- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 October 2015 16:07
- Hits: 1945
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก BOJ และ ECB
คาดหุ้นไทยขยับขึ้นวันนี้ จากปัจจัยหลักที่เป็นบวกทั้งในและต่างประเทศ ภายในประเทศความพยายามของรัฐบาลที่จะเร่งโครงการรถไฟรางคู่ หนุนตลาด ในขณะที่มีลุ้น BOJ และ ECB ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่นาน แม้จะคาดว่าวันนี้ ECB จะยังคงไม่ออกมาตรการใหม่ก็ตาม
หุ้นเด่นวันนี้ : GLOBAL (ราคาปิด 11.70 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 59 13.30 บาท)
บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ เป็นหุ้นแนะนำวันนี้ เนื่องจากเป็นหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการที่ออกมาสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ได้แก่ นโยบายลดหย่อนค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอน ซึ่งน่าจะกระตุ้นยอดขายภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวมและส่งผ่านไปกระตุ้นยอดขายของวัสดุอุปกรณ์สำหรับบ้านของ GLOBAL ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศเข้าลงทุนในบริษัท สุวันนี โฮมเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดที่มีชื่อเสียงในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านในตลาดสาธารณรัฐประชาชนลาว จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทเพิ่มเติมเนื่องจากประเทศลาวยังคงมีความล้าหลังของโครงสร้างพื้นฐานอยู่มาก เราคาดว่า กำไรบริษัทปีนี้จะเติบโต 24% และเติบโตชลอลงเล็กน้อยแต่ยังคงแข็งแกร่ง 20% ในปี 59 สำหรับ Price Pattern ของ GLOBAL ขณะนี้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเกิดสัญญาณซื้อทั้งรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ราคากำลังปรับตัวขึ้นไปเพื่อทดสอบเป้าหมายที่ 12.60 บาท ในระยะสั้นจึงจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 14.00 บาท และเป้าหมายสำคัญที่ 15.40 บาท (แนวต้าน: 11.80, 11.90, 12.00; แนวรับ: 11.60, 11.50, 11.40)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
มาตรการสนับสนุนแฟรนไชส์ไทย ก.พาณิชย์แถลงวานนี้เกี่ยวกับโอกาสเติบโตอีกมากของแฟรนไชส์ไทยและเกี่ยวกับว่ารัฐบาลจะสนับสนุนสิทธิประโยชน์สำหรับแฟนไชส์ไทยไปเวทีโลก ได้แก่ การค้ำประกัน การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า (Bangkok Post)
ธปท. เตือนปีหน้า โดยได้กล่าววานนี้ว่าไทยจะเผชิญความเสี่ยงขาลงสำหรับการเติบโตเศรษฐกิจปีหน้า แม้ ธปท.จะคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ 3.7% ปีหน้าก็ตามและ ธปท.ยังกล่าวว่าจะยังผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนต่อไป (Bangkok Post)
เร่งโครงการรถไฟรางคู่ รมช.กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการเฟสสองของรถไฟรางคู่ซึ่งประกอบไปด้วยหกเส้นทางและงบประมาณรวมหนึ่งแสนล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 60 และการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในสามปี (Bangkok Post)
SSI กดดันผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคาร กำไรสุทธิงวด 3Q58 ของหุ้นกลุ่มธนาคารลดลงกว่า 16% โดยหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้เสีย บมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี โดย KTB, SCB, TISCO ทำให้ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 11 แห่งรายงานผลกำไรสุทธิรวม 46.51 พันลบ. ลดลงจาก 55.48 พันลบ. ในปีก่อน (The Nation)
KTB (17.60 บาท) รายงานผลประกอบการไตรมาศ 3/58 ที่ 5.3 พันล้านบาท ลดลง 36.7% QoQ และ 42.2% YoY (SET)
QH (2.54 บ,) วางแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 27 โครงการ ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 24 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3.0 หมื่นลบ.ในปีหน้า เนื่องจากบริษัทฯ เชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งตลาดระดับบนและระดับกลางกำลังกลับมาฟื้นตัวหลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า (The Nation)
ต่างประเทศ :
คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังไม่ออกนโยบายใหม่ในวันนี้ เนื่องจากรอตัวบ่งชี้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อในยุโรปที่อ่อนลง มีค่ามัธยฐานของความน่าจะเป็นที่อีซีบีจะขยายเวลาโครงการซื้อสินทรัพย์หลังจากเดือนก.ย. 2559 ถึง 70% จากผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ล่าสุดของรอยเตอร์ส ผลสำรวจเดียวกันระบุว่ามีโอกาส 40% ที่อีซีบีจะซื้อสินทรัพย์เพิ่มรายเดือนในช่วง 6 เดือนข้างหน้า (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง หลังจากการประกาศตัวเลขส่งออกที่น่าผิดหวังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวและโอกาสริบหรี่ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเร็ว ราคาพันธบัตรสหรัฐอายุ 30 ปีล่าสุดเพิ่มขึ้น 1-5/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.87% เทียบกับ 2.92% ในวันอังคาร (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นท่ามกลางสกุลเงินหลักๆ แข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินยูโรก่อนการประชุมอีซีบี เงินยูโรล่าสุดอ่อนค่าลง 0.5% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.13395 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีเงินดอลลาร์ซึ่งวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ในระบบตระกร้าเงินที่เป็นการเฉลี่ยน้ำหนักเงินสกุลต่าง ๆ 6 สกุลหลัก ล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.14% อยู่ที่ 95.043 จุด (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปิดลดลงเมื่อวันพุธ จากราคาหุ้น Valeant Pharmaceuticals ที่ร่วงลงอย่างหนักกระทบต่อกลุ่มเฮลท์แคร์และความเห็นเชิงลบของนางฮิลลารี คลินตันเกี่ยวกับการเจรจาควบรวมกิจการของบริษัทประกันรายหนึ่งส่งผลกระทบต่อคู่แข่งรายอื่นๆ ส่วนราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานลดลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง นอกจากนี้ Citron Research ออกรายงานกล่าวหาว่าบริษัท Valeant ทำการฉ้อฉล ซึ่ง Valeant ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงบางรายได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น Valeant ทำให้ชดเชยการขาดทุนของหุ้นดังกล่าวก่อนหน้าได้ (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปขยับขึ้นในวันพุธ จากความคาดหวังว่า ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีก แม้จะไม่ใช่ในวันที่มีการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางแห่งนี้ก็ตาม ความคาดหวังดังกล่าวช่วยด้านรายงานผลประกอบการ บจ.ที่ไม่ค่อยดี (Reuters)
เอเชีย :
จีนลดการผลิตเหล็กกล้าลง 77.8 ล้านตัน ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง กล่าวเมื่อวานระหว่างการเยือนอังกฤษว่า จีนไม่ได้ทุ่มตลาดด้วยการขยายตัวราคาเหล็กกล้าอุตสาหกรรมเหล็กของอังกฤษ กำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากเศรษฐกิจชะลอตัวในขณะนี้ จีนผลิตเหล็กกล้าเกือบครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตโลก 1.6 พันล้านต่อปี นักวิเคราะห์ประมาณว่าจีนขณะนี้มีกำลังการผลิตเหล็กกล้าเหลือ 300 ล้านตัน (Reuters)
จีนและอังกฤษร่วมลงนามข้อตกลงการลงทุนมูลค่ากว่า 4.0 หมื่นล้านปอนด์ (6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ) นายกฯ อังกฤษ David Cameron เชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการลงทุนต่างๆ นับจากนี้ของจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (Reuters)
ข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่อ่อนแอล่าสุดเมื่อวานนี้ทำให้ตลาดเชื่อว่า BOJ จะมีการใช้มาตรการกระตุ้นมากขึ้น ทั้งนี้จะมีการประชุม BOJ สำหรับนโยบายทางการเงินในวันที่ 30 ต.ค. นี้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองปรับลงทางเทคนิค ทองคำตลาดจรลบ 9 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 1,166.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลงมากสุดในรอบสามสัปดาห์เนื่องจากถูกกดดันจากปัจจัยทางเทคนิคและการปิดสถานะซื้อ รวมถึงดอลลาร์ที่แข็งค่า (Reuters)
น้ำมันล้นเกินคาดกดดันราคา NYMEX ลบ 1.09 ดอลลาร์หรือ 2.4% ปิดที่ 45.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent ลง 86 เซนต์หรือ 1.8% ปิดที่ 47.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะตัวเลข EIA รายสัปดาห์สิ้นสุด 16 ต.ค. ชี้ว่าสต็อกน้ำมันสหรัฐเพิ่ม 8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดกันว่าจะเพิ่ม 3.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094