- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 October 2015 18:32
- Hits: 986
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ขึ้นถึงเป้า 1450 จุดเร็วกว่าคาด แต่แนะแค่ถือรอขาย
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังมีลุ้นโอกาสแกว่งบวกขึ้นต่อได้อีก และมีสิทธิที่จะขึ้นถึงระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้ที่ FSS ประเมินไว้แถว 1450 จุดได้เร็วกว่าคาด แต่เนื่องจาก upside เริ่มจำกัด ดังนั้นถ้าจะซื้อเพื่อเทรดดิ้งต่อก็ต้องเน้นทำกำไรไวเพื่อลดความเสี่ยง โดยเราแนะนำเพียงถือเพื่อรอขายมากกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : THAI, PLE, SGP(short)
แนวโน้ม : SET พลิกกลับขึ้นมาแกว่งบวกต่อเนื่องได้แรง และเข้าใกล้ระดับดัชนีเป้าหมายปีนี้ที่ FSS ประเมินไว้ที่ 1450 จุดได้เร็วกว่าคาด ถึงแม้ว่านักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐก็ยังพอช่วยหนุนความมั่นใจได้บ้าง ขณะที่หลายฝ่ายค่อนข้างเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปช่วงปลายเดือนนี้ และตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ส่วนใหญ่ก็ขยับบวกได้ดีเป็นแรงหนุน รวมทั้งค่าเงินบาทก็เริ่มแข็งค่ามาพักใหญ่ พร้อมทั้งแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในบ้านเราที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องอยู่ และล่าสุดเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ก็ยังปิดบวกได้ดี โดยได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยกำไรพุ่งขึ้นกว่า 50% ในไตรมาส 3 และตัวเลขจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี แต่นักลงทุนก็ยังมั่นใจว่าเฟดจะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป หนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังเปิดบวกต่อ และมีแนวโน้มจะช่วยผลักดันให้ SET บวกต่อได้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจาก SET เริ่มเข้าใกล้ระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้แล้ว ดังนั้นเราแนะนำให้ถือเพื่อรอขายเท่านั้น
แนวรับ 1422-1418 , 1415-1410 จุด
แนวต้าน 1427-1430 , 1435-1445 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$398 ล้าน ส่วนมากไหลเข้าไต้หวัน US$322.7 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$50.9 ล้าน และไทย US$26 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหลังสหรัฐเปิดเผยรายงานจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 40 ปีสะท้อนตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่งและผลประกอบการกลุ่มธนาคารในสหรัฐที่ดีเกินคาด ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นรวดเร็วล่าสุดอยู่ที่ 35.26 บาทต่อดอลลาร์
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กระแสเงินทุนยังมีโมเมนตัมไหลเข้าต่อ แต่ระวังผันผวนปลายเดือน เงินบาทที่เริ่มแข็งค่าตั้งแต่ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเพิ่มน้อยกว่าคาด ล่าสุดเงินบาททะลุโลว์เดิม ทำให้กระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาตั้งแต่ต้นเดือน น่าจะมีต่อเนื่อง ที่น่าสังเกตุคือเพียงแค่ 15 วันแรกของเดือน ต.ค. ต่างชาติซื้อตราสารหนี้ถึง 69,132 ล้านบาท (ส่วนใหญ่ซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น ทำให้เรายังไม่ได้สบายใจมากนัก) หักล้างยอดในงวด 9 เดือนแรกที่เป็นขายสุทธิ 48,975 ล้านบาท ได้หมด หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานและยัง laggard น่าจะเก็งกำไรระยะสั้นได้ เช่น SCC, KTB, BBL, SCB, BDMS แต่ต้องระวังความผันผวนในช่วงปลายเดือนที่ Fed จะประชุมอีกครั้ง
(0) จับตา GDP จีนจันทร์หน้าและ ECB ประชุม ด้วยอัตราเงินเฟ้อของฝั่งยูโรโซนที่ห่างไกลเป้าที่ 2% อย่างมากเป็นระยะเวลานานทำให้ตลาดจับตาว่าจะมี QE เพิ่มเติมหรือไม่ ถ้ามี จะเป็นบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม จีนจะประกาศ GDP 3Q15 จันทร์หน้า คาดการณ์กันว่าจะโตต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรก ซึ่งจะกดดันราคา Commodity โดยเฉพาะน้ำมัน
(+) COM7 ได้รับประโยชน์จาก iPhone6s ที่จะเริ่มวางขาย 30 ต.ค.นี้ เพราะมีสาขา iStudio และ iBeat ราว 100 สาขา มากที่สุดในประเทศ ซึ่งจะทำให้กำไร 4Q15 เติบโตโดดเด่นและเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี แม้แนวโน้มกำไร 3Q15 จะชะลอตัวจากไตรมาสก่อนเพราะเป็นช่วง Low season แต่คาดว่าจะโตโดดเด่น Y-Y จากฐานต่ำในปีก่อน เรายังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 27.8% Y-Y ขณะที่การประมูล 4G ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถืออีกครั้งและเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในอนาคต แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีนี้ 4.46 บาท
(+) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกำลังจะมา รมว.คมนาคมเร่งรัดให้ความชัดเจนของโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้ง 20 โครงการต้องเกิดขึ้นไม่เกินต้นปี 2016 และเตรียมเสนอรายละเอียดพร้อมงบประมาณให้ครม.เห็นชอบในวันที่ 3 พ.ย. นี้ หากโครงการเหล่านี้เกิด แน่นอนว่าเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง เช่น CK, ITD, STEC, UNIQ, CNT, NWR, SCC, PYLON, SEAFCO, SCP, DCON และกลุ่มธนาคาร
(0) กลุ่มแบงก์ประกาศงบสัปดาห์หน้า กำไร 3Q15 น่าจะเป็นกำไรที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ไตรมาส โดยคาดว่าจะลดลง 11% Q-Q และ 16% Y-Y (ไม่รวม TISCO ที่ประกาศแล้ว) แม้ว่าราคาหุ้นจะรับรู้ไปมากแล้ว แต่ยังมีโอกาสผันผวนในระยะข้างหน้าจากผลการดำเนินงานที่ยังไม่สดใน 4Q15 การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้อยู่บนความคาดหวังของเศรษฐกิจในปี 2016 บนความเสี่ยงและความหวังดังกล่าว เราเชื่อว่า KBANK (ราคาเป้าหมายปีหน้า 225 บาท) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของกลุ่มตอนนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมากลับมาปิดบวกได้กว่า 1% โดยตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่อ่อนแอหนุนให้ FED อาจเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ค่อนข้างแรงเช่นกันขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ รวมถึงกระแสคาดการณ์เรื่องการเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยของ FED
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสขึ้น
(+) ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งทรงตัวหลังแข็งค่าแรงในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.12-35.35 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 46.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลง 0.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,187.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ดีขึ้น รวมถึงคาดการณ์ที่ FED อาจเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16-ต.ค. - ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
19-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 3Q15
19 ต.ค. - ไทย: DTAC ประกาศผลประกอบการ 3Q15
- จีน: 3Q15 GDP, Industrial Production (ก.ย.), ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
20 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.ย.), Fed's Dudley and Powell Speak at Market Conference in New York
21 ต.ค. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
22-ต.ค. - อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Dussehra
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
23-ต.ค. - ไทย: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
26-ต.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch
