- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 October 2015 16:12
- Hits: 960
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -157.14, NASDAQ -13.76, S&P -9.45, FTSE -72.67, CAC -34.35 และ DAX -116.97 ภายใต้ปัจจัยลบ(1) วอลมาร์ท สโตร์ อิงค์ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศปรับลดแนวโน้มยอดขายในปีนี้ (2) เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยรายได้ – 3Q/58 ลดลงสู่ระดับ 2.354 หมื่นล้านUSD จากภาวะผันผวนในตลาด และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ(3) รายงาน Beige Book ของเฟด ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคของสหรัฐฯ มีการขยายตัวเพียงเล็กน้อยในช่วงกลางสค. - ต้นตค. ภายใต้เงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และ (4) ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ เช่น ยอดค้าปลีก – กย. เพิ่มขึ้น 0.1% น้อยกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) – กย. ลดลง 0.5%MoM ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนอาจชะลอตัวลงอีก และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน – สค. ลดลง 0.5%MoM จากภาคพลังงานและภาคสินค้าทุน นอกจากนี้เยอรมนีประกาศปรับลดคาดการณ์ GDP ปี’58 จากเดิม 1.8% (เมื่อเมย. ที่ผ่านมา) เป็น 1.7% ผลกระทบจากเศรษฐกิจของจีนและตลาดเกิดใหม่ที่ชะลอตัวลงมากกว่าคาด
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. -US$0.02 อยู่ที่ US$46.64 ต่อบาร์เรล ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอยู่ระหว่างรอสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบ ขณะที่ยังคงมีความกังวลภาวะอุปทานส่วนเกิน ขณะที่ก่อนหน้านี้โอเปกเปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโอเปก - กย. เพิ่มขึ้น 109,000 บาร์เรล สู่ระดับเฉลี่ย 31.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ปี’55
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$14.4 อยู่ที่ US$1,179.8 ต่อออนซ์ จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างต้น และเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง กระตุ้นซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -924 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -102,275 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
(+) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม - กย. อยู่ที่ 82.8 เพิ่มจาก 82.4 เมื่อสค. โดยเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 102.6 เพิ่มขึ้นจาก 102.0 เมื่อสค. และเป็นระดับสูงสุด ในรอบ 10 เดือน
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ผันผวน? ภายใต้ปัจจัยต่างประเทศหลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดอ่อนแอ อย่างไรก็ตามอาจเป็นมุมมองในเชิงบวกและสนับสนุนต่อประเด็นที่เฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้คาดยังได้รับปัจจัยลบจากประเด็นเดิมโดยเฉพาะความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่ค้า อย่างไรก็ตามแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม? หลังที่ผ่านมาจีนพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
…..ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ คาดอาจได้รับปัจจัยลบเข้ามาบ้างจาก (1) Fund Flow ที่ต่างชาติกลับมาขายสุทธิต่อเนื่อง ด้วยมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท อย่างไรก็ตามอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่ ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าจากช่วงสัปดาห์ก่อน (เคลื่อนไหวในช่วง 36.50 บาท) คาดในระยะสั้น Fund Flow ยังไหลเข้ามาได้บ้าง และ (2) กลุ่มพลังงาน ที่ได้รับปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลง
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.15– 35.17 แข็งค่าขึ้นจากช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 36.50 บาท (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ12/11/58 (จากเดิม 15/12/58) ตามลำดับ และ (7) เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/58 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร ประมาณกลางเดือนนี้ คาดอาจกดดันภาพรวมตลาดฯ ภายใต้ความกังวลปัญหา NPL’s
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.07 อยู่ที่ 1.98% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.36 อยู่ที่ 18.03
หุ้นแนะนำ : UNIQ
ประเด็นที่ต้องติดตาม (15 - 19 ตค.’58)
15/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - กย. (2) ดัชนีการผลิต (Empire State Index) - ตค. (3) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน(4) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - ตค.
16/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) การผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต - กย. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น- ตค.(3) เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติ - สค.19/10/58 : จีน เปิดเผย GDP – 3Q/58 (คาดว่าขยายตัว 6.8% ซึ่งคาดเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ 1Q/52)
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788