศรษฐกิจภาคบริการของประเทศจีนซึ่งเป็นเพียงไม่กี่อุตสาหกรรมที่ยังสดใสได้ส่งสัญญาณชะลอตัวในเดือน ต.ค. ด้วยการเติบโตในอัตราช้าสุดในรอบเกือบเจ็ดปี ตัวเลข PMI ของภาคที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมลดลงเป็น 53.1 ในเดือน ต.ค. จาก 53.4 ในเดือน ก.ย. แม้ว่าจะยังเติบโตแต่ก็เป็นไปในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการเงินโลก (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองถูกกดดันจากแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย ทองคำตลาดจรร่วง 3.52 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 1,142.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันศุกร์ และเป็นการลดลงรายสัปดาห์มากสุดนับแต่ ส.ค. เพราะกลัวการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งคาดกันว่าน่าจะเกิดใน ธ.ค. นี้ (Reuters)
ราคาน้ำมันขึ้นเพราะผ่อนคลายกังวลอุปทานล้น ตามรายงานของบริษัทวิจัย Baker Hugh จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐลดลงถึง 16 แท่นเหลือ 578 แท่นสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 30 ต.ค. เป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับแต่ มิ.ย. 2553 น้ำมันจึงปรับตัวดีขึ้น NYMEX บวก 53 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 46.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent บวก 76 เซนต์หรือ 1.6% ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094