- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 October 2015 17:42
- Hits: 1410
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
มุมมองบวกแบบระมัดระวัง
คาดหุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อยวันนี้ แนวโน้มตลาดหุ้นโลกเป็นแบบระมัดระวังแต่ยังคงมองเป็นบวก ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศเป็นบวกหลายประการไม่ว่าจะเป็น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อาศัยมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ หนุนยอดขายของตนด้วย การรณรงค์ทางการตลาดต่างๆ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งหนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
หุ้นเด่นวันนี้ : TCAP (Bt33.00; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 40.00 บาท)
บมจ.ทุนธนชาต เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ของเรา เนื่องจากโยบายการปรับตัวของบริษัทฯ ทั้งการปรับส่วนผสมของสินเชื่อ การบริหารต้นทุน ผลักดันรายได้ค่าธรรมเนียมฯ และการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น เมื่อวานนี้บริษัทรายงานรายงานผลประกอบการไตรมาศ 3/58 ที่ 1.35 พันล้านบาท ลดลง 2.8% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 12.6% YoY คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นเนื่องจากอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ลดลงอยู่ 3.54% จาก 3.76% ในไตรมาส 2/58 และ 4.21% ในไตรมาส 3/57 จึงเป็นผลให้ coverage ratio ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 110% จาก 99% ในไตรมาส 2/58 และ 85% ในไตรมาส 3/57 บริษัทยังคงใช้โอกาสนี้ในการขายหนี้เสีย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ในปีนี้ ในมุมมองของเรา TCAP สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงจากการดำเนินงานหลัก
ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นจะเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันเหนือคู่แข่ง เราคาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต ที่ 8.2% ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 12.3% ในปี 59 นอกจากนี้จุดเด่นของหุ้นคือมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงที่ 5.3% Price Pattern ของ TCAP มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยหาก Price Pattern ของ TCAP สามารถปรับตัวขึ้นต่อและปิดตลาดในรายเดือนเหนือ 35 บาท ก็จะทำให้ Price Pattern ของ TCAP เปลี่ยนแนวโน้มหลักจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) สู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ทันที เนื่องจากจะทำให้ Price Pattern ของ TCAP กลับมาเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TCAP ที่ได้ปรับตัวขึ้นมาทดสอบเป้าหมายแรกที่ 33.25 บาทแล้ว หาก Price Pattern ของ TCAP ยังคงมีความแข็งแกร่งที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อต้องได้เห็นการ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 33.25 บาท ซึ่งหากทำได้ คาดว่า Price Pattern ของ TCAP น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเพื่อไปทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 36.50 บาทต่อไป (Resistance: 33.50, 33.75, 34.00; Support: 33.00, 32.75, 32.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
คาดปีนี้ โตอย่างน้อย 2.8% ก.คลังคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปีนี้อย่างน้อย 2.8% แต่การส่งออกที่แย่น่าจะฉุดคาดการณ์ให้ต่ำกว่าระดับ 3% ก่อนหน้านี้ โดยส่งออกน่าจะหดตัวอย่างน้อย 5% (Bangkok Post)
CAT เปิดแผนขยายกำลังการบริการ กสท.โทรคมนาคมกำลังยกร่างแผนใหม่สำหรับช่วง 5 ปี เพื่อจะเพิ่มความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศ (International Internet Gateway: IIG) อีก 6 เท่าสู่ระดับ 60 เทราบิตต่อวินาทีภายในปี 2020 จะนำไทยเป็นศูนย์กลางผู้ให้บริการเกตเวย์อินเตอร์เน็ตของอาเซียน (Bangkok Post)
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 30 ล้านคน สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมายังไทยในปีนี้จะถึง 30.3 ล้านคน หรือเติบโต 22% YoY ซึ่งมากกว่ากรมการท่องเที่ยวตั้งเป้าไว้ที่ 28.8 ล้านคน รายได้ท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 21% มาอยู่ที่ 1.42 ล้านล้านบาท มากกว่ากรมการท่องเที่ยวคาดการณ์ไว้ที่ 1.4 ล้านล้านบาทเล็กน้อย (Bangkok Post)
ผู้พัฒนาอสังหาให้โปรโมรชั่น ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางราย อาทิ บมจ. แสนสิริ ได้ส่งผ่านส่วนลดค่าธรรมเนียมการโอนให้แก่ลูกค้าผ่านการลดราคา ขณะที่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ใช้วิธีลดผ่านเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจ เพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาส 4/58 (The Nation)
KBANK (187.50 บาท) รายงานผลประกอบการไตรมาศ 3/58 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 11.9% QoQ และ 19.2% YoY (SET)
BBL (167.00 บาท) รายงานผลประกอบการไตรมาศ 3/58 ที่ 9.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% QoQ แต่ลดลง 5.4% YoY (SET) ความเห็น: ผลประกอบการเป็นไปตามประมาณการของเราแต่สูงกว่าประมาณการเฉลี่ย Bloomberg เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 188.00 บาท
ต่างประเทศ :
ยอดสินเชื่อของธนาคารที่แข็งแกร่งอาจทำให้อีซีบีชะลอการตัดสินใจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คณะมนตรีประศาสน์การของธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบีจะมีการประชุมในวันพฤหัสนี้และตลาดคาดว่าจะเน้นไปที่ความร่วมมือที่จะช่วยกระตุ้นเงินเฟ้อโดยการยืดมาตรการ QE ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันออกไป อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีเกี่ยวกับยอดสินเชื่อธนาคารในยูโรโซนจากธนาคารกลางยุโรปซึ่งอาจลดความจำเป็นเร่งด่วนในการออกมาตรการเร่งด่วน (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันเมื่อวันอังคาร จากข้อมูลที่แข็งแกร่งแสดงให้เห็นว่าธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นกลุ่มที่มีอนาคตสดใสในภาวะเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ล่าสุดลดลง 12/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.07% (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทลดลงเมื่อวันอังคาร จากความกังวลเกี่ยวกับราคายาส่งผลลบต่อบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพและเฮลท์แคร์ หุ้นไอบีเอ็มมีน้ำหนักต่อตลาดเช่นกันหลังจากที่รายงานผลประกอบการต่ำกว่าที่คาดมากและได้ปรับลดประมาณการกำไรทั้งปี ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นหลังจากบริษัท United Technologies และ Verizon รายงานรายรับและกำไรดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ (Reuters)
จำนวนบ้านในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงในเดือนก.ย. จากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นสำหรับอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าซึ่งเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพแม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม ยอดขายบ้านสร้างใหม่เพิ่มขึ้น 6.5% ในเดือนก่อนอยู่ที่จำนวน 1.21 ล้านยูนิตต่อปี สูงกว่าประมาณการที่ 1.15 ล้านยูนิตต่อปี (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปร่วงในวันอังคาร 5 สัปดาห์ ไปเมื่อวันจันทร์ โดยที่หุ้นพลังงานร่วงต่อ แต่หุ้นเทคโนโลยีชีวภาพ Actelion พุ่งขึ้นหลังแถลงปรับเป้าทำกำไรขึ้น นักลงทุนถือโอกาสขายทำกำไร หลังจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะทำให้ตลาดเดินหน้าต่อ จุดสนใจยังอยู่ที่ผลประกอบการ บจ.ของสหรัฐและการประชุมกำหนดนโยบายของ ECB ในวันพฤหัส (Reuters)
ธนาคารยุโรปผ่อนคลายความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเกินคาดในไตรมาส 3 บรรดาธนาคารในยุโรปผ่อนคลายเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อโดยนำเอกสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากมาตรการ QE 6 หมื่นล้านยูโรมาแข่งกันปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า จากรายงานสำรวจความเห็นของ ECB ในวันอังคาร 4% ของธนาคาร 141 แห่งที่ส่งแบบสอบถามให้ ECB ดำเนินการผ่อนคลายเงื่อนไขเงินกู้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่ ECB คาดไว้ 3 เดือนก่อนหน้า โดยที่คาดว่าการผ่อนคลายจะยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาส 4 (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรป ขยับขึ้นในวันอังคาร จากผฃสำรวจการปล่อยสินเชื่อธนาคารในยุโรปของ ECB พันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 2 จุด มาอยู่ที่ 0.59% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรปส่วนใหญ่ขยับขึ้น (Reuters)
เอเชีย :
การเติบโตของการส่งออกญี่ปุ่นช้าสุดนับตั้งแต่ ส.ค. 58 มูลค่าการส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.6% YoY ในเดือน ก.ย. เติบโตในอัตราที่ช้าลงเทียบกับเดือนก่อนหน้าสะท้อนการชลอตัวของจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ สำหรับการเติบโตทั้งปี นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะต่ำกว่า 3.4% หลังในเดือน ส.ค. เติบโต 3.1% สำหรับมูลค่าการนำเข้าลดลง 11.1% นับตั้งแต่ต้นปีถึงเดือน ก.ย. เทียบกับค่ากลางซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าลดลง 11.7% ทำให้ดุลการค้าขาดดุล 114.5 พันล้านเยน (955.60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเกินดุลที่ 84.4 พันล้านเยน (Reuters)
ปธน. จีน สี จิ้นผิง เดินทางเยือนอังกฤษเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยนายกฯ อังกฤษ David Cameron หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความที่อังกฤษเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นมากที่สุดของจีนในบรรดาประเทศแถบตะวันตกจะช่วยเกื้อหนุนอังกฤษได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึงข้อตกลงการลงทุนในหลากหลายภาคส่วนมูลค่ารวมกว่า 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นต้น (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ดอลลาร์กลับมาอ่อนหนุนทอง ทองคำตลาดจรบวก 5.40 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 1,175.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นการบวกครั้งแรกในช่วง 4 วันนี้ เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร ค่าเงินโดยรวมปรับขึ้นเพราะรายงาน ECB ที่ระบุว่าธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนได้ผ่อนคลายเงื่อนไขการปล่อยกู้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามากกว่าที่คาด (Reuters)
น้ำมันรอดูตัวเลขสหรัฐ NYMEX ลบ 34 เซนต์ปิดที่ 45.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะนักลงทุนรอข้อมูลสต็อกสหรัฐที่จะออกมาในวันนี้ Brent ขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คาดกันว่าตัวเลข EIA จะรายสัปดาห์สิ้นสุด 16 ต.ค. จะชี้ว่าสต็อกน้ำมันสหรัฐจะเพิ่ม 3.9 ล้านบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094