- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 October 2015 17:37
- Hits: 1000
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET พักตัวแต่กรอบลบจำกัด และลุ้นขึ้นถึงเป้า 1450 จุดได้
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET ยังมีกรอบปรับพักตัวลงค่อนข้างจำกัด และยังมีลุ้นโอกาสแกว่งไต่ระดับขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้ที่ FSS ประเมินไว้แถว 1450 จุดได้ตามคาด ดังนั้นยังถือไว้รอขายได้ แต่เนื่องจาก upside เริ่มจำกัด ถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อช่วงนี้จึงแนะนำเพียงเทรดดิ้งช่วงสั้นเท่านั้น
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BCP, RS, MAJOR(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET มีจังหวะปรับพักตัวลงมาเคลื่อนไหวในด้านลบและปิดเป็นลบไปพอควร หลังจากช่วงเช้าดัชนีขยับขึ้นต่อเนื่องขึ้นไปทำจุดสูงสุดของรอบนี้ไว้ที่ 1429.54 จุด โดยคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลัง SET พลิกกลับขึ้นมาแกว่งบวกต่อเนื่องได้แรงกว่า 6% นับตั้งแต่ต้นเดือนเป็นต้นมา ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจจีนที่อาจจะกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชียได้ โดยยังต้องรอจับตาดูตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2015 ของจีนในวันนี้(19 ต.ค.) อีกครั้ง เพราะหลายฝ่ายคาดว่า GDP ของจีนอาจจะโตต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในงวดนี้ ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียยังแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนและหลายแห่งยังมีจังหวะปรับพักตัวลงด้วยเช่นกัน ทำให้อาจกดดัน SET ให้ยังมีจังหวะเป็นลบได้อีก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปลายสัปดาห์ก่อนยังปิดบวกได้ดี แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนไปบ้าง เนื่องจากนักลงทุนยังหวังว่าการประชุม ECB ปลายสัปดาห์นี้(22 ต.ค.) อาจจะมี QE เพิ่มเติม ดังนั้น FSS ยังคาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งไต่ระดับขึ้นไปหาระดับดัชนีตามพื้นฐานของปีนี้ที่เราประเมินไว้แถว 1450 จุดได้ต่อไป
แนวรับ 1416-1413 , 1410-1404 จุด
แนวต้าน 1423-1426 , 1430-1433 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$75 ล้าน ส่วนใหญ่เป็นการไหลออกจากเกาหลีใต้ US$211.9 ล้าน แต่ยังไหลเข้าต่อเนื่องในไต้หวัน US$140.1 ล้าน และ ไทย US$23 ล้าน กระแสเงินทุนยังมีความผันผวน ท่ามกลางความกังวลต่อตัวเลขเศรษฐกิจ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่มีความหวังมากขึ้นว่า Fed จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) จับตา GDP จีนวันนี้และการประชุม ECB อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของฝั่งยูโรโซนเดือน ก.ย. ติดลบ 0.1% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.8% ห่างไกลเป้าที่ 2% อย่างมากเป็นระยะเวลานานทำให้ตลาดคาดหวังกับ QE ของ ECB ถ้ามี จะเป็นบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม จีนจะประกาศ GDP 3Q15 จันทร์หน้า ตลาดคาด +6.8% โตต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรก ซึ่งจะกดดันราคา Commodity โดยเฉพาะน้ำมันที่อิหร่านกำลังเริ่มทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามกับชาติมหาอำนาจไปเมื่อ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา
(+) ก.คมนาคมเตรียมเสนอแผนงานระบบรางเข้าครม.พรุ่งนี้ และทยอยเสนอแผนขับเคลื่อนเมกะโปรเจ็คท์ทั้ง 20 โครงการเข้าครม.ต่อเนื่องใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า หากมีความชัดเจนเกิดขึ้น ย่อมเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มรับเหมา กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มธนาคาร เช่น CK, ITD, STEC, UNIQ, CNT, NWR, SCC, PYLON, SEAFCO, SCP, DCON, KTB, KBANK
(0) กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการครบต้นสัปดาห์ ตามด้วยกลุ่มน้ำมัน หากกำไของธนาคารแย่น้อยกว่าคาด จะเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้นต่อไปได้ในระยะสั้นเหมือน TISCO อย่างไรก็ตาม หากภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่ชัดเจน ราคาหุ้นมีโอกาสปรับฐานแม้ Valuations จะถูกแล้วก็ตาม เรายังคงมอง KBANK (เป้าหมายปีหน้า 225 บาท) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของกลุ่มตอนนี้ นอกจากนี้ วันที่ 22 ต.ค. PTTEP จะรายงานผลประกอบการซึ่งตลาดคาดขาดทุนสุทธิ 2.3-2.8 พันล้านบาท มีโอกาสต่ำกว่าคาดหากบริษัทตัดสินใจตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ของโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นรายการทางบัญชี ราคาหุ้นมีแนวโน้ม underperform ต่อจากราคาน้ำมันไม่หนุนและรายการพิเศษดังกล่าว ทางเลือกที่ดีกว่าคือ PTTGC และ INTUCH
(+) TRUE เราคาดกำไรปกติ 3Q15 ดีขึ้นเป็นลำดับจาก 32 ล้านบาทใน 2Q15 เป็น 434 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายเสา 800-900 ต้านเข้ากองทุน DIF ทำให้คาดกำไรสุทธิ 1,284 ล้านบาท -1% Q-Q เราปรับลดกำไรปกติปีนี้เหลือ 1,790 ล้านบาทจากต้นทุนที่สูงกว่าคาด ขณะที่ปี 2016 คาดโต 174% Y-Y เป็น 4,905 ล้านบาท ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 12 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
(0) BJC เราคาดกำไรสุทธิ 3Q15 จะโดดเด่นจากรายการพิเศษ แต่กำไรปกติคาดโตเพียง 2.4% Q-Q และ 2.4% Y-Y จากธุรกิจ Consumer ที่มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายสูง แนวโน้มกำไรปกติ 4Q15 จะทำจุดสูงสุดของปีตามฤดูกาล เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2015 +4.8% Y-Y และ +16% Y-Y ในปี 2016 ไม่รวมดีล M&A เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 39 บาท แต่ราคาหุ้นที่ขึ้นมาเร็วทำให้ลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นถือ
(+) กลุ่มที่คาดว่ากำไรใน 3Q15 จะทำ new high ในรอบกว่า 5 ปีได้แก่ BH, BIG, CSS, EPG, FSMART, LIT, KCE, MTLS, TASCO
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังปิดบวกได้ต่อเนื่องโดยตอบรับเชิงบวกกับข้อมูลเศรษฐกิจกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมา
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนบวกได้เช่นกันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นรวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ทำให้นักลงทุนเบนความสนใจออกจากเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัวผสมโดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลข GDP 3Q15 ของจีนเช้านี้
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.20-35.35 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 47.26 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง Baker Hughes เปิดเผยข้อมูลว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯปรับตัดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,183.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น แต่ภาพรวมรอบสัปดาห์ยังปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังเรื่อง FED ที่อาจเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 3Q15
19 ต.ค. - ไทย: DTAC ประกาศผลประกอบการ 3Q15
- จีน: 3Q15 GDP, Industrial Production (ก.ย.), ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
20 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.ย.), Fed's Dudley and Powell Speak at Market Conference in New York
21 ต.ค. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
22-ต.ค. - ไทย: PTTEP ประกาศผลประกอบการ 3Q15
- อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Dussehra
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
23-ต.ค. - ไทย: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
26-ต.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch