- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 October 2015 17:34
- Hits: 1208
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังผันผวนแต่ก็ทรงตัวได้ดี คาดใกล้ลุ้นดีดขึ้นตามเป้า
กลยุทธ์ : หลังจาก SET ปรับพักตัวติดต่อกันมา 2 วันเศษแล้วเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้แกว่งทรงตัวได้ ขณะที่นักลงทุนยังมีความหวังกับโอกาสในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมทั้งของจีนและยุโรปอยู่ และ FSS ก็คาดว่ากรอบลบของ SET ช่วงนี้น่าจะค่อนข้างจำกัด ก่อนลุ้นแกว่งขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายที่คาดไว้ ดังนั้นเรายังแนะนำซื้อลบ เพื่อถือรอขายตามเป้าต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : PIMO, TGCI, TICON(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังแกว่งทรงตัวต่อเนื่อง และเน้นหนักทางด้านบวกได้ดีขึ้นกว่าวันก่อนหน้าพอควร ถึงแม้ว่าจะยังผันผวนและมีแรงขายกดดันอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าแรงซื้อยังต่อเนื่อง โดยแรงซื้อส่วนหนึ่งยังเป็นการเก็งกำไรเกี่ยวกับผลประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้(22 ต.ค.) ด้วย แต่อาจมีแรงกดดันบ้างในวันนี้หลังมีความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ECB บางคนระบุว่าอาจจะยังไม่มี QE เพิ่มเติมจาก ECB ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนยังปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการที่ IBM เปิดเผยรายได้ที่ยังปรับตัวลดลงติดต่อกันถึง 14 ไตรมาสด้วย แต่ดัชนีดาวโจนส์ปรับลงไม่รุนแรงนัก เพราะตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน ก.ย.ของสหรัฐยังปรับสูงขึ้นกว่าคาดได้อยู่ ขณะที่ความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับผลประชุม ECB ก็ยังมีอยู่ และตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ยังเปิดเป็นบวกกันได้หลายแห่ง ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบลบของ SET ช่วงนี้จะยังค่อนข้างจำกัด และในช่วง 2 เดือนท้ายปีนี้ SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานของปีที่เราประเมินไว้แถว 1450 จุดได้ตามคาด
แนวรับ 1416-1415 , 1413-1410 จุด
แนวต้าน 1424-1430 , 1433-1436 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$221 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$172 ล้าน และเกาหลีใต้ US$46 ล้าน แต่ไหลออกฟิลิปปินส์ประเทศเดียวที่ US$13.9 ล้าน ทิศทางกระแสเงินทุนเป็นบวก เนื่องจากการประชุม Fed ในช่วงปลายเดือน ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นสินทรัพย์เสี่ยงจะยังดึงดูดเงินลงทุนแต่ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีน สหรัฐ รวมถึงผลประกอบการต่างๆด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่พ้นจากการชะลอตัว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กำไรโดยรวมของแบงก์ใหญ่ใน 3Q15 น้อยกว่าคาดเล็กน้อย โดยกำไรของแบงก์ใหญ่ ยังไม่รวม KTB และ BAY ลดลง 11% Q-Q และ 18% Y-Y จากการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาด แต่การบริหารรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมยังทำได้ดี ส่วนแบงก์เช่าซื้อ กำไรดีกว่าคาด -1.9% Q-Q และ -1.7% Y-Y หลายแห่งมีรายการพิเศษที่เป็นตัวบวกเข้ามาหักล้างค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูง พัฒนาการที่ดีขึ้นคือ NPL ลดลงซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว ในกลุ่มนี้เราชอบ TISCO (เป้าหมายปีหน้า 42.70 บาท) และเริ่มชอบ TCAP (เป้าหมายปีหน้า 43 บาท) เพิ่มอีกหนึ่งหลักทรัพย์
(0) KBANK กำไรน้อยกว่าคาด -12% Q-Q, -19% Y-Y จากการตั้งสำรองฯมากกว่าคาดเพื่อรองรับ NPL ที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.62% จาก 2.39% ในไตรมาสก่อน ขณะเดียวกัน สินเชื่อก็ชะลอกว่าคาด +0.7% QTD, +3% YTD อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้ -5% Y-Y ปีหน้า +3% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 225 บาท
(+) BBL กำไรใกล้เคียงคาด แต่กำไรก่อนสำรองน่าประทับใจ สำหรับ NPL เพิ่มขึ้นตามอุตสาหกรรม แต่เงินสำรองยังแกร่งเลยไม่กังวล ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 195 บาท
(+) SVI เราคาดกำไรปกติ 3Q15 ทำจุดสูงสุดของปี +18.6% Q-Q, +25.4% Y-Y จากค่าเงินบาทอ่อนค่าและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น แนวโน้มกำไรปกติจะแผ่วลงใน 4Q15 ตามฤดูกาล ทั้งนี้เราคาดว่าการแก้ปัญหาคอขวดในสายการผลิตจะแล้วเสร็จใน 2Q16 เพื่อเพิ่มการใช้กำลังการผลิตให้ได้เต็มที่ ซึ่งจะหนุนรายได้และกำไรในปีหน้า เราคาดกำไรปกติปีหน้า +25% Y-Y ยังไม่ได้รวม Upside จากแผนเข้าซื้อกิจการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 6.40 บาท
(+) BECL เราคาดกำไรสุทธิ 3Q15 +7% Q-Q, -13% Y-Y เป็น 665 ล้านบาท เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น บวกกับปริมาณการจราจรถูกกระทบจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ในเดือนส.ค. ทำให้การเติบโตของปริมาณจราจรในเขตเมืองทำได้เพียงทรงตัว Y-Y แม้อัตราการเติบโตของกำไรปกติจะต่ำ เฉลี่ย 3.4% ต่อปีในปี 2015-16 แต่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวรวมควบรวมกิจการกับ BMCL ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีนี้ 47 บาท
(+) PLANB เราคาดกำไร 3Q15 ชะลอลง 17% Q-Q จาก Gross margin เฉลี่ยลดลง เพราะรายได้รับรู้เพิ่มจาก Hello ซึ่งมี Gross margin ต่ำกว่าสื่อหลักเดิม แต่กำไรยังเพิ่มสูง 176% Y-Y เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้โต 104% Y-Y และอีก 36% Y-Y ในปีหน้า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 7.10 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ปิดในแดนลบเล็กน้อย โดยนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจภาคอสังหาฯที่ออกมากระจัดกระจาย
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดแดนลบเช่นกัน โดยตลาดกลับมากังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง รวมถึงจับตาดูการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นหลังตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นปิดในกรอบแคบ
(0) ค่าเงินบาทโดยภาพรวมยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.30-35.40 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 45.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.34 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดน้ำมันยังอยู่ในภาวะ Oversupply โดยยังจะมีกำลังการผลิตจากอิหร่านเข้ามาเพิ่มเติม
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,177.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ รวมถึงสัญญาณจาก FED ในเรื่องเงื่อนเวลาในการขึ้นดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 3Q15
21 ต.ค. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
22-ต.ค. - ไทย: PTTEP ประกาศผลประกอบการ 3Q15
- อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Dussehra
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
23-ต.ค. - ไทย: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
26-ต.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)
26-27 ต.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
28-ต.ค. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินทนค้าคงทน (ก.ย.), S&P/Case-Shiller (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch