- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 October 2015 15:49
- Hits: 1517
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET พักตัวตามการอ่อนค่า
SET View
ภาวะตลาดหุ้น เราประเมิน SET วันนี้พักตัว มีแนวรับที่บริเวณ 1410 จุด จาก (1) Sentiment เชิงลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงทั้งดาวโจนส์ -0.28%, S&P500 -0.58% (2) เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วจาก 35.41 เป็น 35.66 บาท/เหรียญฯ กดดันให้เกิดแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ เพราะลดผลกระทบจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (FX loss) (3) ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงทั้ง Brent -1.8% และ WTI -0.8% หลังจากสหรัฐฯรายงานสต๊อคน้ำมันดิบรายสัปดาห์ พบว่า เพิ่มขึ้นมากถึง 8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 3.8 ล้านบาร์เรล ทำให้ตลาดกลับมากังวลต่อภาวะอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) ที่มาจากการผลิตของประเทศนอกกลุ่ม OPEC
ค่ำคืนนี้ จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) จับตาการส่งสัญญาณของ ECB ต่อการอัดฉีดเงินรอบใหม่ โดยฝ่ายวิจัย Bank of America Merrill Lynch (BoAML) คาดในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค. ECB มีโอกาสขยายระยะเวลาการใช้มาตรการ QE จากเดิมกำหนดสิ้นสุด ก.ย.59 เนื่องจากตั้งแต่ ECB เริ่มใช้ QE ตั้งแต่เดือน มี.ค.58 เงินเฟ้อไม่ยังฟื้นตัวได้ตามเป้าหมายระยะยาวที่ 2% โดยล่าสุด ดัชนีเงินเฟ้อ (CPI) ของกลุ่มยูโรโซน เดือน ก.ย. กลับมาติดลบ 0.1% เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรหุ้นกำไรเด่นใน 3Q58, เก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท ได้แก่ ผู้ส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร
Top Daily Pick : SYNTEC (มูลค่าเหมาะสม 4 บาท) คาดผลประกอบการ 3Q58 เติบโตดี (+13%QoQ, +1% YoY), Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 11 เท่า ถูกกว่าหุ้นรับเหมาฯขนาดใหญ่ที่เทรดบริเวณ 20-30 เท่าและ TU (มูลค่าเหมาะสม 24.30 บาท) ได้รับผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาท โดยมีสัดส่วนการขายในต่างประเทศมากถึง 93% ของยอดขายรวม
Technical Pick : CKP TVT ASIMAR, TNPC TCMC (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : หุ้นเกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ (CK, ITD, STEC, SEAFCO, SAMTEL)/ หุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, TU)/ เก็งกำไรผลประกอบการ 3Q58 (IRC, LPN, SIRI, PLANB, SAWAD, SAT, SYNTEC)
Strategy Talk
ยกแรกของ Earnings season…กลุ่มธนาคาร ไม่แย่กว่าตลาดคาด
กำไรสุทธิรวมของ 10 ธนาคาร ได้แก่ SCB, KBANK, BBL, KTB, BAY, TMB, TCAP, TISCO, KKP, LHBANK เท่ากับ 4.47 หมื่นล้านบาท (-12.6% QoQ, -17.2% YoY) แม้กำไรกลุ่มธนาคารหดตัวแรง แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตั้งสำรองฯของ SCB, KTB, TISCO สำหรับกรณี SSI และกำไรโดยรวมของกลุ่มฯที่ประกาศออกมา ถือว่า อยู่ในความหมายของตลาดอยู่แล้ว เพราะกำไรสุทธิรวมใน 3Q58 ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยเพียง 0.9%
ความเสี่ยงในการปรับลดประมาณกำไรปีนี้ของกลุ่มธนาคาร อาจไม่สูงนัก เพราะกำไรรวมของธนาคาร 10 แห่งใน 9M58 คิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปีนี้ของ Bloomberg consensus ทำให้ในระยะสั้น ตลาดน่าจะคลายความกังวลต่อกำไรกลุ่มธนาคารในปีนี้
Valuation ของหุ้นกลุ่มธนาคาร ไม่แพงมาก ปัจจุบัน SETBANK ซื้อขายที่ P/BV 1.3 เท่า ต่ำสุดในรอบ 2 ปี แต่เรามองว่า แนวโน้มราคาหุ้นในระยะถัด น่าจะเป็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวโน้ม SET มากกว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นเอาชนะตลาด (Outperform) เพราะยังมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ Loan growth และแนวโน้ม NPL ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การตั้งสำรองฯสูงขึ้น
สรุปผลประกอบการกลุ่มธนาคาร
Remark: 3Q15F คือ คาดการณ์จาก Bloomberg consensus
Source: SET, Bloomberg, kktrade
ปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล นักกลยุทธ์การลงทุน
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.51
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.13
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.19
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.65